พอได้สติ แม่มะลิก็เอ่ยขึ้น
" พิมลูกไปช่วยแม่ตักแกงในครัวหน่อย "
" ค่ะ "
พิมเอ่ยตอบ เธอรู้ดีว่าแม่เธอไม่ได้เจตนาจะให้เธอมาช่วยตักแกงอย่างที่พูดหรอก
จากนั้นแม่มะลิกับพิมก็ลุกจากเก้าอี้เดินเข้าไปในครัว
พ่อคำยิ้มแล้วเอ่ยอย่างเป็นมิตร แม้ในใจจะไม่ค่อยพอใจเตชิน
ที่ฉวยโอกาสหอมลูกสาวเขาต่อหน้าอย่างไม่เกรงใจก็ตาม
แต่เขาไม่ใช่คนไม่มีมารยาทที่จะไม่ไว้หน้าแขกที่มาบ้านครั้งแรก
ยิ่งแขกมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับลูกสาวเขาเขายิ่งให้เกียรติ
" มาหนุ่มๆเรากินข้าวต่อ ไม่ต้องเกรงใจนะ "
" ครับ "
ผู้ช่วยคังยิ้มแล้วเอ่ยตอบจากนั้นก็ทานข้าวต่อ
เตชินแอบเป็นห่วงพิม เขาไม่รู้ว่าพิมจะถูกผู้เป็นแม่ตำหนิอะไรหรือเปล่า
เขาได้แต่ชะเง้อมองเข้าไปในครัว
เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องครัวแล้ว แม่มะลิก็เอ่ยกระซิบถามลูกสาวเสียงเข้มด้วยความสงสัย
" เขาเป็นอะไรกับลูก ลูกพูดความจริงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ
ตั้งแต่ลูกตกต้นไม้แล้ว เขาโผล่มารับลูก ก็ว่าแปลกๆแล้ว
นี่ยังมาฉวยโอกาสทำแบบั้นกับลูกอีก แม่กับพ่อรับไม่ได้ เขาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนของลูกใช่มั้ย "
พิมไม่รู้จะบอกแม่ยังไง เธอก้มหน้ายืนนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นทำให้ผู้เป็นแม่ร้อนใจเอ่ยถามต่อ
" ลูกมีเรื่องอะไรที่ปิดบังพ่อกับแม่อยู่ใช่มั้ย ลูกบอกมาสิ เขาเป็นแฟนของลูกหรือเปล่า
ลูกกลัวอะไร พ่อกับแม่รู้และเข้าใจดีว่าลูกโตเป็นสาวแล้ว มีแฟนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่ลูกมาก้มหน้าเงียบใส่แบบนี้แม่ไม่สบายใจเลยนะพิม พูดมาว่าเขาเป็นอะไรกับลูก "
เขารู้นิสัยของลูกเขาดี เวลาพิมทำอะไรผิดมา จะไม่กล้าพูด จะชอบก้มหน้านิ่งเงียบแบบนี้ตลอด
ยิ่งพิมเงียบเขายิ่งรู้สึกไม่ดีและรู้สึกโมโหขึ้นมานิดๆแล้วเอ่ยเสียงดุ
" พิม แม่ขอถามอีกครั้งนะ เขาเป็นอะไรกับลูก "
พิมก้มหน้าน้ำตาคลอเบ้าด้วยความรู้สึกผิด
และเสียใจที่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
ถ้าพ่อแม่เธอรู้ว่าเธอไม่ได้ไปทำงานอย่างที่เธอพูด แต่ไปเป็นเมียเก็บของเตชิน
เธอไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอจะเสียใจแค่ไหน
แม้ว่าพ่อกับแม่ของเธอ จะบอกว่าไม่โกรธ แต่เธอก็ยังไม่กล้าพูดอยู่ดี
เธอเงยหน้าขึ้นมาน้ำตาไหลพราก กำลังจะปฏิเสธ
เตชินก็เดินเข้ามาพร้อมกับพ่อคำและผู้ช่วยคัง
เตชินไม่เคยเห็นพิมกลัวจนร้องให้แบบนี้มาก่อน
เขารู้สึกสงสารและความรู้สึกผิดได้ก่อตัวขึ้นมาในใจอย่างเงียบๆ
พิมเหลือบไปมองเตชินทั้งน้ำตาด้วยความโกรธแค้น เกลียดที่เขาทำให้เธอเป็นแบบนี้
เตชินเดินเข้ามาหาเธอแล้วมองไปยังแม่กับพ่อของพิม แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง
" ผมขอโทษครับ คุณลุง คุณป้า ผมกับพิมเราเป็น--- "
" เพี๊ยะ!!! "
พิมง้างมือขึ้นมาตบ ในขณะที่เตชินพูดยังไม่ทันจบ
เธอตบไปที่หน้าเขาอย่างจังแล้วเอ่ยเสียงกร้าวชี้นิ้วไปยังทางออก
" ออกไปเลยนะ นายออกไปจากบ้านฉันเลย
ฉันไม่ต้อนรับนาย ออกไป! "
เตชินก็เริ่มโกรธที่พิมตบหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าต่อหน้าคนอื่น
จากนั้นเขาก็คว้ามือเธอมากุมไว้แน่นที่อกด้วยสีหน้าโกรธจัด
แล้วเอ่ยอย่างหนักแน่นโดยไม่สนใจพิมอีกต่อไป
" ผมกับพิม เราเป็นสามีภรรยา เราจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ขอให้คุณลุงคุณป้าอนุญาตให้เราแต่งงานกันด้วยครับ "
พิมโกรธจัดพยายามดึงมือกลับมา แต่แต่ชินกลับไม่ยอมปล่อย เธอจึงเอ่ยขึ้นเสียงกร้าว
" เตชิน! นายพูดบ้าอะไร นายทำแบบนี้ทำไม "
เตชินมองเธอแล้วเอ่ยเสียงเบาลงเป็นเสียงปกติ
" ถ้าผมไม่ทำแบบนี้คุณก็จะฟ้องหย่ากับผม
ผมยอมให้คุณหย่า แล้วไปคบคนอื่นไม่ได้
ผมรู้ว่าในใจคุณมีแต่คุณป๊อบ แต่ผมก็รักคุณมากเหมือนกันนะพิม "
พ่อคำกับแม่มะลิตกใจ นิ่งเงียบไปช็อกกับสิ่งที่ได้ยินแล้วแม่มะลิก็เป็นลมล้มไป
" แม่! / แม่มะลิ! "
พิมกับพ่อคำร้องเสียงหลงด้วยความตกใจที่เห็นแม่มะลิเป็นลมล้มพับไป
เตชินเข้าไปรับตัวแม่ของพิมมาโอบไปไว้แล้วเอ่ยกับผู้ช่วยคังว่า
" ไปเอาแอมโมเนียมหอมในรถมา "
" ครับ "
ผู้ช่วยคังเอ่ยตอบแล้วหันหลังออกไป เตชินจึงเอ่ยถามพ่อของพิมต่อว่า
" ห้องคุณป้าอยู่ไหนครับ "
" ทางนี้ๆ คุณตามมาเลย "
พ่อคำเอ่ยแล้วเดินนำไป เตชินอุ้มแม่ของพิมขึ้นมาแล้วเดินตามพ่อคำไป
พ่อคำเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วไปเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
แต่สิ่งหนึ่งที่เขาพอจะเดาได้
ที่ทำให้เขารู้สึกผิดหวังและเสียใจในตัวลูกสาวของเขาคือ
ลูกสาวเขาทำเพื่อเงินแน่นอน เพราะเขารู้นิสัยของลูกเขาดี
ส่วนรายละเอียดของเรื่องนี้เขาไม่รู้ แต่เท่าที่ฟังจากคำพูดของลูกเขยในอนาคตแล้ว
คนที่ลูกเขามีใจให้จริงๆน่าจะเป็นอาจารย์ที่ลูกเขาเคยพูดถึง ให้ฟังบ่อยๆ
เพราะงี้ เขาถึงเดาอย่างมั่นใจว่าต้องมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องแน่
แต่สิ่งที่ลูกเขาทำนั้น ทางออกเดียวคือแต่งงาน ถึงจะไปกันไม่รอด
เลิกกันในภายหลัง ก็ดีกว่าถูกเรียกว่าเป็นเมียเก็บนอกจากจะไม่เป็นที่ยอมรับแล้วยังเป็นที่ดูถูกของคนอื่นอีก
เพราะสังคมที่เขาอยู่นั้นไม่เหมือนสังคมในเมืองใหญ่ที่จะไม่แคร์เรื่องพวกนี้
เมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว พิมจึงเอ่ยอธิบายพร้อมกับอ้อนวอนผู้เป็นพ่อ
" พ่อคะอย่าให้หนูแต่งกับเขาเลยหนูขอร้อง มันยังมีทางออกที่ดีกว่านี้
อีกอย่างเราสองคนไม่ได้รักกัน ที่จดทะเบียนก็จดกันอย่างลับๆไม่มีใครรู้
แล้วหนูก็กำลังจะไปหย่ากับเขา พ่ออย่าบังคับให้หนูแต่งงานกับเขาเลยนะคะ "
เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดว่า ไม่ได้รักกันอีกแล้ว เขาไม่พอใจขึ้นมาทันที
จึงเอ่ยว่าอย่างเคร่งขรึมด้วยน้ำเสียงสุขุมลุ่มลึก
" ผมไม่เคยบอกว่าผมไม่ได้รักคุณ หรือคุณจะให้ผมพิสูจน์ต่อหน้าพ่อของคุณ ว่าผมรักคุณแค่ไหน
คุณขอให้ผมขอคุณแต่งงานตามขนบธรรมเนียมประเพณี
ผมก็ทำตามที่คุณต้องการแล้ว เพราะผมรักคุณไง ผมจะต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อผม "
เธอหันไปทางเตชินด้วยความโกรธเคืองมองเขาด้วยแววตาเกลียดชัง
จนพ่อคำต้องเอ่ยปรามขึ้นว่า
" ลูกอย่าใช้สายตาแบบนั้นมองคนอื่น "
ได้ยินพ่อเธอปรามแบบนั้น เธอก็ไม่มองเตชินอีก จากนั้นพ่อคำก็เอ่ยต่อว่า
" ลูกสองคนคุยกันดีๆ พ่อขอตัวไปดูแม่ก่อน
เดี๋ยวพ่อจะอธิบายเรื่องแต่งงานของลูกให้แม่เอง "
เอ่ยจบพ่อคำก็หมุนตัวหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้อง
พิมจึงหันมาเอ่ยกับเตชินด้วยสีหน้าเย็นชา
" คุณร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ ถึงกับใช้พ่อแม่ของฉันเป็นเครื่องมือในการหยุดฉันไม่ให้หย่า
แต่ถึงเราจะแต่งงานกัน คุณจำไว้เลยว่าฉันไม่มีทางท้องลูกให้คุณแน่นอน "
เอ่ยจบเธอก็เดินออกไป เตชินจับราวระเบียงก้มหน้าลงอย่างเหนื่อยใจ
ใบหน้าแสดงความทุกข์ใจออกมาชัดเจน
เขาเผลอปากขอพิมแต่งงาน
เพราะตอนนั้นเขามีความรู้สึกสงสารและรู้สึกผิดต่อเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา