เกาะร้างที่เซิ่งอันหรานอยู่ ไม่ใหญ่หรือเล็กมากจนเกินไป มีป่าทึบ มีภูเขาลึก บริเวณที่เธอกำลังอยู่นั้น อยู่ตรงใจกลางของเกาะ และอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของป่า ถ้าไม่รู้เครื่องหมายพิเศษบนเกาะ คนธรรมดาก็ออกไปไม่ได้
ทุกวันที่เกาชุ่ยคุยกับชายอ้วนคนนั้น เซิ่งอันหรานจะนำข้อมูลที่ได้มาวิเคาระห์หาเส้นทางออกจากเกาะ เธอเป็นแค่เป็ดตัวหนึ่ง ถ้าหากต้องพึ่งพาตัวเองล่ะก็ คงจะไม่มีทางอื่นนอกจากการนั่งเรือออกไป
"ขอบคุณนะพี่อ้วน"
เมื่อเกาชุ่ยรับอาหารเย็นจากนอกหน้าต่างแล้ว เธอจึงเดินยกไปให้เซิ่งอันหราน เมื่อเห็นว่าเซิ่งอันหรานใช้กิ่งไม้วาดรูปร่างแปลก ๆ อยู่บนพื้น เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถาม“นี่อะไร?”
"แผนที่ "
เซิ่งอันหรานลดเสียงของเธอ กิ่งไม้ชี้ไปที่ตำแหน่งตรงกลาง
“เราน่าจะอยู่ตรงนี้ พวกเราขึ้นฝั่งจากฝั่งตะวันออกของเกาะ ก็คือตรงนี้ ทั้งสี่ทิศจะมีคนคอยลาดตระเวนอยู่ทุกวัน มีเฉพาะทิศตะวันตกเท่านั้นที่คนจะกลับเข้ามาช้าที่สุด ดังนั้น ฝั่งทิศตะวันตกน่าจะอยู่ไกลที่สุด ลูกของชายอ้วนคนนั้น แปดสิบถึงเก้าเปอร์เซ็นน่าจะอาศัยอยู่ทางทิศตะวันตก"
“พี่วิเคราะห์จากอะไร” เกาชุ่ยดูงงงวย “ตอนที่พี่มาที่นี่ พี่ถูกมัดใส่ในกระสอบ แถมยังหมดสติมิใช่เหรอ ?”
“ก็แค่มึนๆ แต่ก็ยังมีสติสัมปชัญญะอยู่บ้าง ตามที่เธอบอกฉัน และสถานการณ์ของคนที่ลาดตระเวนเปลี่ยนกะในทุกๆวัน คิดว่าน่าจะใกล้เคียงกับที่ฉันเดาไว้”
“น่าทึ่งมาก” เกาชุ่ยเหลือบมองเธอด้วยความชื่นชม เธอนั่งลงบนเตียง กัดหมั่นโถวแห้งๆ แล้วพูดอย่างคลุมเครือ
“แต่พี่อ้วนไม่ได้บอกฉันเกี่ยวกับลูกของเขา และเขาไม่ได้ถามฉันเกี่ยวกับของเล่นนั่นเลย ถ้าหากเขาต้องการเข้าไปในเมืองด้วยตัวเองจริงๆล่ะ พี่จะว่ายังไง ? ”
เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว “ไปในเมืองได้ยิ่งดี ยิ่งพวกเขาออกไปมากเท่าไหร่ โอกาสที่ตำรวจจะพบพวกเขาก็มีมากขึ้น และโอกาสที่เราจะได้รับการช่วยเหลือก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก”
ไม่ว่าผลของเรื่องนี้จะเป็นยังไง มันก็ดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ
จู่ๆก็มีเสียงข้างนอกดังขึ้น คนเดินลาดตระเวนกลับเข้ามาเปลี่ยนกะ
เกาชุ่ยเกือบจะสำลักหมั่นโถว ใบหน้าของเธอซีดเซียว
เมื่อเซิ่งอันหรานเห็นดังนั้น เธอจึงรีบรินน้ำให้กับเกาชุ่ยอย่างเงียบๆ
ไม่นานจากนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ชายฉกรรจ์ผู้แข็งแกร่งสองคนซึ่งสูงระดับปานกลางเดินเข้ามาในห้อง ทันทีที่ทั้งสองเข้ามา พวกเขาก็เห็นเซิ่งอันหรานกำลังรินชา ดวงตาของพวกเขาร้อนผ่าวขึ้นในทันใด
“ทำอะไรน่ะ ?” เสียงของเกาชุ่ยดังขึ้นอย่างฉับพลันภายในห้องนั้น เสียงแหลมและทรงพลัง เธอวางชามกระเบื้องในมือของเธอลงบนตู้ที่ทรุดโทรมข้างเตียง 'โครม'
“เอ๊ะ พี่ชายแค่เหลือบมองผู้หญิงคนอื่น น้องสาวโกรธซะแล้ว”
“ชอบดูใครก็ดูไปเถอะ”
เกาชุ่ยจับเสื้อ และแสร้งทำเป็นรำคาญ “ถ้าชอบคนอื่น ก็อย่าเข้ามาในห้องนี้หรือเตียงของฉันอีก พาออกไปทำกันข้างนอกโน่น ”
ชายสองคนเหลือบมองเซิ่งอันหรานในเวลาเดียวกัน ทั้งคู่แสดงความรังเกียจเล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเกาชุ่ย ด้วยรอยยิ้มที่เฮฮาทันที
“เราสองคนไม่ได้ตาบอดนะ? จะทิ้งของมีค่าอย่างเธอไปหานังขี้เหร่นั่นได้ยังไง”
เมื่อได้ยินคำว่า 'นังขี้เหร่' เซิ่งอันหรานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าการที่เธอใช้ฝุ่นสีเทามาทาหน้ามันจะมีประโยชน์มาก ตั้งแต่ที่เธอถูกพาตัวมาบนเกาะ เธอก็ทนไม่อาบน้ำ เพื่อให้ร่างกายของตัวเองมีกลิ่นเหม็น และเธอก็ไม่จำเป็นต้องหลบอีกต่อไป คนเหล่านี้ไม่แตะต้องตัวเธอแน่
เมื่อเห็นชายสองคนเดินเข้ามา เกาชุ่ยก็เบนสายตายไปทางด้านข้าง และพูดอย่างโกรธเคืองว่า
“เมื่อวานนี้ฉันพูดว่าอย่างไร พวกพี่ลืมไปแล้วเหรอ ?”
ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูน่าสมเพชเช่นนี้ เขายังกล้าพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับคุณธรรมของแม่น้ำเจียงหูอีกหรือ จริง ๆ แล้วพวกเขาเป็นสัตว์เดรัจฉานต่างหาก
ผลจากการถกเถียงกัน สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎ มีเพียงชายหนึ่งคนเท่านั้นที่จะสามารถอยู่ในห้องนี้ได้ ทั้งเซิ่งอันหรานและชายที่ถูกเรียกว่าพี่เจ็ด ถูกบีบให้ออกไปจากห้อง พี่เจ็ดไม่สบอารมณ์ ด่าทอเสร็จก็เดินออกไป ในขณะที่เซิ่งอันหรานนั่งยอง ๆ ตามปกติอยู่ที่หน้าประตู
เธอไม่กล้าเดินไปไหน ส่วนชายอ้วนก็กำลังทำไม้อยู่ตรงลานหน้ากระท่อมอย่างใจจดใจจ่อ แต่ในทุกๆการเคลื่อนของสิ่งที่อยู่รอบข้าง ก็ยังคงอยู่ในสายตาของเขา
ขณะที่ในกระท่อมมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง จู่ๆประตูตรงลานทางด้านหน้าก็ถูกผลักเปิดออกจากทางด้านนอก เจ้าลิงผอมกลับมาแล้ว
ทันทีที่เข้ามา เจ้าลิงผอมเดินมุ่งหน้าไปหาชายอ้วนโดยตรง
“พี่อ้วน ฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่หน่อย”
ชายอ้วนชำเลืองมองเขา “ถ้าเป็นเรื่องออกจากเกาะชั่งมันเถอะ เดือนนี้ออกไปหลายครั้งแล้ว มากกว่านี้อาจจะเกิดเรื่องได้ ”
“จะเกิดเรื่องอะไรได้ล่ะ ?” เจ้าลิงผอมลดเสียงลง “มันน่าหงุดหงิดมากที่จะต้องเอาแต่อยู่บนเกาะนี้ ดังนั้นฉันก็แค่อยากออกไปเดินเล่นบ้าง ไม่ได้จะออกไปทำเรื่องอะไรสักหน่อย จะมีใครรู้ได้ยังไง? อีกอย่างพี่ไม่ต้องไปซื้อของให้หลานสาวพี่เหรอ ?”
ลานสนามหญ้าหน้ากระท่อมไม่ใหญ่มากนัก คำว่า 'หลานสาว' นั้น เซิ่งอันหรานได้ยินอย่างชัดเจน
ในเวลาเดียวกัน ชายอ้วนก็จ้องไปที่เจ้าลิงผอมด้วยท่าทางกังวล
“ฉัน...” เมื่อเจ้าลิงผอมเห็นเซิ่งอันหรานนั่งอยู่ที่ประตูหน้าห้อง เขาขมวดคิ้วและลดเสียงลง “พี่จะพาหลานสาวมาซ่อนไว้ที่นี่ตลอดไปไม่ได้นะ หรือพี่อยากจะให้เธออยู่บนเกาะนี้ไปตลอดชีวิต ? ยังไงซะมันก็ต้องมีสักวันที่พี่ต้องปล่อยเธอออกไปดูโลกภายนอก และเพื่อเป็นการเห็นแก่หน้าพี่สะใภ้ที่ล่วงลับไปแล้ว พี่หลงจะต้องชดเชยให้พี่อย่างแน่นอน ...”
“โครม” เสียงเลื่อยร่วงจากมือของชายอ้วน ชายอ้วนหน้าสีหน้าบูดบึ้งขึ้นทันที เขาจ้องไปที่เจ้าลิงผอมอย่างเย็นชา
หัวใจของเซิ่งอันหรานจู่ๆก็เต้นแรงขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน