“คงมีอะไรเข้าใจผิดกันใช่ไหม?ซูจิ้ง”
เซิ่งอันหรานกำลังพูดไกล่เกลี่ย และเธอก็ค่อนข้างไม่เชื่อว่าเกาจ้านจะทำเรื่องแบบนั้นได้จริงๆ
ถึงแม้ว่าเธอจะเข้าไปทำงานในเซิ่งถังได้ไม่นาน แต่ว่าชื่อเสียงของเกาจ้านในบริษัทนั้นดีมาก แม้ว่าเขาจะชอบยั่วยวนผู้หญิงแต่ก็ไม่เคยได้ยินข่าวเสียหายแบบนี้มาก่อน
“ฉันเห็นมากับตา กลัวว่าไอ้คนลามกนี่จะไม่ยอมรับ ฉันเลยถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย”
เมื่อเห็นเซิ่งอันหรานไม่เชื่อ ถานซูจิ้งจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และเปิดคลิปวิดีโอนั้นให้ทุกคนได้เห็น
ภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏอยู่ในคลิปคือเบาะนั่งหลังรถ BMW สีดำของพวกเขา ประตูรถถูกเปิดออก เกาจ้านกำลังสวมกอดผู้หญิงคนนั้นจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ฉากต่อมาก็ได้เห็นเกาจ้านกำลังถอดกางเกง และผู้หญิงคนนั้นก็ดิ้นรนพร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือว่า‘ช่วยด้วย’
เมื่อเห็นกางเกงของเกาจ้านกำลังจะหลุดลงมา
“นี่มัน……” เซิ่งอันหรานทนดูต่อไปไม่ไหว ก้มหน้าลงแล้วเอามือกุมหน้าผากไว้ มืออีกข้างก็ดันไปที่มือของถานซูจิ้ง กดเสียงต่ำแล้วพูดว่า “โอเคโอเค เก็บได้แล้ว”
“เฮ้ย นี่เธอยังเก็บคลิปวิดีโอนั้นไว้อีกหรอ?ลบเดี๋ยวนี้นะ”
เกาจ้านกระวนกระวายใจ แล้วก้าวเท้าเข้ามา “นี่เธอกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวของฉันนะ”
ถานซูจิ้งเลิกคิ้ว
“ใครละเมิดความเป็นส่วนตัวของนายกัน?ไอ้คนลามกบ้ากาม ถ้าไม่ได้ฉันเธอคนนั้นก็คงจะเสร็จนายไปแล้ว นายคิดว่านายมีเงินมีอำนาจแล้วจะไม่ถูกจับขังได้งั้นหรอ?ครั้งหน้าถ้าฉันเจอนายอีกฉันก็จะจัดการกับนาย”
“ยายผู้หญิงบ้า เธอพูดบ้าอะไรของเธอ ระวังฉันจะฟ้องหมิ่นประมาท……”
เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังจะเริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง เซิ่งอันหรานและอวี้หนานเฉิงต่างก็จับเพื่อนของตัวเองเอาไว้ให้ห่างออกจากกัน
“พอแล้วพอแล้ว ซูจิ้ง เธอพูดให้มันน้อยๆหน่อย”
เซิ่งอันหรานอึดอัดแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าคนอย่างเกาจ้านจะมีพฤติกรรมแบบนั้นจริง แต่ถึงอย่างไรต่อไปนี้ในบริษัทเธอกับเขาก็ยังคงต้องเจอกันตลอด ถ้าเกิดเขาถูกถานซูจิ้งต่อยขึ้นมาอีกครั้ง แล้วจะทำอย่างไร
“นั่นคือเผยโร่วแฟนสาวของอาจ้าน”
อวี้หนานเฉิงดึงแขนเกาจ้านเอาไว้ แล้วพูดอธิบายว่า “เธอไม่ใช่คนแปลกหน้า”
“แฟนหรอ?”
เซิ่งอันหรานตกใจเล็กน้อย บรรยากาศเริ่มคลี่คลายลง
“ก็แฟนนะสิ ไม่อย่างนั้นจะว่าฉันเป็นคนบ้าหรอ?ฉันจะไปบีบบังคับผู้หญิงแบบนั้นเพื่อจะให้เข้าคุกทำไมกัน?”เกาจ้านตะโกนใส่หน้าถานจิ้งซูด้วยความโกรธ “และอีกอย่างเรื่องนี้ฉันก็ไม่ได้เริ่มก่อน เผยโร่วเธอต้องการจะคิดบัญชีกับฉัน”
ทุกคนต่างงงงวย
เพื่อที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง เกาจ้านก็ได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อแสดงรูปถ่ายของแฟนสาวให้ทั้งสองคนได้ดู ทั้งยังต้องอธิบายเรื่องที่ไม่น่าเบิกบานใจเกี่ยวกับการเลิกลากับแฟนสาวอีก เพื่อที่จะมาพิสูจน์ถึงความบริสุทธิ์ของเรื่องนี้ได้
เหตุการณ์เริ่มต้นจากถานซูจิ้งเมื่อเธอออกมาจากสนามบินแล้วเดินมายังลานจอดรถ กำลังวางกระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ ก็ได้ยินเสียงดังมาจากรถตรงข้าม เป็นเสียงของผู้หญิงกำลังถูกทำร้าย เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายคลิปวิดีโอแล้วเดินตามเสียงไป จึงได้เห็นผู้หญิงกำลังถูกผู้ชาย‘ใช้กำลังบีบบังคับ’โดยร่างกาย
ทันใดนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มตะโกนขอความช่วยเหลือ ถานซูจิ้งไม่สามารถทนดูได้ที่จะไม่เข้าไปช่วยเหลือ จึงจัดการกับเกาจ้านจนเกือบตาย แล้วส่งเขาไปยังสำนักงานความปลอดภัย
และเหตุการณ์ต่อไปนี้เป็นคำให้การจากฝ่ายเกาจ้าน
“วันนี้ฉันเพิ่งกลับมาจากการทำงานต่างเมือง ก่อนจะไปทำงานฉันกับเผยโร่วได้เลิกลากัน เธอบอกว่ามีของจะให้ฉัน เธอเลยมารอรับฉันที่สนามบิน แต่ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆเธอก็เริ่มจู่โจมบนรถแบบนั้น แล้วหลังจากเธอเห็นผู้หญิงคนนี้เดินผ่านมาก็ตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือทันที ฉันคิดว่าเขาคงจะไม่พอใจที่ฉันบอกเลิกเธอ เธอเลยจงใจจะเล่นงานฉัน”
เซิ่งอันหรานพยักหน้า แล้วคิดพิจารณาดูแล้วก็ถูก ถ้าเกิดเกาจ้านทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ ใครจะเลือกเอาลานจอดรถสนามบินที่มีกล้องติดอยู่ทุกที่แบบนี้?
“ไม่แน่ว่าใครจะเริ่มก่อน ถึงจะบอกว่าเป็นแฟนเก่า นายก็คิดอยากจะมีอะไรกับเธอก่อนเลิกกันสินะ”
ถานซูจิ้งยังคงมีท่าทางที่ไม่เกรงใจ จ้องมองไปยังเกาจ้านอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“เธอ……”
“ไม่ใช่นะ เธออย่ามาพูดซี้ซั้ว ”
“แล้วเธอจะประหม่าทำไม?”ถานซูจิ้งถามเจาะลึก “เมื่อกี้ฉันก็ไม่ได้ถามอะไรเลยนะ เธอก็รีบเดินหนี มันต้องมีอะไรในใจแน่ๆ ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้?”
“ฉันกลัวว่าถ้าเธอพูดมากอะไรอีก หน้าที่การงานของฉันก็จะหายไปนะสิ ”
เซิ่งอันหรานจ้องมองไปยังเธอ “เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ยังไม่ทันจะรู้เรื่องอะไรชัดเจนเธอก็เริ่มลงมือก่อนแล้ว และสุดท้ายก็ให้ฉันตามไปเช็ดก้นให้ตลอด”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง” ถานซูจิ้งนั่งกอดอกอยู่บนเบาะด้านข้างคนขับ พร้อมกับพูดออกมาอย่างมีเลศนัย
“เธอยอมให้เขาดูแลซิงซิงน้อยได้ แสดงว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน”
“เธอคิดมากไปแล้ว เมื่อก่อนฉันเคยช่วยชีวิตลูกชายของเขาเอาไว้ เขาคงรู้สึกอยากจะขอบคุณฉันหล่ะมั้ง?”
“ไม่มีอะไรตอบแทนบุญคุณการช่วยชีวิตได้” ถานซูจิ้งเอามือมาลูบที่คางพลางทำท่าคิด “ปกติแล้วเหตุการณ์แบบนี้ มันก็ต้องใช้ตัวและหัวใจเพื่อมาตอบแทนสินะ”
“ฉันยอมกับความคิดของเธอจริงๆ”
เซิ่งอันหรานไม่พูดอะไรมาก เหลือบตามองบน “เหนื่อยที่จะพูดกับเธอแล้ว อยากจะเชื่อก็เชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ”
“ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นจริง แล้วถ้าเกิดฉันบอกว่าฉันชอบเขาหล่ะ ฉันจะตามจีบเขา?”
เมื่อเซิ่งอันหรานอันได้ยินเช่นนั้น หัวใจของเธอก็เต้นรัว และพูดพึมพำออกมา
“เธอชอบเธอก็ตามจีบเขาสิ แต่ฉันเตือนเอาไว้ก่อนนะ เขาเกิดมาพร้อมกับใบหน้าภูเขาน้ำแข็ง ฉันเกรงว่าเธอจะเอาความกระตือรือร้นของเธอไปแลกกับความเฉยชาของเขานะสิ และด้วยนิสัยเธอฉันว่าจะคงไม่พ้นวันเดียวเธอก็ยอมแพ้แล้ว”
ถานซูจิ้งสังเกตมองเธออย่างละเอียด ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเตือนใจที่ดีของเธอเลย ได้แต่กระพริบตามองเธออย่างจริงจังแล้วพูดว่า
“อันหราน จากการวิเคราะห์ทางจิตวิทยาเชิงพฤติกรรมแล้ว สองวินาทีที่เธอลังเลใจเมื่อกี้นี้ได้แสดงถึงการปฏิเสธ ต่อมาเธอก็หาข้ออ้างเพื่อปกปิดความในใจของตัวเอง เธอชอบเขาเข้าแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน