ฟู่สือถิงรู้สึกว่าท่าทีของเธอรุนแรงเกินไป ดังนั้นจึงนั่งลงข้างเธอ
พี่เลี้ยงเด็กเดินถือชามซุปไก่เข้ามา ครั้นเห็นพวกเขาสบสายตากันและกัน ดวงตาจับจ้องกันไม่คลาย ก็รีบวางชามซุปลงแล้วถอยออกไปอย่างรู้กาลเทศะทันที
“ถ้าเขาเหนื่อยจริง เขาอยากจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านนานเท่าไหร่ก็ได้ ผมไม่คัดค้านหรอก” เขากลัวเด็ก ๆ จะได้ยินจึงลดเสียงลง “ตอนนี้ก็เปิดเทอมมาหนึ่งเดือนแล้ว เขาพักผ่อนอยู่บ้านหนึ่งเดือนแล้วยังพักไม่พอเหรอ?”
“ไว้ฉันจะคุยกับเขาอีกทีค่ะ” ฉินอันอันยกชามซุปขึ้น ตักซุปหนึ่งช้อนเข้าปาก
“ผมเกรงว่าเขาไม่ใช่แค่เหนื่อย แต่กำลังปิดบังบางอย่างกับคุณ” ฟู่สือถิงหยิบช้อนซุปจากมือของเธอ “ลูกชายของคุณซับซ้อนกว่าที่คุณคิดมาก”
เธออยากเอาช้อนซุปคืนมาจากเขา ผลกลับเป็นเขาค่อย ๆ ตักน้ำซุปแล้วป้อนเข้าปากเธอ
“ฉันไม่ได้อยากให้คุณป้อน” เธอหน้าแดงแล้วเอาช้อนกลับคืนมา “ฉันโทรหาคุณครูของเขาเป็นการส่วนตัวแล้ว คุณครูบอกว่าเขาเข้ากับเพื่อนที่ชั้นเรียนได้ดี และตอนค่ายปิดเทอมฤดูร้อนก็ปกติมากด้วย”
“นอกเหนือจากเพื่อนร่วมชั้นแล้ว เขายังอาจจะติดพันกับสิ่งอื่น ๆ ได้ด้วย” ฟู่สือถิงยืนกรานการคาดเดาของตนเอง “ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาไม่มีปัญหาที่โรงเรียน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะพักอยู่บ้านนานเป็นเดือนแบบนี้”
เดิมทีฉินอันอันไม่ได้สงสัยเรื่องนี้เลย บัดนี้พอเขาพูดแบบนี้ เธอก็กังวลขึ้นมาทันที
“ดื่มซุปก่อนเถอะ” เขายกชามซุปขึ้นมาจิบช้า ๆ แล้ววิเคราะห์ว่า “ถ้าคุณถามตรง ๆ เกรงว่าจะไม่ได้อะไร คุณต้องไปถามไมค์”
“ฉันรู้แล้วค่ะ ไว้ไมค์กลับมา แล้วฉันจะถามเขา” เมื่อดื่มน้ำซุปเสร็จ ฉินอันอันพูดเสียงกระซิบว่า “พูดเสียงเบาแบบนี้ คนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเราสมรู้ร่วมคิดกัน”
“เขาเพิ่งออกมา พอเห็นผมอยู่เลยกลับเข้าห้องไป” เขาพูดต่อด้วยเสียงแผ่วเบา
“อ้อ…หรือว่า…”
“หรือให้ผมไปคุยกับเขาไหม?” เขาขัดจังหวะเธอ “ถ้าความบาดหมางระหว่างผมกับเขาไม่ได้รับการแก้ไข พอผมย้ายมาอยู่ด้วย จะเกิดความขัดแย้งเอานะ”
ฉินอันอันเลิกคิ้วและมองตรงไปที่ดวงตาแรงกล้าของเขา “คุณคิดว่าคุณสามารถแก้ไขความบาดหมางระหว่างพวกคุณได้ไหมล่ะคะ? การมีความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี แต่เห็นได้ชัดว่าคุณมีความมั่นใจเกินไป”
“แล้วคุณคิดว่าผมควรทำยังไง?” เขาโดนเธอโจมตี อารมณ์จึงเย็นลง “เขาไม่ยอมรับความปรารถนาดีของผมเลย พอเห็นผม เขาก็ซ่อนตัวทันที ผมจนปัญญากับเขาแล้ว”
ปัญหายุ่งยากนี้ เขาไม่โทษเสี่ยวหาน ทั้งหมดเกิดจากเขาเอง
“ครั้งต่อไปคุณไม่ทำผิดเพิ่มอีกก็พอ” เธอเองก็คิดหาวิธีที่ดีไม่ได้ “เสี่ยวหานเป็นคนพูดน้อย คุณต้องอดทนหน่อย”
“ตกลง” เขาเก็บคำพูดของเธอไว้ในใจ “วันนี้คุณไม่ได้งีบหลับตอนเที่ยงเลย ตอนนี้อยากนอนสักหน่อยไหม?”
ถ้าเขาไม่ได้เห็นมันด้วยตาตัวเอง เสี่ยวหานเองก็ไม่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง
ตกกลางคืน
ฉินอันอันมาเปิดใจคุยกับสี่ยวหาน
เสี่ยวหานพูดขึ้นก่อน “แม่ครับ สัปดาห์หน้าผมจะไปโรงเรียน”
ฉินอันอันเตรียมร่างบทพูดยาวเหยียดไว้ในใจ แต่ยังไม่ทันเริ่มพูด ผลคือคำพูดของลูกชายทำให้หัวข้อจบลงไปเสียก่อน
“ลูกพักผ่อนเสร็จพอแล้วเหรอ?” ดวงตาเธอกะพริบ
“ครับ พักผ่อนพอแล้ว” เสี่ยวหานตรวจสอบข้อมูลและส่งให้ไมค์แล้ว ไมค์จะตรวจสอบส่วนที่เหลือเอง
พวกเขาต้องการเริ่มจากดาร์คเว็บนี้เพื่อเปิดโปงถังเชี่ยน
นั่วนั่วเป็นแค่หุ่นเชิดเท่านั้น คนที่ควบคุมนั่วนั่วอยู่เบื้องหลังจริง ๆ แล้วต้องเป็นถังเชี่ยน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รอวันหย่า คุณสามีร้าย
ทนความโง่ของนางเอกไม่ไหว ทำไมต้องให้เสิ่นอวี๋ได้หน้า ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย ถ้าไม่อยากเปิดเผยตัว ก็ส่งข้อความผ่านเว่ยเจินได้นี่ว่าผ่าตัดเสร็จแล้ว ต้องดูแลอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วที่นังเสิ่นแท้ง ก็บอกให้ตรวจดีเอ็นเอสิ เพคาะตัวเองก็สงสัยว่าทำไมมันถึงจงใจให้แท้ง ตอนหลังมารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ยังจะเก็บเงียบ ไม่บอกพระเอก ด้วยเหตุผลประสาท ๆ ว่าไม่อยากให้รู้สึกแย่ เอิ่ม แล้วปล่อยให้ถูกหลอกว่าเป็นคนรักษาน้องจนหายดี หลอกว่ามีลูกด้วย แบบนี้คือ ดีกว่าเหรอ งงกับตรรกะ...
ยังไงก็ให้อภัยไม่ได้ที่บังคับให้ทำแท้ง ต่อให้นางเอกยื้อลูกเอาไว้ได้ก็เหอะ ทำไมชอบเขียนให้นางเอกอภัยให้คนแบบนี้ นี่เป็นการใช้ความรุนแรงและการฆ่าคนชัด ๆ...
ตามหลายเรื่องอัพเดทไม่จบซักเรื่อง😂😂...
หยุดอัพเดท..หลายเรื่องมาก😂😂...
กำลังสนุก โดนเทอีกแล้ว😂😂😂...
รออยู่นะคะ...
อยากได้วันละ5ตอนเหมือนเดิมได้ไหมคะ🤩😍🥰...
แอดมิน..ให้อ่านวันละ1ตอน😁😁😁...
ข้ามไป 4 ตอน238-241...
สนุกมากค่ะ...