เมื่อเห็นซ่งฉือ เมิ่งหว่านชูก็รู้สึกตระหนก และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัว
เธอไม่ได้ลืมเรื่องที่เธอทำน้ำท่วมห้องของฉิงมั่วหันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
“ฮี่ๆ ผู้ช่วยซ่ง บังเอิญจังนะคะ”
เธอส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้ซ่งฉือ พลางหยิบโทรศัพท์มือถือปัดหาหมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณนายฉิงอย่างรวดเร็วและส่งข้อความหาเธอ
แต่เพิ่งจะส่งไปได้เพียงข้อความเดียว ซ่งฉือก็คว้าโทรศัพท์มือถือของเธอไป
“ผู้ช่วยซ่ง คุณทำอะไรน่ะ”
เมิ่งหว่านชูแกล้งทำเป็นโมโห
ซ่งฉือยื่นโทรศัพท์มือถือของเมิ่งหว่านชูให้บอดี้การ์ดด้านหลังโดยไม่สนใจที่จะดูแม้แต่น้อย พลางเอ่ยกับเธอด้วยสายตาเรียบเฉย “เชิญ”
แล้วจึงพาเมิ่งหว่านชูเดินไปอีกด้าน
ประตูรถเก๋งเปิดออก เมื่อเมิ่งหว่านชูก้มตัวเข้าไปในรถ เธอได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งหลับตาผ่อนคลายอยู่ในรถ
หัวใจของเธอเต้นรัว
เธอกลืนน้ำลายพลางฉีกยิ้มอย่างสอพลอ “คุณชายฉิง คุณหาฉันหรือคะ”
ชายหนุ่มหันศีรษะเล็กน้อยและลืมตาอย่างเกียจคร้าน ดวงตาที่เฉียบคมของเขาจ้องมาที่เธอ “คิดไว้หรือยังว่าจะตายแบบไหน”
หวงแหนคำพูดประดุจทองคำ
น้ำเสียงราบเรียบราวกับกำลังพูดว่าวันนี้อากาศดีมาก
แต่กลับใช้สายตาดูถูกประหนึ่งราชันพิพากษาความเป็นตายของเมิ่งหว่านชู
“แหะๆๆ...แน่นอนว่าอยาก...แก่ตาย”
แม้ใบหน้าของเมิ่งหว่านชูจะปรากฏรอยยิ้ม แต่ในใจกลับแอบทักทายบรรพบุรุษสิบแปดโคตรของฉิงมั่วหัน
สิบนิ้วของชายหนุ่มประสานวางบริเวณหน้าท้อง นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนหลังมือ แล้วออกคำสั่งเสียงดัง “ซ่งฉือ ออกรถ”
“หา? คุณ คุณๆ จะไปไหน”
เมิ่งหว่านชูกระวนกระวายใจแล้ว
ในระหว่างที่เธอถาม ซ่งฉือก็เดินขึ้นรถและสตาร์ท
ฉิงมั่วหันหลับตาลงอีกครั้งและนิ่งเงียบ
เธอจำต้องมองไปที่ซ่งฉือ “ผู้ช่วยซ่ง พวกเราจะไปไหนกันหรือคะ”
“โรงพยาบาล”
“โรงพยาบาล?”
ใบหน้าของเมิ่งหว่านชูซีดขาวและหัวใจที่กำลังวิตกก็เต้นอย่างรุนแรง
เมื่อคิดถึงวันนี้ที่ฉิงมั่วหันบอกว่าจะตัดมดลูกเธอทิ้ง ความกลัวยิ่งทวีเพิ่มขึ้น
เธอคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอไม่เคยกลัวใครมาหลายปีแล้ว แต่คราวนี้ต้องยอมรับจริงๆว่า เธอกลัวฉิงมั่วหัน
ซวยแล้ว ซวยแล้ว...
เมิ่งหว่านชูพิงเบาะนั่งอย่างอ่อนแรง ไม่แม้แต่จะดิ้นรนร้องขอชีวิต
เธอกำลังรอ รอโทรศัพท์จากคุณนายฉิง
กริ๊งงง...กริ๊งงง...กริ๊งงง...
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นภายในรถ เมิ่งหว่านชูรู้สึกประหลาดใจและดีใจเมื่อเห็นฉิงมั่วหันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
เธอชะโงกศีรษะและเอนตัวไป เหลือบมองที่หน้าจอ เป็นคุณนายฉิงที่โทรฯ มา
“คุณย่า ช่วยด้วยค่ะ ฉิงมั่วหันจะตัดมด...อื้อ...”
เมิ่งหว่านชูตะโกนร้องขอความช่วยเหลือเข้าไปในโทรศัพท์ แต่ยังไม่ทันพูดจบ ชายหนุ่มก็เข้ามารวบแขนและปิดปากเธอ
“ไม่อยากตายก็หุบปากซะ!”
ดวงตาแหลมคมของฉิงมั่วหันจ้องมองเธอ ความเยือกเย็นระคนอยู่ในสายตานั้น
เมิ่งหว่านชูพยักหน้ารัวๆ เหมือนกลองป๋องแป๋ง
ในเมื่อคุณนายฉิงโทรฯ มาแล้ว เธอก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก
“คุณย่า มีธุระอะไรหรือครับ”
ฉิงมั่วหันแนบโทรศัพท์ที่ข้างหูพลางเอ่ยถาม
“ไอ้หลานตัวดี แกอยู่ไหน คิดจะพาแม่หนูหว่านชูไปไหน”
ฉิงมั่วหัน “...”
เงียบสงบ
“หึ ไอ้หลานตัวแสบนั่นทำอะไรตามอำเภอใจจริงๆ เอาล่ะ แม่หนูหว่านชูอย่าร้องไห้ไปเลยนะ ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรก็มาบอกย่าได้เลยนะ”
แม้ว่าจะใช้เวลาอยู่กับเมิ่งหว่านชูเพียงระยะสั้นๆ แค่สามวัน แต่ก็พูดได้เลยว่า เมิ่งหว่านชูเป็นหญิงสาวที่ฉลาด ขยัน และดีมากคนหนึ่งเลย
ข้อเสียอย่างเดียวคือหน้าตาของเธอธรรมดามากจนถึงค่อนข้างน่าเกลียดเลยทีเดียว
ไม่ใช่เพราะคุณนายฉิงคิดว่าเธอขี้เหร่ แต่เธอรู้สึกว่าเมิ่งหว่านชูเหมาะจะใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน แต่ด้วยรูปลักษณ์ดังกล่าวไม่มีทางที่จะมัดหัวใจของฉิงมั่วหันได้ จึงไม่ได้ส่งเสริมให้ทั้งคู่แต่งงานกัน
“ได้ค่ะ ขอบคุณคุณย่านะคะ”
"ส่งโทรศัพท์ให้มั่วหันหน่อยจ้ะ”
“อื้อ”
เมิ่งหว่านชูตอบกลับพลางยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้ฉิงมั่วหัน
เขากดปิดลำโพงและแนบโทรศัพท์กับหู “คุณย่า?”
“แกยังรู้ว่าฉันเป็นย่าของแกอยู่หรือ ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม ในสายตายังมีย่าคนนี้อยู่หรือเปล่า กล้าดียังไงพาแม่หนูไปโรงพยาบาลตัดมดลูก แกเก่งนักหรือไง”
คุณนายฉิงที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์โกรธจนควันออกหู “เอาโทรศัพท์มือถือคืนให้แม่หนูหว่านชูซะ ต่อไปฉันจะวิดีโอคอลกับเธอทุกวัน หากวันไหนเธอมีท่าทางไม่ดีแม้แต่นิดเดียว แกรอเก็บศพหญิงแก่คนนี้ได้เลย”
“คุณย่า...ตู๊ดๆๆ...”
ก่อนที่ฉิงมั่วหันจะพูดจบ คุณนายฉิงได้ตัดสายทิ้งไปแล้ว
เขากำโทรศัพท์ไว้แน่นจนได้ยินเสียงลั่นที่ข้อต่อ ใบหน้าของเขาดำทะมึนราวกับพายุกำลังก่อตัว
เมิ่งหว่านชูมองไปที่ฉิงมั่วหันและคอยสังเกตทุกการเคลื่อนไหวของเขา เมื่อเห็นเขาโกรธมากก็รู้ได้ว่าคุณย่าคงจะเอ่ยเตือนเขาไม่ให้กลั่นแกล้งเธออีก
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ในที่สุดเมิ่งหว่านชูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“คืนโทรศัพท์ให้เธอ”
“ครับ บอส”
ซ่งฉือที่กำลังขับรถหยิบโทรศัพท์มือถือยื่นคืนให้เมิ่งหว่านชู
“ขอบคุณค่ะ”
เมิ่งหว่านชูเอ่ยคำขอบคุณในทันที และเมื่อเธอรับโทรศัพท์คืนก็มีสายเข้า บนจอปรากฏชื่อ ‘คุณย่าฉิง’
ขณะที่เธอมองดูหมายเลขโทรศัพท์บนหน้าจอ ฉิงมั่วหันก็สังเกตเห็นเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานตัวร้ายกับยัยจอมแสร้ง