คนอย่างเธอแม้จะจน แต่จะขอจนอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี
เมื่อเธอยอมลดศักดิ์ศรีลง เอ่ยขอให้เขาขอเธอแต่งงาน หวังว่าเขาจะสงสารและเมตตาเธอบ้าง
แต่เขากลับปฏิเสธเธออย่างไม่ต้องคิด
ถ้อยคำที่เขาคอยพร่ามว่ารักเธอนักหนาล้วนเป็นแค่การโกหกหลอกลวง
ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เธอรู้สึกพอแล้วเหนื่อยแล้วจริงๆกับความรู้สึกดีๆที่มีให้เขา
[ ฉันจะไม่ยอมเป็นหงส์พิการที่บินไม่ได้เพราะคุณหรอกนะคุณเตชิน
และจะไม่ยอมให้น้ำหนึ่งสมหวังในการรอคอยนั้นเด็ดขาด ]
คิดได้ดังนั้นเธอก็ลุกขึ้นมานั่ง น้ำที่เต็มอ่างล้นทลักออกมา โดยที่เธอไม่สนใจที่จะปิดน้ำเลย
ราวกับว่า จะชำระล้างร่างกายให้สะอาด แล้วให้สิ่งสกปรกที่ชำระล้างไหลไปตามน้ำที่ล้นออก
เธอกลั้นหายใจในน้ำนาน พอลุกขึ้นยืนเหมือนกับเธอตายแล้วได้เกิดใหม่ เปลี่ยนไปเป็นอีกคน
มีแววตาที่ไร้อารมณ์ สีหน้านิ่ง เย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึก
ไม่หลงเหลือความเป็นเธอที่สดใสร่าเริงขี้อ้อนคนเดิมอีกต่อไป
เธอปิดน้ำแล้วก้าวลงจากอ่าง หยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมเนินอกปกปิดร่างกาย
แล้วเดินออกจากห้องน้ำ ตรงไปยังตู้เสื้อผ้า
แล้วยื่นมือไปเปิดตู้เสื้อผ้า
หยิบเอาแผ่นแปะคุมกำเนิดในกระเป๋ามาแปะแล้วหยิบชุดชั้นในกับชุดนอนมาสวมใส่
จากนั้น เธอก็เดินไปนั่งลงหน้ากระจกเสียบปลั๊กแล้วเริ่มเป่าผมอย่างเงียบๆ
แววตาเธอนิ่งสงบมองหน้าตัวเองในกระจกอย่างเย็นชาและไร้อารมณ์
พอเธอเป่าผมเสร็จ ก็ลุกขึ้นเดินออกไปสวนทางกับเตชินที่กำลังเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวพอดี
เขาคว้าแขนเธอไว้แล้วเอ่ย
" คุณเป่าผมให้ผมหน่อยสิ "
" ค่ะ "
เธอเอ่ยเพียงสั้นๆด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา ไม่พูดไม่จาอะไรให้มากความเหมือนอย่างแต่ก่อน
เธอหมุนตัวหันหลังเดินกลับเข้าไปหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา รอเตชินนั่ง
เตชินเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ เธอก็กดปุ่มสวิตซ์เปิดแล้วเป่าผมให้เขาทันทีด้วยสีหน้านิ่งเฉย
ไม่แม้แต่จะมองเขาที่กำลังจ้องใบหน้าของเธออยู่
เมื่อผมเตชินแห้งแล้วเธอก็ปิดสวิตซ์ไดร์เป่าผมแล้วดึงปลั๊กออกพร้อมกับเอ่ยว่า
" เสร็จแล้วค่ะ "
จากนั้นเธอก็เดินออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว
หยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ แล้วหยิบถ้วยกับไข่ขึ้นมาวางบนโต๊ะ
หันไปตั้งกระทะเทน้ำมันลงไป เปิดไฟอ่อนๆทิ้งไว้
จากนั้นก็หันไปตอกไข่ใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ ใส่รสดีกับซอสเล็กน้อย แล้วตีไข่ให้เข้ากัน
เทลงไปทอดในน้ำมันที่เดือดแล้ว
จากนั้นเธอก็ตักข้าวใส่จานแล้วนำไข่ที่ทอดมาวางลงในจานข้าว
หยิบช้อนกับส้อมแล้วเดินออกไปนั่งทานบนโต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ
เตชินเดินเข้ามาได้กลิ่นหอมของไข่ที่ตลบอบอวลไปทั่วห้องเขาก็อยากกินขึ้นมาทันที
จึงเอ่ยว่า
" พิม ผมอยากกินไข่เหมือนกับคุณ ตอนนี้ผมหิวข้าวมากแล้ว คุณช่วยทำให้ผมหน่อย "
ได้ยินดังนั้นพิมจึงเอ่ยขึ้นด้วยแววตาไร้อารมณ์ไม่แม้แต่จะมองเขา
" ฉันทานข้าวอยู่ คุณเรียกป้าใจมาทำให้เถอะ "
เตชินรู้สึกไม่ดีเลยที่พิมเย็นชาใส่เขาแบบนี้
เขารู้สึกหงุดหงิดเขารู้สึกคล้ายกับว่ากำลังจะขาดหรือสูญเสียอะไรบางอย่างไป
แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ จากเขานั้นจึงเอ่ยว่า
" วันนี้ป้าใจลากลับบ้าน ในบ้านเหลือแค่เราสองคน ผมทอดไข่ไม่เป็น "
พิมก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในครัว
สักพักก็เดินออกมาพร้อมกับข้าวไข่เจียวในมือ
วางลงตรงหน้าของเตชินแล้วเธอก็กลับมานั่งทานข้าวของเธอต่อ
ทานเสร็จเธอยกน้ำขึ้นมาดื่ม แล้วลุกไปล้างจานจากนั้นก็เดินออกจากห้องครัว ขึ้นไปบนห้องแล้วนอนต่อ
ไม่นานเตชินก็เดินตามขึ้นมา กลับเข้ามาในห้องแล้วเดินมาที่เตียง
เห็นพิมนอนหันหลัง เขาก็ขึ้นมาบนเตียงแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่ม
ตะแคงตัวหันหน้าไปทางพิมแล้วนอนกอดเธอไว้ในอ้อมแขนเหมือนเดิม เฉกเช่นทุกคืน
ในเช้าวันต่อมาเตชินก็ไปทำงานตามปกติ ตอนเย็นน้ำหนึ่งก็โทรมาหาเขาแล้วเอ่ย
" คุณเตชินจะมาหาน้ำหนึ่งกี่โมงคะ "
" อีกสักพักผมจะออกไปแล้วครับ "
เตชินเอ่ยตอบ
แล้วน้ำหนึ่งก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า
" ค่ะ น้ำหนึ่งจะรอนะคะ "
" ครับ "
พอเลิกงานเตชินก็ออกจากบริษัท ตรงไปยังโรงแรมที่เขาจัดให้น้ำหนึ่งอยู่
กว่าจะออกจากโรงแรม กลับมาบ้านก็มืดค่ำ ถึงบ้านสามทุ่มทุกคืน
พอเข้ามาในห้องก็เห็นพิมเข้านอนแล้ว
และหลับไปแล้วทุกคืน เขาก็ไม่รบกวนเธอ
เพราะคืนนั้นเขาตักตวงเอาความสุขจากเธอไปทั้งคืนแล้ว เขาจึงไม่อยากรบกวนเธออีก
จากนั้นเขาก็เข้าไปอาบน้ำแล้วกลับมานอนกอดเธอเหมือนอย่างเช่นทุกคืน
เย็นวันต่อมาหลังจากที่ผู้ช่วยคังส่งเตชิน
ไปหาน้ำหนึ่งเสร็จ
เขาก็ส่งข้อความมาหาพิมโดยบอกว่า
( คุณพิมครับ ช่วงนี้คุณชายไม่รู้เป็นอะไร
หลังเลิกงานก็มาหาคุณน้ำหนึ่ง วันละสามชั่วโมงที่โรงแรมทุกวันเลยครับ )
พิมเปิดดูข้อความที่ผู้ช่วยคังส่งมา เธอก็พิมถามไปว่า
( ตอนนี้ล่ะ คุณเตชินยังอยู่กับน้ำหนึ่งเหรอ )
จะเห็นแกเป็นภรรยาจริงๆเหรอ
อย่างแกก็เป็นได้แค่ของเล่น
ที่คุณเตชินเบื่อแล้วเท่านั้นแหละ "
จากนั้นน้ำหนึ่งก็ยิ้มเยาะขึ้นแล้วเอ่ยต่อ
" เพียงแค่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นแม่อุ้มบุญ ก็หลงคิดว่าตัวเอง เป็นภรรยาจริงๆของคุณเตชิน ช่างน่าสมเพชจริงๆ "
ได้ยินดังนั้น คิ้วสวยของพิมก็กระตุกวุบ มองไปยังเตชินอย่างเย็นชา
ไม่คิดว่าเขาจะเปิดเผยเรื่องนี้กับน้ำหนึ่งทำให้เธอรู้สึกอับอายไร้ค่า
เธอโกรธจนน้ำตาเกือบจะไหลออกมา
จากนั้นเธอก็หันมาเอ่ยกับน้ำหนึ่งว่า
" ก่อนที่เธอจะมาสมเพชฉัน เธอสมเพชตัวเองก่อนมั้ย
ส่วนเรื่องอุ้มบุญ เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะยอมโง่ทำเรื่องอย่างงั้นเหรอ
แล้วคุณเตชินจะเห็นฉันเป็นภรรยาจริงๆหรือเปล่าหรือจะเห็นฉันเป็นแค่ของเล่น
ฉันไม่สนใจ มันเป็นเรื่องของเขา เพราะฉันไม่เคยสนใจคุณเตชินเลย
และไม่เคยคิดว่าเขาคือสามีด้วยซ้ำ
ที่เธออยากได้เขา จนตัวสั่น
มาเสนอตัวให้เขาถึงที่แบบนี้
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะฉัน
ในเมื่อรู้แล้วว่าฉันไม่ได้ชอบคุณเตชินเลย
เธอก็ควรจะเลิกทำเรื่องสิ้นคิดได้แล้วนะ
แต่หากเธอยังอยากได้เขาอยู่ ก็เอาไปเลย
เพราะฉันไม่ต้องการ
แต่หลังจากนี้ เธอคงจะสู้หน้าสังคมไม่ไหว
รวยแต่ไร้สมองอย่างเธอนี่น่าสมเพชจริงๆ "
เอ่ยจบเธอก็เดินออกไป เตชินลุกขึ้นตามเธอออกไป แต่น้ำหนึ่งกลับจับแขนเขาไว้แล้วเอ่ย
" คุณเตชิน คุณต้องช่วยฉันแก้ข่าวนะ
ตอนนี้เขารู้กันหมดแล้วว่าเราเป็นชู้กัน คุณต้องรับผิดชอบฉันนะคะ "
เตชินยิ้มเยาะขึ้นอย่างร้ายกาจแล้วเอามือของน้ำหนึ่งที่จับแขนเขาปัดออกแล้วเอ่ยอย่างเยือกเย็น
" คุณจะให้ผมรับผิดชอบอะไร ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลย มีแต่คุณที่เอาแต่เข้าหาผม
ที่ผมทำตามที่คุณต้องการ เพราะผมอยากลองใจพิมก็เท่านั้น ผมไม่ได้สนใจคุณเลย
คุณเคยดูถูกพิมยังไง วันนี้สังคมก็จะดูถูกคุณอย่างงั้น
ผมแนะนำให้คุณหยุดคิดที่จะเอาชนะพิมซะ
หากคุณคิดจะไปพูดให้เธอเสียหายหรือกล้ามาว่าเธออีก อย่าหาว่าผมไม่เตือน "
เตชินเอ่ยเตือนขึ้นเสียงเย็น สีหน้าเคร่งขรึมแววตาคมกริบ ดูทรงอำนาจน่าเกรงขาม
จับจ้องบนตัวน้ำหนึ่งอย่างเยือกเย็นจนทำให้น้ำหนึ่งสั่นกลัวขึ้นมาทันที
จากนั้นเขาก็เดินออกไปอย่างองอาจสง่างามตามภรรยาไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา