สองวันต่อมา.....
พิมก็ไม่ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจแล้ว
แต่ยังต้องพักฟื้นและได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดจากแพทย์เฉพาะทาง
เมื่อพิมหลับไป เตชินเดินออกมายืนที่ระเบียง
โทรไปหาผู้ช่วยคัง แล้วเอ่ยถามเรื่องความคืบหน้าของคดี
" เรื่องที่ตามสืบคืบหน้าถึงไหนแล้ว "
ผู้ช่วยคังที่ตอนนี้อยู่ในบริษัท เขาเปิดประตูเข้าไปแอบคุยโทรศัพท์ในห้องของเตชิน เพราะเป็นห้งเก็บเสียง
" ตอนนี้รู้แล้วครับ ว่ารถคันนั้นเป็นของใคร
และดูเหมือนคนที่ชนคุณพิมจะจงใจชนคุณพิมโดยเฉพาะครับ
พอชนเสร็จก็ทำลายหลักฐานจนหมด โดยเผาทำลายรถคันนั้นทิ้งแล้วโยนซากรถลงน้ำ
จึงต้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและนักประดาน้ำลงไปช่วยค้นหาซากรถแล้วนำขึ้นมา
ตอนนี้ทางตำรวจก็กำลังช่วยตามสืบอยู่ครับ
แต่ผมคิดว่าน่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ "
แววตาคมกริบของเตชินทอดมองออกไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายแล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงเย็น
" ใครเป็นเจ้าของรถ "
ผู้ช่วยคังเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบว่า
" นายหาน คนขับรถบ้านคุณรตีครับ "
" ว่าไงนะ! รตีอีกแล้วเหรอ "
เตชินเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยตอบว่า
" ครับ ตอนนี้ตำรวจได้เรียกตัวนายหาน
มาสอบปากคำแล้ว
แต่นายหานให้การปฏิเสธครับ บอกว่าเขาซื้อรถคันนั้นไว้ใช้ในไร่ในสวนเท่านั้น
และวันที่เกิดเหตุเขาไม่รู้ว่าใครเอารถไปใช้ครับ
สอบถามคนในครอบครัวนายหานก็บอกว่าปกติรถคันนั้นก็จอดไว้ในสวนมีแต่คนสวนที่เอาไปใช้ "
เตชินฟังไปคิดประมวลผลไปแววตาคมกริบค่อยๆหรี่ลงแล้วเอ่ยขึ้น
" ที่นายคิดว่ามีผู้บงการ
นายกำลังสงสัยรตีงั้นเหรอ "
" ขออภัยครับคุณชาย ผมแค่สงสัย
ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเป็นคุณรตี
ตอนนี้ทุกคนที่ใกล้ชิดหรือรู้จักกับนายหาน
ล้วนเป็นผู้ต้องสงสัยหมดครับ
แล้วคดีนี้คงจะต้องต้องให้เวลาตำรวจ
ในการหาตัวคนทำผิดหน่อยครับ
เพราะนายหานปฏิเสธตลอดว่าไม่รู้เรื่องอะไร และรถคันนั้นก็เป็นรถที่ทุกคนเอาไปใช้ได้
จึงยากที่จะจับตัวคนร้ายตัวจริงได้ครับ
ถ้าหากเราผลีผลามไม่สืบให้ละเอียดกว่านี้
หากมีคนบงการจริงๆ เพื่อเงินที่มากพอที่จะเสี่ยงเข้าคุกแล้ว
ผมเกรงว่าจะมีคนยอมเป็นแพะให้เราจับก็ได้ครับ
ผมขอคุณชายให้เวลาผมในการตามสืบอีกหน่อยนะครับ "
ผู้ช่วยคังขอเวลาเพิ่มเพื่อตามสืบเรื่องนี้ เพราะคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยมีเยอะเหลือเกิน
ดังนั้นเขาตั้งใจจะแอบสืบเงียบๆในส่วนของเขา เตชินจึงเอ่ยว่า
" ได้ มีความคืบหน้าอะไรให้รีบรายงานทันที "
" ครับ เอ่อ...คุณชาย ผมคิดว่าถ้าคุณพิมฟื้นขึ้นมา แล้วจำอะไรได้บ้าง คุณพิมอาจเป็นกุญแจสำคัญในการไขคดีนี้ก็ได้ครับ "
เตชินได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยว่า
" คุณพิมฟื้นแล้ว แต่หมอบอกว่าเธอได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองอย่างหนัก
บวกกับมีเลือดคั่งในสมองด้วยความจำบางส่วนของเธออาจหายไป รอให้เธอหายดีก่อนค่อยถามเธอ "
เมื่อรู้ว่าพิมฟื้นแล้วผู้ช่วยคังยิ้มขึ้นด้วยความดีใจแล้วเอ่ยว่า
" ได้ครับ ดีใจด้วยนะครับคุณชายที่คุณพิมฟื้นแล้ว ผมดีใจจริงๆครับ "
" อืม แต่เรื่องนี้อย่าเพิ่งให้ใครรู้นะ ผมไม่อยากให้ใครมารบกวนการพักฟื้นของคุณพิม
แล้วเรื่องงานในบริษัทฝากคุณช่วยดูแลด้วยนะ "
ได้ยินเธอเอ่ยถามดังนั้นเตชินก็เข้าไปกอดเธอแล้วเอ่ยเสียงเศร้าด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจน้ำตาซึมออกมาทันที
" พิม ผมขอโทษ ผมขอโทษนะที่ไม่เชื่อคุณแต่แรก ผมขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้ลูกไม่อยู่แล้ว
ผมมันเลว ผมไม่ควรจะมีชีวิตอยู่แล้วด้วยซ้ำ
ผมขอโทษนะพิม "
" ช่างมันเถอะค่ะ เดิมทีฉันก็ตั้งใจจะทำแท้งเขาอยู่แล้วแค่ไม่มีเวลา
เมื่อเขาแท้งเองแบบนี้ก็ดีแล้ว เราร่วมกันสร้างเขาขึ้นมาแล้วได้ฆ่าเขาร่วมกันก็ถูกแล้ว
ไม่ใช่คุณคนเดียวที่ฆ่าเขา คุณไม่ต้องโทษตัวเองแล้ว "
พิมเอ่ยออกมาอย่างเยือกเย็นเจือความรำคาญแววตาเธอดูว่างเปล่าไร้หัวใจ
เตชินไม่คิดว่าพอเธอพูดจะพูดแต่เรื่องที่ทำให้ตัวเองเจ็บปวด
[ นี่คงจะเป็นการลงโทษผมในแบบของคุณสินะ ]
เตชินผละตัวออกห่างจากเธอ แล้วสบตากับแววตาคู่งามที่ดูว่างเปล่า
เขารู้สึกเจ็บปวดร้าวในอกมากที่เห็นเธอเป็นแบบนี้ เขาจึงเอ่ยว่า
" พิมต่อไปนี้ผมขอชดใช้ให้คุณกับลูก
ผมยินดีรับกรรมที่ผมได้ก่อไว้
ต่อให้ผมต้องเจ็บปวดร้าวทรมานใจแค่ไหน
ผมก็ยินดี
ถ้าคุณหายดีแล้วผมจะคืนอิสระให้คุณ
ผมจะไม่บังคับขืนใจคุณอีกแล้ว
คุณรีบๆหายนะ จริงสิ คุณป๊อบโทรมาบอกว่า พรุ่งนี้เขาจะพาพ่อคำกับแม่มะลิมาเยี่ยมคุณ
คุณดีใจมั้ย "
" อืม "
พิมเอ่ยตอบเพียงสั้นๆ แล้วเธอก็นอนลง
เตชินห่มผ้าให้เธอ
แล้วเปิดดนตรีคลาสสิกให้เธอฟัง
เพื่อให้เธอรู้สึกผ่อนคลายสบายอารมณ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา