ตอนที่ 14 ไม่รู้จักเธออีกต่อไป
"อะไรคะ?" รินลดาตั้งใจฟัง
ธีรสิทธิ์ยืนขึ้นจากเก้าอี้และเดินตรงไปหาเธอที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟ ก้าวอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง ในที่สุด เขาก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ และพูดอย่างดุดัน “ระหว่างที่เราเป็นสามีภรรยากัน อย่ายุ่งกับผู้ชายคนอื่น”
ไม่ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะเป็นเพียงข้อตกลงทางธุรกิจหรืออะไรก็ตาม เธอไม่มีสิทธิ์นอกใจเขา!
เขาไม่สามารถทำใจยอมรับได้ มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย!
รินลดาไม่ได้ตอบกลับในทันที ฉันไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายที่ไหน?
เธอโต้กลับทันที “แล้วคุณล่ะคะ คุณเอาผู้หญิงคนอื่นมานอนที่บ้านนี้ไม่ใช่เหรอ? แล้ว ‘ฉัน’ ในฐานะภรรยา ฉันเรียกร้องแบบเดียวกับคุณบ้างได้ไหม?”
ธีรสิทธิ์หน้ายุ่ง “ผมไม่ได้นอนกับเธอนะ”
รินลดาถึงกับอึ้ง เมื่อคืนนี้ดวงเดือนนอนที่นี่ทั้งคืน
ใครจะเชื่อว่าเขาไม่ได้มีอะไรกับเธอ?
เฮ้ย! แต่จะนอนกับเธอหรือไม่ได้นอน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?
ธีรสิทธิ์ทำหน้าไม่ถูก นี่ฉันพูดอะไรออกไป?
รินลดาไม่ได้อยากมีเรื่องกับเขา เธอจึงปรับน้ำเสียงให้อ่อนลง “ฉันจะพยายามทำตามที่คุณต้องการอย่างเต็มที่ค่ะ งั้นฉัน...”
เธอชูเอกสารในมือขึ้น สื่อความหมายได้ชัดเจน
ธีรสิทธิ์ตอบรับห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงโกรธเล็กน้อย เขาไม่ได้โกรธรินลดาแต่เขาโกรธตัวเอง!
ทำไมฉันต้องอธิบายตัวเองกับเธอด้วย!
ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ!
การกระทำที่ผิดปกติของเขาทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจและขยะแขยงตัวเองด้วยซ้ำ!
รินลดาได้งานทำที่ร้านอาหารแล้ว เพราะฉะนั้นเธอจะต้องแปลเอกสารเหล่านี้ให้เสร็จเร็วที่สุด
เที่ยงคืนกว่าแล้ว เธอเพิ่งจะทำเสร็จไปแค่ครึ่งเดียว และเธอก็ง่วงมาก
รินลดาตัดสินใจเอาเอกสารมานั่งทำที่ห้องนั่งเล่นเพื่อกระตุ้นตัวเองให้สดชื่นขึ้น เวลานี้บ้านทั้งหลังเงียบสนิท ธีรสิทธิ์และป้ายาคงจะนอนหลับสบายกันอยู่
เธอวางเอกสารลงบนโต๊ะกาแฟ แล้วเดินไปที่ห้องครัวเพื่อรินน้ำอุ่นให้ตัวเอง เธอวางแก้วที่ดื่มเสร็จแล้วไว้ที่โต๊ะในครัว แล้วกลับมาที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง นั่งลงบนพื้นพรมแล้วเริ่มแปลงานที่ค้างอยู่ตรงโต๊ะกาแฟ
ตอนกลางดึกธีรสิทธิ์รู้สึกหิวน้ำ เขาเดินลงมาข้างล่างเพื่อหาน้ำกิน เมื่อเขาเห็นว่ารินลดายังคงนั่งแปลเอกสารอยู่ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร รินลดาเห็นเขาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน
ธีรสิทธิ์เคยชินกับการอยู่คนเดียว เมื่อเขาเห็นแก้วน้ำตั้งอยู่บนโต๊ะ จึงหยิบขึ้นมาเทน้ำกิน
“เอิ่ม—”
รินลดากำลังจะบอกเขาว่าแก้วนั้นเธอใช้ไปแล้ว แต่ไม่ทันแล้ว ธีรสิทธิ์ยกขึ้นดื่มเรียบร้อยแล้ว เธอจึงนึกไม่ออกว่าจะพูดต่อว่าอะไร
เห็นท่าทางของรินลดา ธีรสิทธิ์ก็พอจะเข้าใจว่าทำไมเธอถึงพูดค้างอยู่แบบนั้น เขาจ้องมองไปที่หน้าของเธอครูหนึ่ง จากนั้นก็ก้มลงมองดูแก้วน้ำ แสงไฟในห้องครัวทำให้เห็นรอยริมฝีปากจาง ๆ ที่ขอบแก้วสองรอย บางส่วนทับซ้อนกันอยู่
รอยหนึ่งเป็นของเขาเอง
เห็นได้ชัดว่ามีคนใช้แก้วใบนี้มาก่อนหน้าเขาแล้ว กอปรกับสีหน้าของรินลดาในตอนนี้ ก็ทำให้เขามั่นใจว่ารอยริมฝีปากที่เห็นนั้นเป็นของเธอ
รินลดาก้มหน้าลง แกล้งทำเป็นว่าเธอไม่เห็นอะไรเลย และไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีแค่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขนาดไหน
ธีรสิทธิ์และรินลดาไม่ได้มีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน การใช้แก้วใบเดียวกันดูเหมือนว่าจะเป็นความใกล้ชิดที่มากเกินไป
ถึงจะรู้ว่ามันเป็นเหตุบังเอิญ แต่รินลดาก็อดเขินไม่ได้อยู่ดี
ธีรสิทธิ์ขยับปากเล็กน้อย เขาเลียริมฝีปากล่างด้วยปลายลิ้นของเขา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกยังไง เขาตัดสินใจดื่มน้ำที่เหลือในแก้วใบนั้นจนหมด
เขาวางแก้วเปล่าลงแล้วเดินไปดูนาฬิกา มันเป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว “ยังไม่นอนอีกเหรอ?”
รินลดาก้มหน้า เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองเขา “ฉันยังไม่ง่วงค่ะ”
หลังจากที่รินลดาแต่งตัวและออกมาอีกครั้ง เธอหยิบเอกสารที่แปลแล้วไปให้ธีรสิทธิ์ "เสร็จแล้วค่ะ”
เธอกลับมานั่งที่ที่นั่งของเธอเพื่อทานอาหารเช้า หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอพูดขึ้นว่า “ถ้าคุณจะไม่ว่าอะไร ฉันขอเบิกเงินค่าแปลเลยได้ไหมคะ?”
รินลดากลัวว่าเขาจะลืม
ธีรสิทธิ์วางถ้วยกาแฟลงและมองเธอนิ่งสองวินาที “ผมไม่ได้พกเงินสด คุณไปหาผมที่บริษัทก็แล้วกัน”
พูดเสร็จก็ลุกขึ้นเดินออกไป
รินลดาจิบนมด้วยความสบายใจ เธอไม่ได้รีบร้อนอะไร ขอแค่เขาไม่ลืมก็พอ
รินลดาใช้เวลาทั้งคืนในการแปลเอกสารจนเสร็จ เพราะเธอไม่ต้องการให้มันกระทบกับงานของเธอในวันนี้
ไม่นานหลังจากที่ธีรสิทธิ์ออกไป รินลดาก็ออกไปเช่นกัน
รินลดาต้องสวมเครื่องแบบของทางร้าน ซึ่งเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อกั๊กสีดำ ผูกโบว์ที่ปกเสื้อ และกระโปรงสั้นเข้ารูปที่เผยให้เห็นเรียวขาเพรียวยาวของเธอ
ดวงเดือนนั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างอย่างอารมณ์ดี ครั้งนี้ธีรสิทธิ์เป็นคนชวนเธอออกมาข้าวด้วยกัน
ถึงแม้ว่าธีรสิทธิ์จะไม่เคยปิดบังเรื่องความสัมพันธ์ของเขาและเธอ และยังสัญญาว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ แต่เขาไม่เคยชวนเธอไปออกเดทเลย มีแต่เธอเท่านั้นที่ต้องเป็นคนเอ่ยปากชวนทุกครั้ง
“ธีคะ—”
“ผมได้ยินมาว่าคุณเป็นคนปฏิเสธไม่รับรินลดาเข้าทำงานในตำแหน่งนักแปลจริงไหม?” ยิ่งยศงบอกเขาเมื่อเช้านี้ทันทีที่เขามาที่บริษัท
ดวงเดือนเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการไม่รับรินลดาเข้าทำงาน
ดวงเดือนกำหมัดแน่น เขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
ธีรสิทธิ์เอนหลังพิงเก้าอี้ แสงแดดอันอบอุ่นนอกหน้าต่างส่องลงมาที่เรือนร่างของเขา เขานั่งเท้าคางสบาย ๆ แต่ดวงตาจ้องลึกเอาเรื่อง
ตอนนี้ ธีรสิทธิ์พบว่าตัวเขาเองไม่รู้จักผู้หญิงตรงหน้านี้เลย ผู้หญิงที่เขาคิดเสมอว่าเป็นคนจิตใจดี คนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นเด็กและยังเคยเสียสละตัวเองเพื่อเป็นยาถอนพิษให้กับเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปล่อยใจให้รักเธอ(จบ)