“หา? ฉัน... ฉันไม่ไป"
เมื่อคิดถึงการออกทะเล สายตาของเซิ่งอันหรานสัมผัสได้ถึงความรู้สึกต่อต้าน เธอโบกมืออย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฉันไปไม่ได้”
ทันทีที่เซิ่งอันหรานพูดจบ เธอก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างมาสะกิดที่แขนเสื้อ เซิ่งอันหรานก้มหน้าลงไปเห็นอวี้จิ่งซีกำลังจับที่แขนเสื้อของเธอด้วยท่าทางที่น่าสงสาร ใบหน้าของเขาเฝ้ารออย่างมีความหวัง อีกมือหนึ่งถือกระดาษโน้ตขึ้นมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปเขียนตั้งแต่เมื่อไหร่
“ผมอยากให้คุณไปด้วย”
เซิ่งอันหรานชะงักไปชั่วครู่ เธอยื่นมือออกไปลูบศีรษะของอวี้จิ่งซี และรู้สึกใจอ่อนขึ้นทันที
“ก็ได้ๆ ถ้าจะต้องไปล่ะก็ ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องก่อนนะ”
เป็นเพราะอวี้จิ่งซีไม่มีแม่ และอวี้หนานเฉิงก็ไม่ใช่พ่อที่ละเอียดรอบคอบสักเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ก็พาจิ่งซีไปเล่นตากแดดจนผิวไหม้ ถ้าไปทะเลล่ะจะเป็นยังไง? ยิ่งได้ยินว่าอวี้จิ่งซีว่ายน้ำไม่เป็นด้วย เธอจึงรู้สึกเป็นห่วง
“ได้สิ”อวี้หนานเฉิงตอบด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง แต่อันที่จริงแล้วในใจของเขารู้สึกมีความสุขอย่างอธิบายไม่ถูก
ตั้งแต่เช้าตรู่ เห็นเธออยู่ที่ทางเข้าของร้านกาแฟทานกาแฟคนเดียว พอไปถาม หัวหน้าทีมงานการถ่ายทำรายการ จึงรู้ว่าเส้าซือพาเสี่ยวซิงออกไปข้างนอกแล้ว พอรู้อย่างนี้แล้วมันทำให้อวี้หนานเฉิงอารมณ์ดีตั้งแต่เช้า
ถ้าจะต้องไปเที่ยวตามเกาะจะต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ทไป หลังจากที่สวมเสื้อชูชีพเสร็จ เซิ่งอันหราน ก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เธอพยายามกัดฟันทน จากนั้นก็ย่อตัวลงนั่งและพยายามไม่มองลงไปในน้ำ
“คนขับค่ะ ขับเรือช้าๆหน่อยนะคะ”
เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย และแม้แต่อวี้หนานเฉิงฟังแล้วก็ยังรู้สึกว่ามันดูแปลก ๆ
"คุณโอเคไหม?"
“ฉันไม่เป็นไร” เธอยิ้มอย่างฝืนๆ เมาเรือขนาดนี้แล้ว เซิ่งอันหรานก็ยังไม่ลืมที่จะกำชับอวี้หนานเฉิง “รัดให้จิ่งซีแน่นๆด้วย เพราะถ้าลมแรง หมวกอาจจะปลิวได้”
อวี้หนานเฉิงพยักหน้า จากนั้นก็ช่วยอวี้จิ่งซีปรับหมวกให้แน่นขึ้น อวี้หนานเฉิงเหลือบมองไปเห็นเซิ่งอันหรานพยายามติดกระดุมของหมวกกันแดดอยู่เป็นเวลานาน อีกทั้งมือของเธอก็สั่นอยู่ตลอด
“คุณโอเคจริงๆ ใช่ไหม?”
อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว “ถ้าหากว่าคุณรู้สึกไม่สบายล่ะก็ เราไม่ไปก็ได้”
"ไม่เป็นไร ฉันโอเค เรือมันแกว่งไปหน่อย ฉันเลยติดมันไม่ค่อยถนัด"
อวี้หนานเฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะโน้มตัวลงและจับมือของเซิ่งอันหราน "มา เดี๋ยวผมช่วย"
หลังมือของเธอถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นจากมือของเขา เธอก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ ราวกับว่าในขณะนั้น เธอลืมความรู้สึกเมาเรือของเธอไปเลย เซิ่งอันหรานมองอวี้หนานเฉิงที่กำลังช่วยติดกระดุมหมวกกันแดดให้กับเธอ , จู่ๆตรงกรามเล็กๆของเธอก็รู้สึกชาๆ และรู้สึกว่าหายใจไม่สะดวกไปพักหนึ่ง
“เสร็จแล้ว”
น้ำเสียงทุ้มต่ำดังก้องในหูของเซิ่งอันหราน ทำให้เธอได้สติกลับมา เธอรีบเคลื่อนสายตาออกไปด้านข้าง "เอ่อ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ"
"ไม่เป็นไร"
อวี้หนานเฉิงจ้องไปที่เธอ "คุณร้อนเหรอ?"
"เปล่าค่ะ ฉันโอเค"
“แล้วทำไมหน้าถึงได้แดงล่ะ?”
"อะไรนะ?"
เซิ่งอันหรานรีบยกมือขึ้นมาปิดแก้มของตัวเอง และพูดตอบอย่างติดๆขัดๆไปว่า “ไม่ ไม่หรอกมั่ง บางที บางทีอาจจะเป็นเพราะแดดมันร้อนเกินไป”
เซิ่งอันหรานพูดพลางชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า “แดดแรงจริงๆ คุณอย่าลืมติดกระดุมเสื้อกันแดดให้จิ่งซีด้วยล่ะ ”
อวี้หนานเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย เขามีความรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่สามารถอธิบายถึงการกระทำเมื่อกี้ของเธอได้
อวี้จิ่งซีรู้สึกแปลกใจกับทุกอย่าง ชี้ไปทางนู้นที ทางนั้นที และถามไม่หยุด
เธอปฏิเสธไม่ได้ว่า ในตอนที่เธอเห็นอวี้หนานเฉิงและอวี้จิ่งซีสองพ่อลูกปรากฏตัว เซิ่งอันหรานดีใจและมีความสุขมาก แม้กระทั่งตอนที่เธอเห็นเงาของคนที่ระเบียงเมื่อคืนนี้ เธอยังคิดว่าตัวเองตาฝาดไป แต่ตอนนี้เธอก็รู้สึกมีความสุขเช่นกัน
เมื่อเห็นเธอกำลังครุ่นคิดอย่างตั้งใจ อวี้หนานเฉิงก็มีคำถามที่ต้องการจะถามเธอ แต่จู่ๆเรือก็เกิดโคลงเคลงอย่างรุนแรง
เซิ่งอันหรานกรีดร้อง เธอไถลไปทางด้านหน้า แต่โชคดีที่อวี้หนานเฉิงตาไวคว้าขาของเธอได้เสียก่อนที่เธอจะล้มลง เรือโคลงเคลงอีกครั้ง
ใบหน้าของอวี้หนานเฉิงดูตึงเครียด เขาพยายามจับเธอไว้ จากนั้นก็ดึงตัวเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน อวี้หนานเฉิงตะโกนถามคนขับเรือว่า "เกิดอะไรขึ้น?"
แก้มของเซิ่งอันหรานกระแทกเข้ากับเสื้อชูชีพที่อยู่ตรงหน้าอกของอวี้หนานเฉิง ทำให้เธอรู้สึกเจ็บมาก แต่ทว่าเซิ่งอันหรานก็ไม่ได้แสดงอาการอะไร และวิวทิวทัศน์ทางด้านข้างมันหมุดไปอย่างรวดเร็ว เซิ่งอันหรานรู้สึกเวียนศีรษะและมีอาการมวนท้องเป็นพักๆ
เสียงของชายคนขับเรือดังขึ้นมาจากทางหัวเรือด้วยความรีบร้อนว่า
“คุณผู้ชาย มีคลื่นมา เราขับไปไม่ได้ไกลแล้ว และดูเหมือนว่าข้างนอกฝนกำลังจะตก ตอนนี้พวกเราขึ้นเกาะ หรือจะกลับกันดี?”
อวี้หนานเฉิงมองไปที่เซิ่งอันหรานที่กำลังดูเหมือนว่าจะเป็นลมอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ดูเคร่งขรึมขึ้น
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้เมาเรือ ตอนที่มาก็รู้สึกว่าเธอมีบางอย่างผิดปกติ แล้วเธอยังจะดื้อรั้นอีก โดนคลื่นแค่ไม่กี่ลูกก็กลายเป็นแบบนี้ซะแล้ว แล้วจะไปขึ้นเกาะที่ไหนได้อีกล่ะ?
“กลับเรือ?”
หลังจากที่อวี้หนานเฉิงออกคำสั่งเสร็จ เขาก็เหลือบมองไปที่จิ่งซี "จิ่งซี นั่งคนเดียวได้ไหม?"
อวี้จิ่งซีพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง มือข้างหนึ่งจับมืออวี้จิ่งซีไว้ ส่วนมืออีกข้างก็โอบเซิ่งอันหรานไว้ในอ้อมแขนของเขา
ท้องฟ้าเริ่มค่อยๆเปลี่ยนสีในพริบตา และเม็ดฝนขนาดใหญ่ก็ตกกระทบลงบนเรืออย่างรวดเร็ว บนเรือไม่มีของที่สามารถนำมากันฝนได้ ทำให้ทุกคนที่อยู่บนเรือเปียกโชกอย่างรวดเร็ว
อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็มีเสียงคร่ำครวญดังออกมาจากในอ้อมแขนของเขา
“คุณตา อย่าไปนะ อย่าไป...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน