ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา นิยาย บท 69

เตชินรู้อยู่แล้ว ว่าเธอต้องพูดแบบนี้ แต่เขาไม่สนใจหรอก

เพราะยังไงตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเขา

การมีลูกกับเธอก็จะง่ายขึ้น เธอไม่ต้องไปกังวลหรือกลัวอะไรอีก

เมื่อวิ่งกลับไปถึงบ้าน ทั้งสองก็เดินขึ้นไปบนบ้าน แม่มะลิที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว

เห็นลูกสาวกับลูกเขยกลับมาแล้ว เขาก็เอ่ยขึ้น

" พิม ลูกอาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้าอะไรเสร็จพาคุณเตชินออกมากินข้าวเช้าเลยนะ "

" ค่ะ แม่ "

พิมเอ่ยตอบแม่ แล้วเธอก็เดินเข้าไปในห้อง เตชินมองไปยังห้องครัว ที่ทำแยกออกไปอีกหลังแต่เชื่อมต่อกันกับตัวบ้าน

แล้วมองตามหลังพิมที่เดินเข้าห้องไป เขารู้สึกว่าครอบครัวของเธอดูอบอุ่นเป็นกันเอง

ใช้ชีวิตสบายๆอยู่กับธรรมชาติ เขาอิจฉาชีวิตที่มีความสุขของพิมเข้าแล้ว

แม้พ่อกับแม่ของพิมจะไม่ค่อยชอบเขา แต่พ่อแม่ของพิมก็ปฏิบัติกับเขาอย่างให้เกียรติ

ไม่แสดงท่าทีที่ทำให้เขารู้สึกลำบากใจเลย

แต่กลับกัน

เขากลับรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้อง พ่อของพิมก็ออกมาตั้งโต๊ะอาหาร

ส่วนแม่ของพิมก็ตักข้าวตักแกงใส่โถ เตรียมไว้

พอพิมกับเตชินอาบน้ำเสร็จ ก็เปิดประตูเดินออกมาจากห้อง

พิมเห็นพ่อกำลังตั้งโต๊ะกินข้าวเธอจึงเอ่ย

" พ่อ หนูช่วยค่ะ "

พ่อคำที่กำลังจัดโต๊ะอยู่ก็เอ่ยขึ้น

" ไม่ต้องหรอกลูก จะเสร็จแล้ว ลูกไปยกกับข้าวกับปลาช่วยแม่เลย "

" ได้ค่ะ "

พิมเอ่ยตอบแล้วเดินเข้าไปในครัว เธอรู้สึกได้ถึงเตชินที่ยังนิ่งเฉยไม่ตามเธอมา

เธอจึงหันหลังกลับไปมองเขาแล้วเอ่ย

" คุณเตชินยืนบื้ออยู่ทำไม มาช่วยกันยกกับข้าวสิ ที่นี่ไม่เหมือนบ้านคุณหรอกนะ

หิวข้าวก็ต้องหากินเอง ไม่มีแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงคอยเสิร์ฟข้าวปลาอาหารให้คุณถึงที่หรอก

อีกอย่างบ้านเราไม่ถือว่าคุณเป็นแขกแล้ว

เราจะไม่บริการคุณแล้วค่ะ

อยู่แบบช่วยกันทำมาหากิน อยู่ได้ก็อยู่

อยู่ไม่ได้ก็หย่า "

เอ่ยจบพิมก็เดินเข้าไปในครัวโดยไม่สนใจเตชินอีก

แม้คำพูดของพิมจะฟังดูห้วนๆไม่รื่นหู แต่ก็ทำให้เตชินยิ้มได้และแอบดีใจ

ที่บ้านพิมยอมรับเขาเป็นคนในครอบครัวแล้ว

เตชินตามพิมเข้าไปในครัว แม่มะลิก็ยื่นโถข้าวลายไทยสีเงินไปให้เขาพร้อมกับเอ่ย

" คุณเตชินยกโถข้าวออกไปวางเลยค่ะ เดี๋ยวแม่จะยกโถแกงออกไปเอง "

" ครับ "

จากนั้นเตชินก็ยกโถข้าวออกไปวางบนโต๊ะ

พิมเดินเข้ามา

ในมือถือถ้วยจานและช้อนส้อม มาจัดเรียงบนโต๊ะ

แล้วตักข้าวตักแกงใส่ถ้วยจาน พ่อของพิมเดินไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็น

แล้วกลับมานั่งที่โต๊ะพร้อมกับแก้วน้ำในมือครบจำนวนคน

จากนั้นทุกคนก็นั่งทานข้าวเช้ากันอย่างเงียบๆ

แม่ของพิมเห็นว่าพิมไม่ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเลยสนใจแต่ข้าวตรงหน้าของตัวเอง เขาจึงเอ่ยขึ้น

" พิม ตักกับข้าวให้คุณเตชินสิลูก "

พิมเงยหน้ามองแม่อย่างไม่เข้าใจ แล้วเธอก็เอ่ยขึ้นแย้งขึ้น

" แม่คะ นี่มันยุคสมัยไหนแล้วคะ เขามีมือก็ให้เขาตักเองสิ

ทำไมต้องให้หนูมาดูแลเรื่องจุกจิกเล็กน้อยพวกนี้ด้วยคะ

เขาสิที่ต้องมาดูแลหนู ไม่ใช่ให้หนูไปดูแลเขา "

แต่เธอก็ทำตามคำสอนของพ่อแม่อย่างเชื่อฟัง

ทำให้เขารู้สึกรักเธอมากขึ้น อยากครอบครองเธอทั้งตัวและหัวใจ

เขารู้สึกว่าพิมกับพ่อของเธอ จะมีความคล้ายกันอย่างคือ

เวลาพูดอะไรมักจะทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่ชวนให้คิดต่อเสมอ

จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดีว่า

" อะไรที่ภรรยาผมชอบ ผมก็กินได้ทั้งนั้นแหละ ไม่คิดที่จะเขี่ยทิ้งแน่นอน "

พิมก้มหน้าสนใจข้าวของตัวเองพร้อมกับเอ่ย

" อย่าพูดมากความ รีบๆกินข้าว เดี๋ยวพ่อฉันจะไปทำงานอยู่ "

แม่มะลิเห็นดังนั้นก็ยิ้มขึ้นมาอย่างเบาใจพร้อมกับมองไปยังพ่อคำ

แล้วเลื่อนสายตากลับไปมองลูกสาวพร้อมกับพึมพำในใจ

[ พิมก็คือพิมวันยังค่ำ แข็งนอก อ่อนใน ]

เมื่อทานข้าวเสร็จพิมกับเตชินก็ช่วยกันล้างจาน

เก็บโต๊ะ

ส่วนพ่อคำกับแม่มะลิก็ขี่รถออกจากบ้านไปนา ระหว่างทางแม่มะลิจึงเอ่ยกับพ่อคำว่า

" พ่อจะว่าไป คุณเตชินเขาก็ดูเอาใจใส่ลูกเราดีเน้อพ่อว่ามั้ย "

พ่อคำจึงเอ่ยตอบไปว่า

" อืมเขาก็ดี แต่ของแบบนี้มันต้องดูกันนานๆ

วันนี้เขาอาจดี วันหน้าอาจจะไม่ดีหรือเปล่า

เราก็ไม่สามารถรู้ได้ ก็ดูๆไปแล้วกัน อย่าเพิ่งให้ใจคนรวยๆอย่างเขาเลย

เขามีโอกาสนอกใจลูกเราได้ทุกเมื่อ จะทำให้ลูกเราช้ำใจเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

คนรวยๆน่ะมักจะชอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยกัน

ถ้าเขาทำให้ลูกพิมช้ำใจ ผมจะไม่ให้ลูกทนกับเรื่องแบบนั้นแน่นอน "

รถกระบะของสองสามีภรรยาค่อยๆแล่นไปบนถนนคอนกรีตในความเร็วพอดี มุ่งหน้าไปยังที่นาของตนเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา