ราชาเทพเสินโจว นิยาย บท 11

“โจวหยุน!แก!”

เสิ่นเสวี่ยมองเห็นพวกคนที่อยู่หลังโจวหยุน ตาก็กระตุกขึ้นมาทันที จะปิดประตูด้วยสัญชาตญาณ

แต่ได้ยินเสียงปังหนึ่งเสียง มีไม้เบสบอลกั้นประตูไว้!

เสิ่นเสวี่ยเห็นทีจึงรีบหันตัวหนีไป วิ่งเข้าห้องนอนที่อยู่บนตึกแล้วล็อคประตู

“แม่งเอ่ย ไปจับมันมาให้ฉัน!”โจวหยุนเห็นแล้วก็ตะโกนออกมา

คนพวกนั้นจึงรีบพุ่งเข้าไปในวิลล่า ขึ้นตึกไปทุบประตู

ไม่นานประตูห้องนอนก็ถูกทุบจนเปิดออก แต่วินาทีต่อมา ชายที่รูปร่างกำยำที่พุ่งเข้าไปก็ถูกสเปรย์ป้องกันตัวพ้นเข้าที่หน้าเต็มๆ

“นัง นังร่านแก……อ๊า! เจ็บเจ็บเจ็บ!”คนๆนั้นที่กำลังเปิดปากด่า ก็ต้องเอามือปิดตาร้องโหยหวนขึ้นมา

มองเห็นสภาพของคนๆนั้น คนทั้งกลุ่มถึงกับกลัวแล้วยืนกองอยู่ที่หน้าประตู ไม่กล้าเข้าไป!

“แม่งเอ่ย เข้าไป!ไปจับมันมาให้ฉัน!”โจวหยุนตะโกนด้วยความโกรธ

ทุกคนต่างมองหน้ากัน จากนั้นก็กัดฟันพุ่งเข้าไปด้วยกัน เพราะยังไงก็รับเงินมาแล้ว!

และแล้วพวกเขาที่พึ่งเข้าไป ก็มีโคมไฟตั้งโต๊ะตัวหนึ่งพุ่งตรงมาที่หน้า

จากนั้น สองคนในนั้นก็ชักกระตุกขึ้นมา นั่นเป็นเพราะถูกไฟจากโคมไฟโต๊ะตั้งช็อตเข้า!

และในพริบตานั้นเอง คนอื่นๆก็พุ่งเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้ว

ทันใดนั้นบนหน้าเสิ่นเสวี่ยก็มีความสิ้นหวังปรากฏขึ้น ไม่นานจึงถูกจับมือทั้งสองข้างไว้แล้วพาไปอยู่ตรงหน้าโจวหยุน

โจวหยุนมองดูเสิ่นเสวี่ย คิดถึงการกระทำเมื่อครู่ เขาถึงกับไม่กล้าเดินขึ้นหน้า แต่ท่าทีที่แสดงออกมากลับดุร้ายแล้วพูดว่า“นังร่าน ดูเถอะว่าเดี๋ยวฉันจะจัดการแกยังไง! มัดมันไว้ มัดให้แน่น!”

“โจวหยุน ถ้าแกกล้าทำอะไรฉัน ฉันสาบานว่าฉันจะฆ่าทุกคนในตระกูลแกให้หมด!”เสิ่นเสวี่ยขัดขืนพร้อมกับตะโกนออกมา เวลาเดียวกันก็เหยียบไปที่เท้าของชายกำยำข้างๆคนหนึ่ง

“อ๊า! ไอ่เหี้ยเอ่ย!”ชายกำยำคนนั้นล้มลงกับพื้น กอดเท้าร้องโหยหวน

โจวหยุนเห็นแบบนี้ก็ยิ่งไม่กล้าเดินขึ้นหน้าไป แต่ท่าทีบนหน้าของเขาก็ยิ่งโหดร้ายเข้าไปอีก “รีบมัดมันไว้ แม่งเอ่ย เดี๋ยวฉันจะให้แกได้ร้องไห้ ให้แกคุกเข่าขอร้องฉัน ฉันจะทำให้แกรู้สึกเสียใจที่ยังมีชีวิต!”

ชายกำยำทั้งหลายก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา ฉีกผ้าปูที่นอนออกเตรียมตัวจะมัด

และในเวลานี้เองก็ได้มีเสียงหนึ่งพูดขึ้น“สมแล้วที่เป็นผู้หญิงของราชาเรา คุณผู้หญิง คุณได้รับการยอมรับจากเงาสองแล้ว!”

พวกโจวหยุนที่ได้ยินเสียงนี้ก็ได้หยุดชะงักลง จากนั้นพวกเขาก็พบว่าภายในห้องนี้ อยู่ๆก็มีคนโผล่ออกมาคนหนึ่งโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว

คนๆนั้นสวมชุดดำทั้งตัว บนหน้าสวมหน้ากากอีกา สามารถดูออกว่าเป็นคนหัวล้าน แต่ส่วนอื่นๆ ดูอะไรไม่ออกเลย

“แก แกเป็นคนหรือผีกันแน่!”โจวหยุนตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว สีหน้ากระวนกระวาย

พวกชายที่รูปร่างกำยำก็มองไปที่คนๆนั้นด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ พวกเขามองหน้ากัน ต่างก็ไม่รู้ว่าคนๆนี้มาโผล่ในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

พวกเขามองไปที่ระเบียงห้อง แม่งประตูและหน้าตาก็ถูกล็อคจากด้านใน อย่าบอกนะว่ามันอยู่ในห้องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว?

คนทั้งกลุ่มก็มองหน้ากัน คอยเฝ้าระวังอยู่ ไม่กล้าขยับเลยแม้แต่น้อย

แต่พวกเขาไม่ยอมขยับ ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะไม่ขยับ เสิ่นเสวี่ยฉวยโอกาสนี้เอาหัวชนเข้าที่หน้าของชายกำยำที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็เหยียบเท้าของชายด้านข้าง พริบตาเดียว เธอหนีออกมาได้แล้ว!

ภาพนี้ไม่เพียงแค่ทำให้โจวหยุนงง เงาสองที่เห็นก็ชะงักไปสักพัก ในใจก็รู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง สมแล้วที่เป็นผู้หญิงของราชาเรา!

แต่เขาก็ไม่อยากให้ผู้หญิงของราชาเทพได้รับบาดเจ็บ วินาทีต่อมาไม่ทันให้ทุกคนตั้งตัว ตัวเขาก็พุ่งออกไป

โจวหยุนสัมผัสได้แค่ว่าคนๆนั้นขยับไปแวบหนึ่ง จากนั้นก็เห็นเงามืดแวบผ่านหน้าไป ต่อมาก็เห็นหมัดสีดำที่ขยายใหญ่ขึ้นตรงหน้าเรื่อยๆ!

“ฉันคือตระกูลโจว……”

บูม!

ไม่ทันรอให้โจวหยุนประกาศชื่อ เขาก็ถูกต่อยให้สลบล้มนอนกับพื้น

ชายร่างกำยำคนอื่นๆก็ถูกนักฆ่าเงาต่อยให้สลบไปทีละคน

“คุณเป็นใคร?”

เวลานี้เองเสิ่นเสวี่ยได้โค้งตัวเหมือนเสือชีตาห์เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองจากเงาสอง

“หยางยี่ บัตรนั้นฉันไม่ได้เป็นคนระงับ และ……”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นเสวี่ยหยุดชะงักลง จากนั้นเสียงที่พูดก็เริ่มสั่นแล้วถาม“หยางยี่ คุณเป็นคนส่งเถียนเถียนไปที่บู……”

หยางยี่ตกใจ ก้มดูโทรศัพท์ ขมวดคิ้วทันที วางสายแล้ว สายถูกตัดแล้ว

เขาโทรไปอีกครั้ง ไม่มีคนรับ โทรอีก ก็ยังคงเหมือนเดิม

หยางยี่สีหน้าดูไม่ดีเลย ต่อสายเครื่องสื่อสาร หยางยี่ถามว่า“เสิ่นเสวี่ยทางนั้นเกิดอะไรขึ้น?”

ท่ามกลางเสียงลม เงาสองตอบกลับ“ยังไม่ทราบชัดเจน คุณผู้หญิงกำลังนั่งรถไปที่ไหนสักที่ ตอนนี้ออกจากใจกลางเมืองจงจิงแล้ว”

หยางยี่พิจารณาชั่วครู่ ให้ระบุตำแหน่ง

เงาสองระบุตำแหน่ง หยางยี่พูดทันที“กลับรถ ไปชานเมืองทางใต้เมืองจงจิง”

รถวิบากากที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วก็ได้ทำการเบรกทันที กลับรถกับที่ มุ่งไปทางเมืองจงจิงที่กำลังขับออกมา

และในเวลาเดียวกัน เสิ่ยเสวี่ยก็มองดูโทรศัพท์ แบตหมดซะงั้น เธอยิ้มแห้ง ทิ้งโทรศัพท์ลงบนที่นั่งข้างคนขับ ออกแรงเหยียบ ความเร็วรถก็เพิ่มขึ้น

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ครั้งชั่วโมงผ่านไป เสิ่นเสวี่ยมาถึงบ้านพักคนชราเมืองจงจิง

คนคุมประตูมองเห็นเสิ่นเสวี่ย ก็โค้งตัวลงทันที“คุณหนูสาม”

จากนั้นก็ยกเสากั้นออก

เสิ่นเสวี่ยขับรถเข้าไป ระหว่างทาง เธอมองเห็นรุ่นอาวุโสของตระกูลเสิ่น และได้เห็นผู้มากอำนาจมากมายในเมืองจงจิง

ตลอดทางไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ เสิ่นเสวี่ยมาถึงที่พื้นหญ้าแห่งนั้น เธอไม่ได้หยุดรถด้วยซ้ำ จากนั้นขับขึ้นไปเลย

ผู้อาวุโสยังคงประลองหมากกับตัวเอง ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างก็ไม่ได้ไปไหน อีกทั้งยังมีชายวัยกลางคนๆหนึ่งเพิ่มขึ้นมาด้วย เขาและผู้หญิงนั่งอยู่ข้างๆพร้อมกับมองผู้อาวุโสเดินหมากอย่างเงียบๆ ต่างก็ไม่พูดอะไร

ได้ยินเสียงรถยนต์ ทั้งสองคนก็เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ได้ตะลึง ชายวัยกลางคนลุกขึ้นทันที มองไปที่เสิ่นเสวี่ยที่ดับเครื่องลงรถมาด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดี

ชายวัยกลางคนแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจ พูดว่า“ไอ่พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอน กล้าขับรถขึ้นมาบนพื้นหญ้าผืนนี้!”

พูดจบ ก็ยื่นมือออกไป ตบไปยังหน้าของเสิ่นเสวี่ยทันที……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชาเทพเสินโจว