“โจวหยุน!แก!”
เสิ่นเสวี่ยมองเห็นพวกคนที่อยู่หลังโจวหยุน ตาก็กระตุกขึ้นมาทันที จะปิดประตูด้วยสัญชาตญาณ
แต่ได้ยินเสียงปังหนึ่งเสียง มีไม้เบสบอลกั้นประตูไว้!
เสิ่นเสวี่ยเห็นทีจึงรีบหันตัวหนีไป วิ่งเข้าห้องนอนที่อยู่บนตึกแล้วล็อคประตู
“แม่งเอ่ย ไปจับมันมาให้ฉัน!”โจวหยุนเห็นแล้วก็ตะโกนออกมา
คนพวกนั้นจึงรีบพุ่งเข้าไปในวิลล่า ขึ้นตึกไปทุบประตู
ไม่นานประตูห้องนอนก็ถูกทุบจนเปิดออก แต่วินาทีต่อมา ชายที่รูปร่างกำยำที่พุ่งเข้าไปก็ถูกสเปรย์ป้องกันตัวพ้นเข้าที่หน้าเต็มๆ
“นัง นังร่านแก……อ๊า! เจ็บเจ็บเจ็บ!”คนๆนั้นที่กำลังเปิดปากด่า ก็ต้องเอามือปิดตาร้องโหยหวนขึ้นมา
มองเห็นสภาพของคนๆนั้น คนทั้งกลุ่มถึงกับกลัวแล้วยืนกองอยู่ที่หน้าประตู ไม่กล้าเข้าไป!
“แม่งเอ่ย เข้าไป!ไปจับมันมาให้ฉัน!”โจวหยุนตะโกนด้วยความโกรธ
ทุกคนต่างมองหน้ากัน จากนั้นก็กัดฟันพุ่งเข้าไปด้วยกัน เพราะยังไงก็รับเงินมาแล้ว!
และแล้วพวกเขาที่พึ่งเข้าไป ก็มีโคมไฟตั้งโต๊ะตัวหนึ่งพุ่งตรงมาที่หน้า
จากนั้น สองคนในนั้นก็ชักกระตุกขึ้นมา นั่นเป็นเพราะถูกไฟจากโคมไฟโต๊ะตั้งช็อตเข้า!
และในพริบตานั้นเอง คนอื่นๆก็พุ่งเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้ว
ทันใดนั้นบนหน้าเสิ่นเสวี่ยก็มีความสิ้นหวังปรากฏขึ้น ไม่นานจึงถูกจับมือทั้งสองข้างไว้แล้วพาไปอยู่ตรงหน้าโจวหยุน
โจวหยุนมองดูเสิ่นเสวี่ย คิดถึงการกระทำเมื่อครู่ เขาถึงกับไม่กล้าเดินขึ้นหน้า แต่ท่าทีที่แสดงออกมากลับดุร้ายแล้วพูดว่า“นังร่าน ดูเถอะว่าเดี๋ยวฉันจะจัดการแกยังไง! มัดมันไว้ มัดให้แน่น!”
“โจวหยุน ถ้าแกกล้าทำอะไรฉัน ฉันสาบานว่าฉันจะฆ่าทุกคนในตระกูลแกให้หมด!”เสิ่นเสวี่ยขัดขืนพร้อมกับตะโกนออกมา เวลาเดียวกันก็เหยียบไปที่เท้าของชายกำยำข้างๆคนหนึ่ง
“อ๊า! ไอ่เหี้ยเอ่ย!”ชายกำยำคนนั้นล้มลงกับพื้น กอดเท้าร้องโหยหวน
โจวหยุนเห็นแบบนี้ก็ยิ่งไม่กล้าเดินขึ้นหน้าไป แต่ท่าทีบนหน้าของเขาก็ยิ่งโหดร้ายเข้าไปอีก “รีบมัดมันไว้ แม่งเอ่ย เดี๋ยวฉันจะให้แกได้ร้องไห้ ให้แกคุกเข่าขอร้องฉัน ฉันจะทำให้แกรู้สึกเสียใจที่ยังมีชีวิต!”
ชายกำยำทั้งหลายก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา ฉีกผ้าปูที่นอนออกเตรียมตัวจะมัด
และในเวลานี้เองก็ได้มีเสียงหนึ่งพูดขึ้น“สมแล้วที่เป็นผู้หญิงของราชาเรา คุณผู้หญิง คุณได้รับการยอมรับจากเงาสองแล้ว!”
พวกโจวหยุนที่ได้ยินเสียงนี้ก็ได้หยุดชะงักลง จากนั้นพวกเขาก็พบว่าภายในห้องนี้ อยู่ๆก็มีคนโผล่ออกมาคนหนึ่งโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว
คนๆนั้นสวมชุดดำทั้งตัว บนหน้าสวมหน้ากากอีกา สามารถดูออกว่าเป็นคนหัวล้าน แต่ส่วนอื่นๆ ดูอะไรไม่ออกเลย
“แก แกเป็นคนหรือผีกันแน่!”โจวหยุนตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว สีหน้ากระวนกระวาย
พวกชายที่รูปร่างกำยำก็มองไปที่คนๆนั้นด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ พวกเขามองหน้ากัน ต่างก็ไม่รู้ว่าคนๆนี้มาโผล่ในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
พวกเขามองไปที่ระเบียงห้อง แม่งประตูและหน้าตาก็ถูกล็อคจากด้านใน อย่าบอกนะว่ามันอยู่ในห้องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว?
คนทั้งกลุ่มก็มองหน้ากัน คอยเฝ้าระวังอยู่ ไม่กล้าขยับเลยแม้แต่น้อย
แต่พวกเขาไม่ยอมขยับ ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะไม่ขยับ เสิ่นเสวี่ยฉวยโอกาสนี้เอาหัวชนเข้าที่หน้าของชายกำยำที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็เหยียบเท้าของชายด้านข้าง พริบตาเดียว เธอหนีออกมาได้แล้ว!
ภาพนี้ไม่เพียงแค่ทำให้โจวหยุนงง เงาสองที่เห็นก็ชะงักไปสักพัก ในใจก็รู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง สมแล้วที่เป็นผู้หญิงของราชาเรา!
แต่เขาก็ไม่อยากให้ผู้หญิงของราชาเทพได้รับบาดเจ็บ วินาทีต่อมาไม่ทันให้ทุกคนตั้งตัว ตัวเขาก็พุ่งออกไป
โจวหยุนสัมผัสได้แค่ว่าคนๆนั้นขยับไปแวบหนึ่ง จากนั้นก็เห็นเงามืดแวบผ่านหน้าไป ต่อมาก็เห็นหมัดสีดำที่ขยายใหญ่ขึ้นตรงหน้าเรื่อยๆ!
“ฉันคือตระกูลโจว……”
บูม!
ไม่ทันรอให้โจวหยุนประกาศชื่อ เขาก็ถูกต่อยให้สลบล้มนอนกับพื้น
ชายร่างกำยำคนอื่นๆก็ถูกนักฆ่าเงาต่อยให้สลบไปทีละคน
“คุณเป็นใคร?”
เวลานี้เองเสิ่นเสวี่ยได้โค้งตัวเหมือนเสือชีตาห์เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองจากเงาสอง
“หยางยี่ บัตรนั้นฉันไม่ได้เป็นคนระงับ และ……”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นเสวี่ยหยุดชะงักลง จากนั้นเสียงที่พูดก็เริ่มสั่นแล้วถาม“หยางยี่ คุณเป็นคนส่งเถียนเถียนไปที่บู……”
หยางยี่ตกใจ ก้มดูโทรศัพท์ ขมวดคิ้วทันที วางสายแล้ว สายถูกตัดแล้ว
เขาโทรไปอีกครั้ง ไม่มีคนรับ โทรอีก ก็ยังคงเหมือนเดิม
หยางยี่สีหน้าดูไม่ดีเลย ต่อสายเครื่องสื่อสาร หยางยี่ถามว่า“เสิ่นเสวี่ยทางนั้นเกิดอะไรขึ้น?”
ท่ามกลางเสียงลม เงาสองตอบกลับ“ยังไม่ทราบชัดเจน คุณผู้หญิงกำลังนั่งรถไปที่ไหนสักที่ ตอนนี้ออกจากใจกลางเมืองจงจิงแล้ว”
หยางยี่พิจารณาชั่วครู่ ให้ระบุตำแหน่ง
เงาสองระบุตำแหน่ง หยางยี่พูดทันที“กลับรถ ไปชานเมืองทางใต้เมืองจงจิง”
รถวิบากากที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วก็ได้ทำการเบรกทันที กลับรถกับที่ มุ่งไปทางเมืองจงจิงที่กำลังขับออกมา
และในเวลาเดียวกัน เสิ่ยเสวี่ยก็มองดูโทรศัพท์ แบตหมดซะงั้น เธอยิ้มแห้ง ทิ้งโทรศัพท์ลงบนที่นั่งข้างคนขับ ออกแรงเหยียบ ความเร็วรถก็เพิ่มขึ้น
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ครั้งชั่วโมงผ่านไป เสิ่นเสวี่ยมาถึงบ้านพักคนชราเมืองจงจิง
คนคุมประตูมองเห็นเสิ่นเสวี่ย ก็โค้งตัวลงทันที“คุณหนูสาม”
จากนั้นก็ยกเสากั้นออก
เสิ่นเสวี่ยขับรถเข้าไป ระหว่างทาง เธอมองเห็นรุ่นอาวุโสของตระกูลเสิ่น และได้เห็นผู้มากอำนาจมากมายในเมืองจงจิง
ตลอดทางไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ เสิ่นเสวี่ยมาถึงที่พื้นหญ้าแห่งนั้น เธอไม่ได้หยุดรถด้วยซ้ำ จากนั้นขับขึ้นไปเลย
ผู้อาวุโสยังคงประลองหมากกับตัวเอง ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างก็ไม่ได้ไปไหน อีกทั้งยังมีชายวัยกลางคนๆหนึ่งเพิ่มขึ้นมาด้วย เขาและผู้หญิงนั่งอยู่ข้างๆพร้อมกับมองผู้อาวุโสเดินหมากอย่างเงียบๆ ต่างก็ไม่พูดอะไร
ได้ยินเสียงรถยนต์ ทั้งสองคนก็เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ได้ตะลึง ชายวัยกลางคนลุกขึ้นทันที มองไปที่เสิ่นเสวี่ยที่ดับเครื่องลงรถมาด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดี
ชายวัยกลางคนแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจ พูดว่า“ไอ่พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอน กล้าขับรถขึ้นมาบนพื้นหญ้าผืนนี้!”
พูดจบ ก็ยื่นมือออกไป ตบไปยังหน้าของเสิ่นเสวี่ยทันที……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชาเทพเสินโจว