ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 501

ด้วยเค้าโครงการวาดภาพจากเม็ดทราย ทุกคนเห็นอย่างชัดเจนว่าภายในประเทศที่ชายคนนั้นอาศัยอยู่เกิดเหตุความวุ่นวายที่มาจากภัยสงคราม

และเสียงเปียโนนั้นเปรียบเสมือนกับเม็ดฝนกำลังโหมกระหน่ำ โปรยปรายลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน ท่วงทำนองกระชับแน่นแต่กลับคล่องแคล่วและว่องไว ทำให้ผู้คนกำฝ่ามือของตนเองไว้แน่นอย่างอดไม่ได้อีกทั้งยังรู้สึกประหม่าแทนชายคนนั้น

สงครามดำเนินไปอย่างดุเดือด เพื่อที่จะปกป้องและรักษาประเทศชาติ ชายคนนั้นต่อสู้กับกองทัพของศัตรูด้วยพละกำลังของเขาเอง ท้ายที่สุดเขาก็นำพาให้ผู้คนได้รับชัยชนะในสงครามครั้งนี้

แต่ทว่าชายคนนั้นกลับถูกยิงด้วยลูกธนู

เลือดสีแดงสดทะลักออกมาจากหน้าอกของเขา

ในขณะนี้ ท้ายที่สุดหญิงสาวที่มีรอยประทับรูปพระจันทร์ตรงหน้าผากพลันปลดจากพันธนาการของซูสและมายังสนามรบ

ทว่าสิ่งที่เธอเห็น กลับกลายเป็นว่าชายคนนั้นกำลังนอนจมอยู่ท่ามกลางกองเลือด

“ตึง-----”

เสียงโน้ตที่แปลกไปของเปียโนดังขึ้น ราวกับว่าเป็นเสียงหัวใจที่กำลังแหลกสลายและพังทลายของหญิงสาวคนนั้น

สุดท้ายแล้วถาดวาดภาพทรายก็กลายเป็นภาพวาดสีดำสนิท และเสียงเปียโนนั้นก็หยุดลงในทันที

ท้ายที่สุดถาดวาดภาพทรายก็ปรากฏข้อความประโยคหนึ่ง ‘ท่ามกลางแสงจันทร์’

ผู้ชมภายในหอประชุมเงียบต่างเงียบงัน แต่ทว่าจากนั้นพลันเกิดเสียงร้องห่มร้องไห้

ความรู้สึกของผู้ชมทุกคนล้วนแต่ถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์ของการผสมผสานระหว่างภาพวาดทรายและเสียงของเปียโน ราวกับว่าพวกเขานั้นได้เห็นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงด้วยสายตาของพวกเขาเอง

เมื่อกู้หว่านหว่านลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอพบว่าน้ำตาของตนเองนั้นรินไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

น้ำตารินไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย ใบหน้าของเธอเปียกปอน

กู้หว่านหว่านทอดสายตามองไปบนเวที จ้องมองมู่ซย่าที่ยืนอยู่บนเวทีและมีแสงไฟเจิดจรัสอยู่เหนือศีรษะของหล่อน

ขณะนี้ เธอมองเห็นช่องว่างระหว่างเธอและมู่ซย่าได้อย่างชัดเจน

ระยะห่างนั้นห่างออกไปหลายพันไมล์

เป็นตัวของเธอเองที่ห่างไกลเกินเอื้อมและไม่สามารถเทียบเทียมกับหล่อนได้

ความคิดภายในสมองของกู้หว่านหว่านพลันขาวโพลน เธอไม่สามารถคิดอะไรได้เลย แม้แต่ขาทั้งสองข้างก็ยังไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนให้ได้อย่างมั่นคง ร่างกายของเธอทรุดตัวลงและนั่งบนพื้นอย่างอ่อนแรง

ในขณะนี้ มู่ซย่าที่กำลังยืนอยู่บนเวทีนั้นมีเหงื่อผุดออกมาเต็มไปทั่วบริเวณหน้าผาก เธอพ่นลมหายใจเล็กน้อย จากนั้นเธอลุกขึ้นยืนและเดินไปตรงกลางเวทีพร้อมกับโค้งคำนับให้กับเหล่าผู้ชม

“ขอบคุณนะคะทุกคน การแสดงของฉันจบลงแล้วค่ะ”

ทันทีที่กล่าวคำพูดเหล่านี้ออกไป ผู้ชมทั้งหมดที่ยังคงตกอยู่ในห้วงภวังค์ของเสียงเปียโนพลันค่อยๆฟื้นคืนสติ

พวกเขาไม่ได้มองผิดไปใช่หรือไม่??

ลั่วเค่อป๋อเก๋อนักเปียโนอันดับหนึ่งของโลก เขากำลังคุกเข่าให้กับมู่ซย่าอีกทั้งยังต้องการนับถือให้เธอเป็นอาจารย์ของเขา??

จากนั้นนักเปียโนอีกสองคนที่เหลือก็รีบพุ่งตัวขึ้นมาบนเวทีอย่างไม่ยอมเสียเปรียบ จากนั้นพวกเขาแต่ละคนพลันคุกเข่าให้กับมู่ซย่า

แน่นอนว่าในต่างประเทศไม่มีประเพณีการคุกเข่าเช่นนี้ แต่พวกเขานั้นเข้าใจคำว่าเข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม[1]

ประเพณีการฝากตัวเป็นศิษย์ของฮวากั๋วนั้นก็คือการคุกเข่าลง

และผู้หญิงคนนี้ควรค่าแก่การคุกเข่าของพวกเขา!

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ใบหน้าของกู้หว่านหว่านพลันซีดเผือด ร่างกายของเธอสั่นเทา

แต่ไหนแต่ไรเธอคาดไม่ถึงเลยว่าลั่วเค่อป๋อเก๋อและเพื่อนของเขาทั้งสามคนนั้นที่ดูถูกและหยามเหยียดเธอ ตอนนี้พวกเขากลับคุกเข่าให้กับมู่ซย่า

นี่ไม่ใช่การคุกเข่า นี่เป็นการตบหน้าเธอ

ตบจนเธอหัวแตกและเลือดไหล ตบจนจมูกของเธอเขียวช้ำและใบหน้าของเธอบวมเป่ง

เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม[1] หมายถึง ประพฤติให้ถูกต้องตามกาลเทศะ เมื่อไปอยู่ในสถานที่ของพวกเขาแล้วก็ต้องประพฤติตนคล้อยตามเขา รู้จักการปรับตัว เปลี่ยนแปลงตนเองให้เข้ากับสถานการณ์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!