หลังจากทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลแล้ว
เตชินก็กลับมาที่บ้าน
เมื่อป้าใจเห็นพิมกับเตชินกลับมา เขาเดินไปหาทั้งสองแล้วยื่นกระเป๋าตังค์ของรตีให้เตชินพร้อมกับเอ่ยว่า
" น่าจะเป็นของคุณรตีค่ะ ป้าเข้าไปทำความสะอาดในห้องเห็นตกอยู่ใต้เตียงค่ะ "
เตชินรับมาแล้วเปิดดูข้างใน เห็นแต่บัตร
ของรตีเต็มกระเป๋าตังค์ไปหมด
แล้วเห็นรูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งริมสระในชุดว่ายน้ำดูแล้วอายุราวๆสิบขวบ
เขาดึงออกมาดู เพ่งมองอย่างชัดๆ
พิมหันไปมองเขาแล้วเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
" ไหนขอดูหน่อย คุณเพ่งมองอะไรขนาดนั้น "
เธอจับมือของเตชินไว้แล้วแย่งรูปจากในมือของเตชินมาดู แล้วดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นมาทันที
เธอไม่คิดว่ารตีจะแอบถ่ายรูปเธอไว้และเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์แบบนี้
แล้วสีหน้าของเธอก็เริ่มหมองลง
แล้วก็พลิกไปดูด้านหลังของรูปก็มีตัวหนังสือสองคำเขียนไว้ว่า ( น้องสาว)
ทำให้เธอรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ ที่ทรมานรตีใต้น้ำจนเธอหมดสติไป
เตชินเห็นสีหน้าที่ผิดปกติไปของพิมเขาจึงเอ่ยถามขึ้น
" คนในรูปคือคุณตอนเด็กหรอ "
พิมจึงเอ่ยตอบว่า
" ใช่ ฉันไม่คิดว่ารตีจะแอบถ่ายรูปฉันเก็บไว้
ตอนนั้นรตีเธอดูน่าสงสารมาก
แม้จะโตกว่าฉันแต่เธอดูอ่อนแอกว่ามาก
เธอมาเรียนว่ายน้ำกับครูของฉัน
แต่เธอทำท่าไหนไม่รู้ เกิดจมน้ำ โชคดีที่ฉันเข้ามาก่อนจึงช่วยไว้ทัน
เธอดูกลัวมากเกือบจะเสียขวัญไปเลย
เจอกันแค่ครั้งเดียวฉันก็ถูกชะตากับเธอแล้ว
แต่พอมาเจออีกทีก็วันที่คุณแต่งงานกับเธอ
เธอดูไม่เหมือนรตีในอดีตและมีเพียงฉันที่จำเธอได้
ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ตัดสินใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธอและคุณอีก
แต่เป็นเพราะคุณไม่ยอมหย่าให้ฉันสักที
และตามฉันไม่เลิก
จนนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมฉันเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดและสูญเสียลูกไป
เพราะความักมากของคุณ เพราะคุณคนเดียว
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ รตีคงไม่ทำแบบนี้ "
ยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธยิ่งโมโหมากขึ้นเรื่อยๆ ความแค้นที่เพิ่งจะดับลงก็เหมือนจะค่อยๆปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
เตชินเห็นดังนั้นเขาก็รีบเข้าไปกอดเธอไว้
แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เอาความนุ่มนวลของน้ำเสียงดับไฟในใจของพิมที่กำลังจะปะทุขึ้นให้มอดดับลงอีกครั้ง
ด้วยถ้อยคำที่ทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจ
" พิม ผมขอโทษนะ ผมยอมรับผิดทุกอย่างแล้ว ต่อไปผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจอีก
ผมจะมีแค่คุณคนเดียวคุณอย่าโมโหเลยนะ
เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปนะ ได้มั้ย
เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่กันนะครับ "
พิมเองก็พยายามสงบสติอารมณ์
เพราะมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
โมโหไปโกรธไปก็มีแต่จะทำให้เสียสุขภาพจิต
เธอไม่อยากสนใจอะไรแล้ว เธอเหนื่อยกับเรื่องนี้เต็มที
ผ่านไปสักพักเธอก็ถอนหายใจออกมายาวๆ
แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายว่า
" คุณเตชินทุกอย่างมันเป็นเรื่องของอนาคต
แต่ตอนนี้ ฉันไม่อยากถูกผูกมัดด้วยทะเบียนสมรสอีกแล้ว
คุณช่วยหย่าให้ฉันได้มั้ย หากเราไปกันได้อนาคตค่อยมาพูดเรื่องนี้อีกที "
เตชินนิ่งงันไปแล้วเอ่ยออกมาว่า
" ผมขอคิดดูก่อน "
เอ่ยจบเขาก็ปล่อยมือจากพิมแล้วเดินขึ้นบันไดไปด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
การที่พิมพูดคุยเรื่องหย่ากับเขาดีๆมันทำให้เขาเจ็บปวดและกลัวมากกว่าตอนที่เธอใช้อารมณ์พูด
เกิดมาเขาไม่เคยกลัวหรือหลีกเลี่ยงอะไร
โดยการหนีแบบนี้มาก่อน
มีเพียงความนิ่งสงบของพิมเท่านั้น
ที่ทำให้เขากลัว กลัวที่จะเสียเธอไปตลอด
พอเข้ามาในห้องเขาก็นอนลงบนเตียงด้วยสีหน้าเศร้าหมองปนความเครียดเล็กน้อย
เพราะเขาจนปัญญาแล้วและไม่รู้จะพูดยังไงกับพิมให้เธอเลิกคิดเรื่องหย่า
เขาพูดไปหลายครั้งแล้วสุดท้ายพิมก็ยังดึงดันที่จะหย่ากับเขาให้ได้
ทำให้เขารู้สึกเครียดและหาทางออกไม่ได้
พิมเดินไปนั่งในห้องนั่งเล่น เธอกำลังคิดอย่างหนักไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี
[ ควรจะช่วยรตีให้มีโทษน้อยลงหรือไม่นะ ]
เธอพึมพำถามตัวเองในใจ สายตามองดูรูปตัวเองในมือ
นึกถึงตอนที่รตีเอ่ยขอโทษและเรียกเธอว่า
น้องสาว
เธอหลับตาลงแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟา
เอ่ยตัดพ้อในใจ
[ ทำไมนะโชคชะตาถึงได้กลั่นแกล้งกันแบบนี้ ทำไมต้องลิขิตให้พวกเราเจอเรื่องราวแบบนี้ด้วยนะ ]
จากนั้นเธอก็บ่นพึมพำออกมาอย่างเหนื่อยใจ
จากนั้นพิมก็ลุกมานั่งกระเถิบตัวห่างจากเขา
เตชินมองเธออย่างไม่มีทางเลือก
และคิดว่าตัวเองควรจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำไว้ จึงเอ่ยว่า
" ตกลงผมจะหย่าให้คุณ ส่วนเรื่องรอผมไม่มีปัญหา แต่คุณสัญญาได้มั้ยว่าจะไม่เปิดใจให้คนอื่นเข้ามาทำให้คุณหวั่นไหว "
เธอมองหน้าเขาแล้วเอ่ยถามขึ้น
" คุณคิดว่าฉันเป็นคนหวั่นไหวง่ายเหรอ "
" ไม่รู้สิผมแค่กลัว เมื่อวานคุณยังบอกเลยว่าจะขอเก็บไว้ทั้งสองคน ไม่สามารถเลือกใครคนใดคนหนึ่งได้ "
" นั่นฉันแค่ต้องการทำให้คุณรู้สึกก็เท่านั้นเอง
ในเมื่อคุณตกลงแล้ว
พรุ่งนี้เราก็ไปหย่ากันเลยนะ เพราะฉันจะต้องกลับไปเรียนและกลับไปสอนอีก "
เตชินพยักหน้าแล้วเอ่ย
" ได้ แต่คืนนี้ผมขอนอนกับคุณเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่สถานะของเราจะเหลือเพียงแค่คนดูใจกัน ได้มั้ย "
พิมจ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจ เขาจึงรีบเอ่ยว่า
" แค่นอนกอดคุณเฉยๆ จะไม่ทำอะไรที่มากไปกว่านอนกอดแน่นอน "
ได้ยินดังนั้นพิมก็โล่งใจไป แล้วเอ่ยตอบว่า
" ได้ ฉันจะถือว่าเป็นการปิดฉากสามีภรรยาปลอมๆแล้วกัน "
ได้ยินดังนั้นเตชินก็ยิ้มขึ้นแล้วไปจับมือพิม จากนั้นก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับถอดแหวนที่พิมสวมอยู่
" ในเมื่อคุณอยากเคลียร์ตัวเอง แล้วเริ่มต้นใหม่ แหวนนี้คุณก็ต้องถอดคืนสู่เจ้าของนะ
ไม่งั้นผมจะไม่หย่าให้ "
เขาทนเห็นเธอสวมแหวนที่บาดตาบาดใจเขานี้มานานเป็นเดือนๆโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย
วันนี้เขาจึงถอดให้เธอเองซะเลย
พิมมองไปที่มือของตัวเองเห็นเตชินกำลังถอดแหวนออกเธอก็ไม่ได้ขัดอะไร
แต่กลับเอ่ยว่า
" ได้ค่ะ เพื่อแลกกับอิสรภาพก็คงต้องคืนให้เจ้าของตามที่คุณต้องการ "
เมื่อเห็นพิมมองเขาด้วยแววตาใสแป๋วแถมยังเชื่อฟังเขาอีก
ริมฝีปากเอิบอิ่มยั่วยวนใจเขาจนแทบจะอดทนไม่ไหว
เขาโน้มหน้าเข้าไปใกล้หวังจะจูบ พิมจึงเอ่ยว่า
" กรุณาให้เกียรติฉันด้วยค่ะ "
เขาหยุดชะงักไปแล้วมองเธออย่างเสียดายราวกับเหยื่อตรงหน้าหลุดลอยหายไป
จากนั้นก็เอ่ยขอพิมด้วยสีหน้าอ้อนวอน
" จูบนิดเดียวก็ไม่ได้เหรอ เรายังไม่ได้หย่ากันสักหน่อย แค่แป๊บเดียวนิดเดียว นะ "
พิมทำหน้านิ่งแล้วเอ่ยอย่างเด็ดขาดว่า
" ไม่ได้ค่ะ "
เอ่ยจบเธอก็ลุกขึ้นเดินไปทางบันได้
แล้วเดินขึ้นไปบนห้อง
ตอนนี้เธอโล่งใจและสบายใจสุดๆ เธออารมณ์ดีพรุ่งนี้เธอจะไปเยี่ยมรตีขอลดโทษให้เธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา