ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา นิยาย บท 87

คนใต้ร่างแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะๆด้วยความรู้สึกเสียวซ่านเจือความทรมาน

เตชินตักตวงเอาความสุขจากตัวเธออย่างหื่นกระหายคล้ายชดเชยช่วงเวลาที่ผ่านมา

เมื่อเตชินเผด็จศึกที่เร่าร้อนและร้อนแรงบนเตียงใหญ่สงบลง

เขาก็จูบไปที่หน้าผากของคนใต้ร่างอย่างทะนุถนอมด้วยความรักใคร่เสน่ห์หา

พิมที่อยู่ใต้ร่างตัวอ่อนปวกเปียกไร้เรียวแรงที่จะต่อต้านหรือมีความรู้สึกอื่นทำได้เพียงนอนตะแคงตัวหันออกไปอย่างไร้ความรู้สึก

เตชินนอนลงข้างหลังเธอแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมกอดแน่น ให้แผ่นหลังเนียนนุ่มแนบชิดกับอกแกร่งของเขา

เมื่อนอนพักไปสักพัก พิมรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเริ่มหายเหนื่อยบ้างแล้ว

เธอก็ลุกไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จเธอใช้ผ้าเช็ดตัวมาห่อหุ้มปกปิดร่างกาย

แล้วเดินออกมาเก็บเสื้อผ้าที่ตกกระจัดกระจายบนพื้น ขึ้นมาสวมใส่

จากนั้นเธอก็ออกจากห้องไปอย่างรีบร้อน

เตชินที่เพิ่งลืมตาตื่นก็เห็นเธอรีบออกไป เขาก็รีบลุกขึ้นมาหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วตามเธอออกไปทันที

พิมลงมาถึงลานจอดรถก็ปลดล็อครถทันที จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เป็นเวลาตีหนึ่งครึ่งแล้ว

[ วันนี้มีงานต้อนรับ ผอ. คนใหม่ด้วยสิ หวังว่าจะไปถึงโรงเรียนตามเวลาที่นัดเด็กไว้นะ ]

เธอก้มมองโทรศัพท์พึมพำในใจอย่างร้อนใจ

เพราะไม่อยากให้เด็กเป็นฝ่ายมารอเธอที่โรงเรียนในยามวิกาล

เตชินลงมาถึงก็เปิดประตูเข้ามานั่งในรถ แล้วหันไปเอ่ยกับเธออย่างไม่พอใจด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

" คุณคิดจะหนีผมไปอีกแล้วใช่มั้ย เมื่อไหร่คุณจะเลิกคิดที่จะทิ้งผมไปสักทีพิม "

พิมมองเขาอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยเสียงเย็น

" ลงไป "

" พิม คุณอย่าทำตัวเย็นชากับผมแบบนี้ได้มั้ย "

เตชินเอ่ยเสียงเรียบอย่างไม่พอใจสบตากับ

แววตาสวยด้วยสีหน้านิ่ง

พิมเห็นดังนั้นเธอก็ตวาดใส่เขาเสียงดังด้วยสีหน้าดุดัน

เพราะเธอร้อนใจเรื่องเวลาและไม่มีเวลามาทะเลาะกับเขาให้เสียเวลา

" คุณเตชินฉันบอกให้ลงไป คุณฟังไม่รู้เรื่องหรือไงห๊ะ! "

เตชินเริ่มโมโหที่ถูกเธอตวาดใส่ จึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน

" พิม! คุณใจเย็นๆได้มั้ย ดึกๆดื่นๆแบบนี้คุณจะไปไหน ผมเป็นห่วงคุณนะ คุณเป็นผู้หญิงขับรถกลางคืนคนเดียวมันอันตราย "

พิมทั้งโมโหทั้งร้อนใจเรื่องเวลา เธอมองหน้า

เตชินแล้ว ดูท่าถ้าทะเลาะคงจะเสียเวลาไปเป็นชั่วโมง

เธอเม้มริมฝีปากแน่นผ่อนลมหายใจออกมาแล้วมองดูเวลาในโทรศัพท์ ตอนนี้เป็นเวลาตี 1:40 แล้ว

[ เสียเวลาไปอีก 10 นาทีแล้ว ]

เธอไม่มีเวลาแล้วจึงมองไปที่เตชินอย่างเย็นชาแล้วไม่พูดไม่จาอะไรอีก

จากนั้นเธอก็หันมาสตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความมืด

สายตาจดจ่ออยู่บนถนนมือจับพวงมาลัยแน่นขับไปอย่างมีสมาธิ

เตชินที่นั่งข้างๆเห็นเธอใช้สมาธิในการขับรถอย่างมากและดูรีบร้อน เขาก็นึกสงสัยและเป็นห่วงเธอขึ้นมา

[ คุณรีบร้อนจะไปไหนเวลานี้กันนะพิม ]

จากนั้นเขาก็เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อน

" พิม คุณจะรีบร้อนไปไหน ค่อยๆขับไปก็ได้มันมืดคุณขับเร็วแบบนี้มันอันตรายนะ "

" คุณหุบปากแล้วอยู่เฉยๆเลยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณฉันจะต้องมาเสี่ยงขับรถเร็วแบบนี้มั้ย "

พิมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแววตาดุดันจดจ่ออยู่บนเส้นทางข้างหน้าอย่างมีสมาธิ

เตชินกลัวเธอจะเกิดอุบัติเหตุจึงพยายามเอ่ยกับเธออย่างใจเย็น

" ถ้าคุณรีบ งั้นคุณให้ผมขับให้นะ "

ได้ยินเตชินพูดดังนั้น เธอเหยียบเบรคแล้วจอดรถทันที เพราะเตชินขับรถเก่งกว่าเธอ

" สลับที่ "

เธอเอ่ยเพียงสั้นๆด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วเปิดประตูลงจากรถ สลับที่กับเตชิน

ตอนนี้เธอไม่มีเวลามาใช้ความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องกับงานในหน้าที่แล้ว

ที่สำคัญคือ เธอเป็นห่วงเด็ก กลัวเด็กจะรอนาน เมื่อเข้ามาในรถเธอก็เปิดแม็ปให้เตชิน

พอเตชินเห็นก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้

" คุณจะไปที่โรงเรียนทำไม แล้วทำไมต้องไปตอนนี้ "

พิมมองเขาแล้วเอ่ยอย่างรำคาญ

" คุณอย่าถามมากได้มั้ย รีบๆไปเร็วฉันไม่มีเวลาแล้วและไม่มีอารมณ์มาอธิบายด้วย "

" ครับๆ คุณภรรยา "

เตชินเอ่ยอย่างหยอกล้อ ด้วยความเข้าใจ เพราะถ้าเธอไม่รีบ เธอคงจะไม่ยอมให้เขาตามมาแน่

เขาแอบอมยิ้มแล้วขับรถออกไปทันทีและแอบขอบคุณเวลาในใจเบาๆ

เตชินขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว พิมนั่งข้างๆด้วยสีหน้าร้อนใจ

มือกำโทรศัพท์แน่นแล้วมองดูนาฬิกาในโทรศัพท์เป็นระยะๆ

ไม่นานเตชินก็ขับรถมาถึงโรงเรียนที่พิมสอนได้ทันเวลาพอดี

พิมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วยิ้มขึ้นอย่างสบายใจ พร้อมกับหันไปเอ่ยกับเตชิน

" ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่ได้คุณขับรถให้ฉันอาจจะเลทเวลานัดแน่เลย "

เห็นสีหน้าเธอดูโล่งดูผ่อนคลายขึ้นเตชินก็ยิ้มแล้วเอ่ย

" เห็นคุณยิ้มได้อย่างสบายใจแล้วทำให้ผมมีความสุขมากเลยนะพิม "

ได้ยินดังนั้นพิมก็ได้สติ กลับมาปรับหน้านิ่งแล้วเอ่ยเสียงเรียบ

" คุณอยู่ในรถนะ อย่าลงไปเดินเพ่นพ่านเด็ดขาด เพราะนักเรียนที่นี่สนใจข่าวที่คุณแต่งงานมาก

เธอก็แต่งตัวให้เด็กเสร็จเรียบร้อยทุกคน จากนั้นข้าวกล่องที่เธอสั่งให้เด็กไว้ก็มาส่ง

พ่อค้าโทรเข้ามาหาเธอ เมื่อเธอรับสายพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น

" ข้าวกล่องที่สั่งได้แล้วนะครับครู ตอนนี้ผมอยู่นอกรั้วหน้าโรงเรียนครับ "

" ค่ะๆ เดี๋ยวจะออกไปรับค่ะ "

แล้วเธอก็ลงไปรับด้วยตนเอง จากนั้นก็ถือถุงข้าวกล่องเดินกลับเข้ามาในอาคาร

เธอเหลือบไปเห็นรถของตัวเองก็นึกขึ้นได้ว่ามีคนรออยู่ในรถ เธอจึงหมุนตัวแล้วเดินมาที่รถ

เตชินลดกระจกลงมองเธอแล้วยิ้มให้ราวกับเด็กที่เชื่อฟังอย่างว่านอนสอนง่าย

เธอมองเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉย แล้วหยิบเข้ากล่องขึ้นมา ยื่นให้เขาพร้อมกับเอ่ยอย่างเย็นชา

" รองท้องไปก่อน ทานได้ก็ทาน ทานไม่ได้ก็ทิ้งไป ที่นี่ไม่มีของดีๆแพงๆให้คุณทานหรอกนะ

ถ้าอยากทานของดีๆก็กลับเข้าไปในเมืองเลย "

เตชินรับข้าวกล่องจากเธอแล้วเอ่ยอย่างยิ้มๆ

" อยู่กับคุณ อะไรผมก็ทานได้ทั้งนั้นแหละ "

พิมไม่สนใจเขาอีก แล้วเดินเข้าไปในอาคารที่เด็กรออยู่

แล้วแจกข้าวให้เด็กๆคนละกล่อง เด็กๆรับข้าวมาแกะกล่องและทานกันอย่างเงียบๆ

พวกเขาเห็นครูพิมไม่ทานข้าวมัวแต่เก็บเครื่องสำอางก็เลยเอ่ยถามขึ้น

" ครูพิมไม่ทานข้าวเช้าเหรอ เดี๋ยวจะปวดท้องเอานะคะ ครูพิมยิ่งเป็นโรคกระเพาะอยู่ "

เด็กอีกคนก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปยังถุงข้าวกล่องที่ว่างเปล่า

" ครูพิมลืมสั่งข้าวให้ตัวเองเหรอคะ งั้นพวกเราแบ่งข้าวให้ครูครึ่งหนึ่งนะคะ

ส่วนเครื่องสำอางแสดงเสร็จแล้วพวกเราจะกลับมาเก็บเองค่ะ "

พิมยิ้มให้นักเรียนแล้วเอ่ย

" ขอบคุณที่เป็นห่วงครูนะ พวกหนูทานให้อิ่มเถอะ เดี๋ยวครูค่อยออกไปหาทานข้างนอกเอาก็ได้ ไม่ต้องห่วงค่ะ "

เด็กนักเรียนรู้ดีว่าหลังจากนี้ครูพิมของพวกเขาจะไม่มีเวลาทานข้าวแล้ว

พวกเขาก็แบ่งข้าวให้ครูพิม แม้พิมจะปฏิเสธไปแล้ว

แต่เมื่อเด็กมีใจแบ่งมาให้ เธอก็ไม่อาจปฏิเสธน้ำใจของเด็กได้อีก

เธอรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจที่บริสุทธิ์ของเด็กมัธยมกลุ่มนี้ของเธอมากๆ

แล้วเด็กก็เอาข้าวมาให้เธอพร้อมกับเอ่ย

" ทานรองท้องด้วยกันนะคะครูพิม "

พิมพยักหน้าเม้มปากแน่นรับข้าวจากนักเรียนยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างสุขล้น

การเป็นข้าราชการแม้จะเงินเดือนน้อย แต่อาชีพครูให้คุณค่าทางจิตใจ ทำให้เห็นค่าของคน

สร้างคนให้เป็นคนดีในสังคม สร้างคนให้มีจิตใจที่บริสุทธิ์

การได้รับความรัก ความจริงใจที่บริสุทธิ์จากเด็กทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา