ระหว่างทาง จี้หลิงชวนเห็นท่าทางมู่ซีซีที่อาลัยอาวรณ์เอาแต่หันกลับไปมอง มุมปากจึงเลิกขึ้น แล้วหันไปพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มว่า "ถ้าเธอชอบ ครั้งหน้าเรามาดูอีกก็ได้"
มู่ซีซีได้ยินจี้หลิงชวนพูดแบบนี้ ค่อยเก็บสายตาตัวเองกลับมาอย่างทำตัวไม่ถูกแล้วพยักหน้าให้เขา
จนกระทั่งฟ้าใกล้จะสว่าง รถของจี้หลิงชวนค่อยจอดลงที่โรงแรมในปารีส เวลาเกือบทั้งวันใช้มาเดินทาง พอกลับไปถึงห้อง จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีจึงรู้สึกเหนื่อย
คืนนี้จี้หลิงชวนเห็นท่าทางมู่ซีซีที่เหนื่อยล้ามากจึงยอมปล่อยเธอไปคืนหนึ่ง
หลับสบายทั้งคืน ทั้งสองคนนอนจนถึงตอนเที่ยงของอีกวัน จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีค่อยตื่นเพราะหิว
ทั้งสองตื่นแล้วไปกินมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารด้วยกัน จี้หลิงชวนก็พามู่ซีซีเดินเล่นบนถนน เวลาทั้งวันจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันหยุดของจี้หลิงชวนหมดลงแล้ว เช้าวันต่อมา จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีจึงนั่งเครื่องบินกลับประเทศ
ใช้เวลานั่งเครื่องไปสิบสามชั่วโมง สุดท้ายเครื่องบินค่อยลงจอดที่สนามบินเมืองหรง
ฟางเซิ่งขับรถมารับจี้หลิงชวนด้วยตัวเอง ตอนที่เห็นจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีหน้าประตูสนามบิน ฟางเซิ่งดีใจจนอยากจะร้องไห้!
บอสกลับมาสักที! เขาไม่ต้องเหนื่อยแล้วแยกร่างทำงานหัวฟูอีกแล้ว!
แต่ว่า……ฟางเซิ่งสงบสติอารมณ์ตัวเอง แล้วมองจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีที่เพิ่งออกมาจากประตู
ถึงตอนนี้จะเป็นฤดูร้อน แต่อุณหภูมิที่ปารีสก็แตกต่างกับเมืองหรง เพราะฉะนั้นจี้หลิงชวนที่เพิ่งลงจากเครื่องยังใส่เสื้อคลุมเหมือนตอนที่ยังอยู่ปารีส ตอนนี้เริ่มร้อนแล้ว จึงถอดเสื้อคลุมออก จากนั้นก็ยื่นเสื้อคลุมที่ตัวเองถอดออกไปให้มู่ซีซีข้างๆอย่างเคยชิน
ที่น่าตกใจคือมู่ซีซีก็เหมือนชินแล้ว ยื่นมือไปรับมาแล้วแขวนไว้ที่แขนตัวเอง
สิ่งที่ทำให้ฟางเซิ่งตกใจมากกว่านั้นคือ บอสของเขายังถือกระเป๋าเดินทางด้วยตัวเอง
ตอนนั้นที่ฟางเซิ่งส่งพวกเขามาที่สนามบิน รู้สึกว่าความรู้สึกของบอสกับคุณหนูมู่ไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้น เหมือนคุณหนูมู่กลัวบอสแล้วต้องทำตามอย่างนั้น
แต่ครั้งนี้ฟางเซิ่งเห็นทั้งสองคนเดินไปคุยไปด้วยรอยยิ้ม จึงรู้สึกได้ชัดเจนว่านี่เพิ่งไปอยู่ต่างประเทศแค่ไม่กี่วัน ความรู้สึกบอสของเขากับมู่ซีซีดูพัฒนาขึ้นมาเยอะเลย!
แล้วทั้งสองคนก็เหมือนรู้ใจกันมากกว่าเดิม!
ฟางเซิ่งตั้งสติตัวเอง แล้วรีบเดินไปรับกระเป๋าเดินทางในมือจี้หลิงชวนมา พร้อมทักทายกับทั้งสองคนอย่างมีมารยาท "คุณชายจี้ คุณหนูมู่"
จี้หลิงชวนพยักหน้าให้ มองฟางเซิ่งแล้วเดินไปด้วยถามเรื่องงานไปด้วย มู่ซีซีที่อยู่ข้างๆฟังไม่รู้เรื่อง เห็นแค่ฟางเซิ่งตอบเขาทีละอย่าง
ระหว่างที่คุยกัน ทั้งสามคนก็ขึ้นรถไปหมดแล้ว
ฟางเซิ่งนั่งอยู่ที่คนขับ หันไปมองจี้หลิงชวนที่นั่งอยู่ข้างหลัง ลังเลไปครู่หนึ่ง ค่อยถามออกมาว่า "บอสครับ……ตอนบ่ายวันนี้มีประชุมกรรมการบริษัทที่สำคัญ……บอสจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อน หรือว่าไปร่วมการประชุมเลยครับ?"
จี้หลิงชวนหยุดไปหนึ่งอาทิตย์แล้ว ตอนนี้กลับประเทศแล้ว จี้หลิงชวนที่บ้างานต้องไปร่วมการประชุมแน่นอน
จากนั้นก็ยกมือไปขยี้ผมเธอ พร้อมพูดว่า "ขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ อยากทำอะไรก็บอกให้ป้าหลิงไปจัดการให้ ฉันอาจจะกลับมาดึกหน่อย มื้อเย็นไม่ต้องรอฉัน ถ้าหิวแล้วเธอก็กินเลย"
จี้หลิงชวนเดาได้ว่าตัวเองไม่ได้ไปทำงานที่บริษัทหนึ่งอาทิตย์ต้องมีเอกสารมากมายรอเขาอยู่แน่นอน
มู่ซีซีที่หน้าแดงเหมือนแพ้กุ้ง รีบพยักหน้าให้จี้หลิงชวนอย่างเป็นเด็กดี
จากนั้นจี้หลิงชวนจึงไปที่บริษัท มู่ซีซีก็ขึ้นไปอาบน้ำชั้นบน แล้วนอนพักผ่อน
เวลาเดียวกัน ทางมู่อวี๋เฟย ตั้งแต่วันนั้นที่โดนหยวนลี่ทารุณ มู่อวี๋เฟยก็อยู่รักษาแผลบนตัวไปหนึ่งอาทิตย์ จนกระทั่งเมื่อวานแผลเธอดีขึ้นแล้ว ค่อยลงจากเตียงได้
หนึ่งอาทิตย์ที่มู่อวี๋เฟยอยู่รักษาบาดแผลที่บ้าน สำหรับเธอเป็นช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานมาก!
เธออยากจะให้ตัวเองรีบหายดี จากนั้นก็เอาตัวอย่างดีเอ็นเอของมู่ซีซีไปตรวจดีเอ็นเอ!
เพราะฉะนั้นเมื่อวานมู่อวี๋เฟยหายดีแล้ว จึงรีบออกไปหามู่ซีซีทันที
พอถึงมหาวิทยาลัยA มู่อวี๋เฟยค่อยรู้ว่ามหาวิทยาลัยปิดเทอมไปแล้ว!
ตอนนี้มู่อวี๋เฟยไม่รู้ว่ามู่ซีซีพักอยู่ที่ไหน จึงไปดักรอที่ตึกบริษัทจี้ซือ อยากจะสะกดรอยตามจี้หลิงชวนไปหาตัวมู่ซีซี
แต่รอจนกระทั่งคนทั้งบริษัทเลิกงานแล้ว มู่อวี๋เฟยก็ไม่เห็นรถของจี้หลิงชวนเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...