“พี่สอง ถือว่าฉันขอแล้วกันนะ เธอก็เป็นหลานสาวของพี่เหมือนกัน ขอร้องเถอะ!”
“หลานสาวบ้าบออะไร เด็กสวะแบบนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันทั้งนั้น! ต่อไปก็อย่าโทรมาอีก!”
ตู๊ดตู๊ดตู๊ด……
มองเห็นโทรศัพท์ที่ถูกวางสาย เสิ่นเสวี่ยกัดฟันไว้แน่น ตาน้ำก็คลออยู่ในตา แต่เธอรู้ว่าตัวเองต้องเข้มแข็งเข้าไว้
เธอหายใจเข้าลึกๆ โทรใหม่อีกครั้ง
แต่แล้ว 5นาทีผ่านไป เธอก็คุกเข่าลงกับพื้นด้วยสีหน้าที่จิตตก คนทั้งคนเหมือนถูกดึงออกจากโครงกระดูก
เธอโทรหาพวกพี่ๆน้องๆของตัวเอง แต่พวกเขา นอกจากจะได้คำสาปแช่งอย่างโหดร้ายแล้ว ก็ไม่มีใครออกมาช่วยเลยแม้แต่คนเดียว
ทั้งๆที่พวกเขาทุกคนต่างก็มีความสามารถมากพอที่ช่วยเหลือตัวเองแท้ๆ แต่พวกเขากลับไม่ยอมช่วย
ตอนนั้นที่พวกเขาหลอกให้เธอสละสิทธิ์ที่จะรับทรัพย์สินของตระกูล แล้วทำสัญญาไว้ แต่ตอนนี้กลับไม่ได้ทำตามที่สัญญาเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องครั้งนี้ เธอก็คงไม่สนใจ เพราะเธอสละสิทธิ์เรื่องทรัพย์สินถึงทำให้ลูกสาวของตัวเองมีชีวิตรอดออกมาได้อย่างปลอดภัย
แต่ตอนนี้……
“เพราะอะไร พวกเธอถึงได้ใจร้ายแบบนี้!”เสียงของเธอหลุดรอดออกมาจากช่องว่างระหว่างฟัน เพราะตอนนี้เธอยังคงกัดฟันแน่น น้ำตาคลอ เธอมองดูชื่อที่น่ารังเกียจบนโทรศัพท์ มือทั้งสองจับโทรศัพท์ไว้แน่น
จะโทรจริงๆเหรอ? ฉันต้องโทร ฉันต้องช่วยลูกสาวของฉัน
และในเวลานี้เอง มีเงาคนเดินมาจากมุมทางเดิน เขาก้มหน้ามองดูเสิ่นเสวี่ยที่สิ้นหวัง ย่อตัวลงเบาๆ
“มีผมอยู่ เชื่อผม!”เขากระซิบเบาๆ
เสิ่นเสวี่ยเงยหน้าขึ้น หน้าชิดตรงกัน นั่นเป็นใบหน้าที่เธอทั้งคิดถึงและโกรธแค้นมาตลอดเวลา5ปี ใบหน้านั้นก็ยังคงดูอ่อนเยาว์ ช่วงเวลา5ปีที่ผ่านมาเหมือนจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงเขาไปเลยแม้แต่นิดเดียว
เมื่อเสิ่นเสวี่ยสบตาเข้ากับตาของหยางยี่ เธอที่เข้มแข็งมาตลอดก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและแสดงด้านที่อ่อนแอของตัวเองออกมา น้ำตาที่ไม่เอาไหนได้ไหลออกมา
แต่แล้วเธอที่เข้มแข็งกลับเอามือปิดปากตัวเอง ไม่ให้ตัวเองส่งเสียงร้องไห้ออกมา
หยางยี่มองดูผู้หญิงตรงหน้าที่ตัวเองรักสุดใจคนนี้ ฟังเสียงที่เหมือนกำลังกรีดร้อง วินาทีนั้นในหัวก็เหมือนมีเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น
เธอยังคงเข้มแข็งเช่นเคย เหมือนกับเธอในตอนนั้น
พวกเขารู้จักกันเมื่อ6ปีก่อน
6ปีก่อนเขาถูกล้อมโดยฝ่ายศัตรู หลังจากสู้สุดชีวิตและจัดการคนของฝ่ายตรงข้ามไปได้สามร้อยกว่าคน เขาก็บาดเจ็บสาหัสตกลงแม่น้ำ
ตื่นขึ้นก็ได้มาอยู่ที่เมืองนี้แล้ว เขารู้ว่าศัตรูยังคงตามหาเขา เขาเปลี่ยนชื่อตัวเองเพื่อจะได้พักฟื้น
และในช่วงเวลานั้นเอง ที่เขาได้รู้จักกับเสิ่นสวี่ย
เธองดงามและอ่อนโยน แต่ก็กล้าหาญและเร่าร้อน
ถึงแม้เขาจะปฏิเสธไปหลายรอบ แต่เธอก็ไม่ยอมล้มเลิก ต่อมาเธอมาบอกถึงได้รู้ว่านั่นเป็นรักแรกพบ
เขาลำบากตั้งแต่ยังเป็นเด็ก หลายปีที่ต้องผ่านเลือดผ่านไฟ ไม่เคยได้รับความอบอุ่นแบบนี้มาก่อน เขาก็เริ่มจมดิ่งกับความอบอุ่นนี้ลงไปเรื่อยๆ
หลังจากที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ช่วงหนึ่ง
แต่สุดท้ายศัตรูก็หาเขาจนเจอ และในคืนวันหนึ่งเขาจำเป็นต้องจากไป
ระหว่างหลบหนีเขาได้เค้นข้อมูลจากศัตรูคนหนึ่งมาถึงได้รู้เข้าว่าคนที่ทรยศเขาไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นคนของตระกูลเสิ่นนั่นเอง เขารู้สึกสับสนมาก
หลังจากที่หลบหนีได้สำเร็จ เขาก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย
ชั่วเวลานั้น หยางยี่เห็นเสิ่นเสวี่ยปิดปากตัวเองไว้เพราะไม่ยอมแสดงด้านที่อ่อนแอของตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เขาก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายนั้นโกรธแค้นตัวเอง
เขาไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี เขาไม่ถนัดเรื่องการบ่งบอกความรู้สึก ตอนนี้เลยมีความรู้สึกวูบวาบที่อยากจะทำลายโลกทั้งใบทิ้งซะ
เวลานี้เองเสิ่นเสวี่ยหายใจเข้าลึกๆ พยุงกำแพงแล้วค่อยๆลุกขึ้น น้ำเสียงเย็นชา“ฉันไม่มีทางเชื่อใจคุณอีก เรื่องเงินฉันจะหาทางเอง”
พูดจบก็เดินลงตึงอย่างรีบลน
หยางยี่ก็ค่อยๆลุกขึ้น ความโมโหในใจไม่มีที่จะปลดปล่อย มันทำให้ตัวของเขาสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
หูขยับไปทีหนึ่ง หยางยี่หันหลัง อย่างที่คิด ประตูบานหนึ่งที่ห่างออกไปได้เปิดออก
ทั้ง5คนจากวังราชาเทพเดินออกมาตามลำดับ หยางยี่เดินไปตรงหน้า ถามด้วยความรีบร้อน“เป็นไงบ้าง?”
ในที่สุดหยางยี่ก็ได้ยินข่าวดีสักที เขาพยักหน้าเบาๆ
ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาหันตัวไปหาทั้ง5คน พูดอย่างความจริงจังว่า“พาลูกสาวฉันไปที่ฐานทัพ No.9 ในเวลาเดียวกันก็จับคู่ตับด้วย ดูแลเธอให้ดี ขอร้องล่ะ”
พูดจบ เขาก็โค้งตัวลงเล็กน้อย
ทั้ง5คนสีหน้าตกใจ ขาข้างหนึ่งก็คุกเข่าลงกับพื้น พูดออกมาพร้อมกันว่า“เป็นคนของวังราชาเทพ ยอมตายเพื่อราชาเทพ!”
“ไปเถอะ”หยางยี่โบกมือ
“รับทราบ”
ทั้ง5คนตอบรับแล้วจึงลุกขึ้น คนหนึ่งกำลังติดต่อ ส่วนคนอื่นๆกลับไปที่ห้องตรวจอีกครั้งเพื่อเตรียมเรื่องการย้าย
ส่วนหยางยี่ เขามองดูเถียนเถียนที่หลับอยู่ผ่านทางกระจก กัดฟันแล้วหันหลังจากไป
ต่อจากนี้ เขาต้องหาตับที่สามารถจับคู่ให้ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่ก่อนหน้านั้น เขาจะไปคิดบัญชีหนึ่งก่อน
ออกประตูลงตึก หยางยี่ยกมือโบกรถ
ณ โรงเรียนอนุบาลNo.8 เมืองจงจิง หยางยี่ลงจากรถ ด้านนอกประตูของโรงเรียนอนุบาลไม่มีอะไรเลย ถนนหน้าประตูก็ไม่มีคนเดินไม่มีรถขับผ่าน
เขาเดินไปข้างหน้าพร้อมกับแววตาเย็นชา เวลานี้เองจากเงามืดของกำแพง จากบนต้นไม้ใหญ่ จากช่องทางบันได……
คน5คนที่สวมชุดดำและใส่หน้ากากอีกาสีดำได้เดินออกมา พวกเขาแค่มองดูหยางยี่ไปหนึ่งที วินาทีต่อมาก็หายไปอีกครั้ง
นักฆ่าเงา องครักษ์ลับ
5คนสามารถสังหารได้ทั้งเมือง ร้อยคนสามารถสังหารได้ทั้งประเทศ
หยางยี่ไม่ได้ให้นักฆ่าเงาออกมือ หน้าที่ของพวกเขามีแค่กำจัดสิ่งกีดขวางก็พอ
วันนี้เขาไม่ใช่ราชาเทพ เขาไม่ต้องฆ่าเมืองดับประเทศ
วันนี้เขาเป็นแค่พ่อที่มาหาความยุติธรรมให้กับลูกสาวเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชาเทพเสินโจว