พอได้ยินเสียงจี้หลิงชวน มู่ซีซีจึงเงยหน้าสบตากับดวงตาของเขา ขอบตาก็เริ่มแดงอย่างไม่รู้ตัว เอาแต่ดิ้นจะเอาจากอ้อมกอดของจี้หลิงชวนอย่างทำตัวไม่ถูก แต่พอร่างกายขยับ ฝ่ามือของเขาก็กอดเอวของเธอไว้แน่น "อย่าดิ้น!"
พอจี้หลิงชวนพูดเสียงเข้ม ร่างกายมู่ซีซีจึงหยุดนิ่งทันที
เห็นท่าทางที่น่าสงสารของมู่ซีซี แววตาของจี้หลิงชวนก็มีความเป็นห่วง จึงยกมือไปลูบศีรษะของเธอ พร้อมเอ่ยว่า "พอแล้ว ดึกมากแล้ว นอนเถอะ ฝันดีนะ"
มู่ซีซีได้ยินจี้หลิงชวนพูดแบบนี้ ในใจจึงโล่งอก มือที่วางอยู่ข้างตัวก็ยื่นไปกอดเอวเขาไว้ แล้วซบอยู่ในอ้อมกอดเขา พร้อมพูดเสียงเบาว่า "ฝันดีนะ"
ครั้งแรกเลยที่มู่ซีซีเพิ่งรู้ว่าอ้อมกอดของจี้หลิงชวนทำให้รู้สึกสบายใจขนาดนี้
หลับฝันดีทั้งคืน
มู่ซีซีไม่ใช่คนที่คอยจมอยู่กับความเศร้าอยู่แล้ว แล้วในใจมู่ซีซี พ่อมู่กับแม่มู่แล้วก็มู่อวี๋เฟยทำให้เธอผิดหวังมาโดยตลอด เรื่องตอนนี้จึงไม่สามารถทำอะไรมู่ซีซีได้
พอตื่นนอนแล้ว มู่ซีซีจึงปรับอารมณ์ตัวเอง เพราะตอนเช้ายังมีเรียน
ตอนที่มู่ซีซีตื่น จี้หลิงชวนก็ตื่นตั้งนานแล้ว
รอมู่ซีซีอาบน้ำเสร็จแล้วลงไปที่ห้องอาหาร จึงเห็นจี้หลิงชวนกำลังนั่งกินมื้อเช้าอยู่
มู่ซีซีเพิ่งเดินเข้าห้องอาหาร ป้าหลิงที่อยู่ข้างๆเห็นมู่ซีซีมา จึงรีบยิ้มทักทายเธออย่างมีมารยาท "คุณหนูมู่ รอสักครู่นะคะ"
ไม่นานป้าหลิงก็ยกมื้อเช้าออกมาจากในห้องครัว
มู่ซีซีเห็นว่าเป็นขนมวุ้นที่ตัวเองชอบ เธอจึงอดมองป้าหลิงอย่างประหลาดใจไม่ได้
ป้าหลิงยิ้มเอ่ย "คุณหนูมู่ คุณลองชิมดูสิคะว่ารสชาติเป็นยังไง?"
มู่ซีซีจึงหยิบขนมวุ้นขึ้นมา แล้วลองชิม ขนมอร่อยจนทำให้คิ้วที่มู่ซีซีขมวดอยู่คลายออกทันที
ขนมสามารถเยียวยาทุกอย่างได้จริงๆ อารมณ์มู่ซีซีดีขึ้นหลายเท่า แล้วรีบพยักหน้าให้ป้าหลิง "ป้าหลิง! ขนมวุ้นที่ป้าทำอร่อยมากเลยค่ะ!"
ป้าหลิงได้รับคำชมจากมู่ซีซี จึงยิ้มแล้วพูดว่า "คุณหนูชอบก็ดีแล้วค่ะ เดี๋ยวป้าจะทำให้คุณหนูทุกวันเลยค่ะ"
พูดไปด้วย สายตาป้าหลิงก็เหลือบมองคุณชายที่นั่งอยู่ข้างๆ เห็นแค่ว่าคุณชายเอาแต่จ้องคุณหนูมู่ แล้วสีหน้าก็อ่อนโยนแบบที่ป้าหลิงไม่เคยเห็นมาก่อน
ป้าหลิงจึงอดถอนหายใจไม่ได้ ดูเหมือนว่าคุณชายจะแคร์คุณหนูมู่คนนี้มาก ตื่นมาแต่เช้า ก็ตั้งใจไปถามคนรับใช้ตระกูลมู่ พอรู้ว่าคุณหนูมู่ชอบกินขนมวุ้น จึงให้ป้าทำให้ทันที
เธอไม่ได้เห็นคุณชายแคร์ผู้หญิงแบบนี้มานานหลายปีแล้ว!
แบบนี้ก็ดี มีผู้หญิงคอยอยู่กับคุณชาย ต่อไปคุณชายก็จะไม่โดดเดี่ยวอีก
จี้หลิงชวนที่อยู่ข้างๆเห็นมู่ซีซีที่กินขนมอย่างน่ารัก มุมปากจึงมีรอยยิ้มอ่อนๆ
อื้อ เด็กคนนี้ก็เลี้ยงง่ายเหมือนกัน
มู่ซีซีกินมื้อเช้าเสร็จแล้ว จึงเงยหน้าไปเอ่ยกับจี้หลิงชวนว่า "คุณชายจี้ ตอนเช้าฉันมีเรียน ฉันไปเรียนก่อนนะ"
ประโยคหลังจี้หลิงชวนไม่ได้พูดออกมา พอมู่ซีซีได้รับคำสัญญาจากจี้หลิงชวน ความกังวลในใจค่อยลดน้อยลง
ถึงถนนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยAแล้ว มู่ซีซีจึงลงรถก่อน
จี้หลิงชวนยังมีธุระต้องทำ พอส่งมู่ซีซีที่มหาวิทยาลัยAแล้วจึงแล่นรถไปที่บริษัทจี้ซือ
ในห้องทำงานผู้บริหาร จี้หลิงชวนเพิ่งนั่งลงบนเก้าอี้นุ่มๆ ก็รีบหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมาโทรหาฟางเซิ่งทันที
สองนาทีหลังจากนั้น ฟางเซิ่งจึงอุ้มเอกสารมาแล้วเคาะประตูห้องทำงานผู้บริหาร
พอจี้หลิงชวนเห็นฟางเซิ่งจึงเอ่ยสั่งการว่า "ฟางเซิ่ง ให้เวลานายหนึ่งวัน พรุ่งนี้ฉันไม่อยากเห็นบริษัทตระกูลมู่ยังดำเนินกิจการในเมืองหรงอีก!"
"ครับ คุณชายจี้ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้" สีหน้าฟางเซิ่งเข้มงวด ตอบรับแล้วจึงรีบไปทันที
ประสิทธิภาพการทำงานของฟางเซิ่งเร็วอยู่แล้ว บวกกับบริษัทจี้ซือเป็นผู้ครองตลาดด้วย บริษัทตระกูลมู่ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก จึงทนรับมือกับบริษัทจี้ซือไม่ได้อยู่แล้ว
ฟางเซิ่งใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน หุ้นของบริษัทตระกูลมู่ก็ร่วงลงมาทันที
บริษัทอื่นที่ทำธุรกิจกับบริษัทตระกูลมู่ในเมืองหรง เห็นบริษัทจี้ซือลงมือแบบนี้ จึงรีบแบ่งเขตกับบริษัทตระกูลมู่ทันที กลัวว่าจะโดนลูกหลงไปด้วย
แถมยังมีหลายบริษัทที่อยากมาประจบประแจงบริษัทจี้ซือ จึงแอบลงมือช่วยแล้วทำให้บริษัทตระกูลมู่ล้มละลายไปด้วย
รากฐานของบริษัทตระกูลมู่ไม่มั่นคงอยู่แล้ว ยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ก็ประกาศล้มละลายเองแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...