ในเวลาเดียวกัน ณ อาคารเทียนหลงเมืองจงจิง
ในห้องปฏิบัติการประธานแฟร์วิว กรุ๊ป เสิ่นเสวี่ยกำลังปรึกษาหาเรื่องกิจการกับประธานจางเฟยหลง
“เสิ่นเสวี่ย ฉันพูดตรงๆเลยแล้วกัน! ขอแค่เธอมาเป็นผู้หญิงของฉัน สัญญาของตระกูลเสิ่นนี้ ฉันจะเซ็นให้เธอทันทีเลย”จางเฟยหลงหมดความอดทนแล้ว น้ำเสียงตรงเข้าประเด็นทันที
เสิ่นเสวี่ยได้ยินแบบนี้ ก็เป็นอันตกใจมาก จึงรีบเดินถอยออกห่างสองก้าวทันที
“ไม่ ประธานจาง ฉันไม่มีทางยอมรับเงื่อนไขนี้เด็ดขาด”
“ไม่ยอมรับ? เสิ่นเสวี่ย นี่มันไม่เกี่ยวหรอกว่าเธอจะยอมรับรึเปล่า ถ้าหากตระกูลเสิ่นไม่มีสัญญาฉบับนี้จากฉันละก็ จะต้องล้มละลายแน่ ”
จางเฟยหลงที่ทั้งทุเรศและอ้วนลงพุงยืนขึ้น อยากจะล้มตัวเข้าหาเสิ่นเสวี่ย
แต่ท่าทีของเสิ่นเสวี่ยว่องไวกว่า เปิดประตูห้องแล้ววิ่งออกไปก่อน
“ประธานจาง วันนี้เราคุยกันถึงตรงนี้ก่อน เรื่องสัญญาเราค่อยว่ากันอีกที”เสิ่นเสวี่ยพูดจบ ก็วิ่งหนีออกจากแฟร์วิว กรุ๊ปไป
แม้ว่าจางเฟยหลงเปิดเผยธาตุแท้ที่น่ารังเกียจของตัวเองออกมาแล้ว แต่เสิ่นเสวี่ยก็ยังไม่กล้าผิดใจจางเฟยหลง เพราะตอนนี้ตระกูลเสิ่นอยู่ในช่วงที่สำคัญมากจริงๆ ถ้าหากไม่มีการลงทุนใดๆเลย ผลที่ตามมาคงต้องแย่มากๆ
ไม่อย่างนั้น เสิ่นเสวี่ยไม่มีทางมาพบจอมลามกอย่างจางเฟยหลงคนเดียวลำพังแน่นอน
ด้านล่าง เสิ่นเสวี่ยถอนหายใจออกมา เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทันที
“เสิ่นเสวี่ย ลูกสาวคุณถูกคนอื่นจับไปแล้ว!คนๆนั้นชื่อหยางยี่อะไรสักอย่าง ตอนนี้ไปที่โรงพยาบาลแล้ว ”
“เถียนเถียน? หยางยี่? นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”เสิ่นเสวี่ยร้อนรนขึ้นมาทันที
ลูกสาวเป็นทุกอย่างของเธอ เธอไม่ยอมให้ลูกสาวเกิดอะไรขึ้นแน่นอน
“ไม่รู้ล่ะ คุณไปที่โรงพยาบาลดูก่อนเถอะ!”
“แท็กซี่ เร็วเข้า ไปโรงพยาบาล!”
……
อีกด้านหนึ่งหยางยี่ที่รออยู่หน้าประตูห้องผ่าตัด แต่ไม่มีวี่แววจากห้องผ่าตัดเลย ดูเหมือนยังต้องใช้เวลาอีกนาน
ดังนั้นหยางยี่จึงตัดสินใจ ไปที่โรงเรียนก่อน ไปจัดการพวกเลวที่ทำร้ายลูกสาว
ณ โรงเรียนอนุบาล หยางยี่เดินตรงไปที่ห้องผู้อำนวยการด้วยสีหน้าที่โหดเหี้ยม
ผู้อำนวยการเป็นหญิงวัยกลางคน ร่างกายอ้วนตัน แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี
“คุณคือผู้อำนวยการใช่ไหม?”หยางยี่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ผู้อำนวยการกวาดสายตามองไปที่หยางยี่ พูดด้วยน้ำเสียงดูถูก“ใช่แล้ว แล้วคุณเป็นใคร?”
“ทำไมห้องต้นกล้าถึงได้เกิดเหตุการณ์ที่คุณครูตีเด็กด้วย?”
“ชิ!”ผู้อำนวยการแสดงท่าทีที่เฉยชา “ก็แค่ตีเด็ก เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? เด็กมันสน ก็ต้องสั่งสอน!”
“หุบปาก!”
หยางยี่โกรธหนัก ใช้แขนเพียงข้างเดียวบีบคอผู้อำนวยการแล้วยกขึ้น ทำให้ร่างที่อ้วนตันของเธอลอยอยู่กลางอากาศ
“ถูกทุบตีเป็นระยะยาว ขาดสารอาหารอีก แกบอกฉันว่านี่เป็นการลงโทษสำหรับเด็กที่สนเหรอ?”
“แกปล่อยฉันนะ แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? กล้าลงมือกับฉัน แกได้เจอดีแน่!”ผู้อำนวยการพยายามดิ้นรนอยู่ หน้าที่อ้วนตันถูกบีบให้หายใจไม่ออกจนแดงไปหมด
“ฉันไม่สนว่าแกเป็นใคร ถ้าลูกสาวของฉันเกิดอะไรขึ้นแม้แต่น้อยละก็ ฉันจะให้พวกแกทุกคนต้องชดใช้ทั้งหมด!”
หยางยี่พูดจบ เหวี่ยงแขน ทิ้งตัวผู้หญิงที่รูปร่างอ้วนตันคนนี้ไว้บนโต๊ะทำงาน ทันใดนั้นก็ทำให้โต๊ะทำงานแตกเป็นเสี่ยงๆ
“แก แกคอยดู สักวันฉันจะฆ่าแก”หญิงอ้วนตันกระอักเลือด แต่ก็ยังไม่หยุดที่จะต่อปากต่อคำ
หยางยี่ค่อยๆเดินเข้าไป ไม่รู้ว่าควรเอ่ยปากยังไงดี
เห็นสีหน้าที่เหนื่อยล้าของเธอ หยางยี่รู้เลยว่าหลายปีมานี้เธอคงใช้ชีวิตได้อย่างลำบาก ถ้าหากรู้มาก่อนว่าเธอเลี้ยงดูลูกสาวด้วยตัวคนเดียวเพียงลำพัง หยางยี่ก็ควรจะกลับมาให้เร็วกว่านี้
“คุณกลับมาทำไม?”เสิ่นเสวี่ยเช็ดน้ำตา สายตากลับมาเย็นชาอีกครั้ง
“ลูกสาวเป็นคนโทรหาผม เธอบอกเธอถูกคนรังแก ผมไม่รู้ว่าพวกเรามีลูกสาวด้วย ผมขอโทษ ผมมาช้าไป!”ในใจหยางยี่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“มาขอโทษตอนนี้แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร? หายไปหลายปีขนาดนี้ ฉันคิดซะว่าคุณตายไปนานแล้ว!”
“เสิ่นเสวี่ย ผมรู้ว่าคุณโกรธแค้นผม แต่ได้โปรดให้โอกาสผมอีกสักครั้ง ผมจะดีต่อคุณ และดีต่อลูกสาวด้วยเช่นกัน หลังจากนี้ จะไม่มีใครสามารถทำร้ายพวกคุณอีก!”แววตาของหยางยี่แน่วแน่
นับจากนี้ไป เขาจะเป็นเทพคุ้มครองให้กับเสิ่นเสวี่ยและลูกสาว บนโลกนี้ มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่เขาจะยอมทุ่มทุกอย่างเพื่อปกป้องพวกเขา
“ครอบครัวของผู้ป่วยอยู่ไหน?”
มีพยาบาลคนหนึ่ง เดินออกมาจากห้องผ่าตัด
“ฉันเอง!”
“ฉันเอง!”
หยางยี่และเสิ่นเสวี่ยพุ่งขึ้นหน้าไปพร้อมกัน
“คุณหมอ ลูกสาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสิ่นเสวี่ยอยากรู้สถานการณ์ตอนนี้ของลูกสาวมาก
หยางยี่ไม่พูดอะไร แต่แค่มองไปที่พยาบาลด้วยสายตาที่หนักแน่น
“ผู้ป่วยต้องการถ่ายโอนโลหิต พวกคุณทั้งสองใครจะเป็นคนทำ?”
“ฉัน!”เสียงของหยางยี่หนักแน่นและชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชาเทพเสินโจว