แต่ลู่เฉิงฮ่าวกล้าคิดเรื่องนี้ได้เพียงแค่ในใจเท่านั้น แม้แต่ชื่อชูเหยา เขาก็ไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าของจี้หลิงชวน เพราะกลัวว่ามันจะไปแทงใจดำจี้หลิงชวนอีก
ส่วนทางด้านจี้หลิงชวนที่ตัดสินใจได้แน่วแน่แล้ว เขาไม่รู้เลยว่าลู่เฉิงฮ่าวคิดอะไรมากมายในใจขนาดนี้
หลังจากดื่มเหล้าลงไปหนึ่งแก้ว จี้หลิงชวนที่ยังไม่เมา เขาอารมณ์ดี เนื่องจากเขาตัดสินใจได้แล้ว จี้หลิงชวนวางแก้วเหล้าลงและพูดกับลู่เฉิงฮ่าวว่า “ไม่ดื่มแล้ว ฉันจะกลับก่อน แล้วเจอกันใหม่”
หลังจากพูดจบ จี้หลิงชวนก็เดินออกไปในทันที ลู่เฉิงฮ่าวถูกทอดทิ้งอย่างไร้เยื่อใยอีกครั้ง แน่นอนว่าเพื่อนมีไว้เพื่อระบายอารมณ์!
อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์จี้หลิงชวนยังไม่ได้แตะต้องมู่ซีซีเลย แค่จะพูดคุยก็ไม่ค่อยได้คุย และจงใจหลีกเลี่ยงหลบหน้ามู่ซีซี
มู่ซีซีไม่ได้เป็นคนโง่ เพราะเธอก็รู้สึกถึงเรื่องนี้เหมือนกัน
เดิมทีมู่ซีซีต้องการถามสารทุกข์สุกดิบของจี้หลิงชวน เธออยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่จี้หลิงชวนก็รีบออกไปข้างนอกแต่เช้าและกลับมาถึงบ้านตอนดึกดื่น เหมือนตั้งใจจะหลบหน้าเธอ มู่ซีซีจึงไม่รู้ว่าแล้วเมื่อไหร่ถึงจะมีโอกาสได้นั่งคุยกันกับจี้หลิงชวนสักที
มู่ซีซีอาบน้ำและเดินไปที่หน้าต่างโดยไม่รู้ตัว เธอมองลงไปที่ชั้นล่างในความมืด เดิมทีมู่ซีซี คิดว่าคืนนี้ก็คงจะเหมือนกับคืนก่อน ๆ ที่จี้หลิงชวนจะกลับบ้านมาจนดึกดื่น ตอนที่เธอกำลังคิดและ กำลังเตรียมจะเข้านอนนั้น ในวินาทีต่อมา เสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากทางด้านนอกของหน้าต่าง
ทันใดนั้นมู่ซีซีที่กำลังง่วงนอนอย่างเต็มที่ สะดุ้งขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงนุ่มๆ แล้วจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาดูเวลา นี่เพิ่งจะสองทุ่มเอง
มู่ซีซีคิดไปพลางจากนั้นก็วางโทรศัพท์มือถือของเธอลงและรีบเดินตรงไปทางหน้าต่าง เมื่อเธอมองลงไปข้างล่าง เธอก็เห็นรถของจี้หลิงชวน
รถของจี้หลิงชวนกำลังเข้ามาจอดอยู่ในโรงจอดรถด้านนอกคฤหาสน์ ภายในไม่กี่นาที ร่างอันสูงใหญ่ของจี้หลิงชวนก็ผลักประตูรถและเดินเข้ามาในคฤหาสน์
จี้หลิงชวนกลับมาแล้วจริงๆ! ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ วันนี้เป็นวันที่จี้หลิงชวนกลับมาเร็วที่สุด
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นได้ มู่ซีซีกลัวว่าเธอจะพลาดโอกาสที่จะได้คุยกับจี้หลิงชวน เธอรีบสวมรองเท้า วิ่งเหยาะๆออกไปผลักเปิดประตูและเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว
เมื่อมู่ซีซีเดินมาถึงกลางบันไดของคฤหาสน์ เธอบังเอิญเห็นจี้หลิงชวนที่เดินเข้ามาผ่านห้องนั่งเล่น
ทั้งคู่สบสายตากัน และทั้งคู่ไม่ได้เจอหน้ากันจริงๆจังๆมาเป็นเวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว
ทันทีที่พวกเขาเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของกันและกัน พวกเขาต่างฝ่ายต่างก็ชะงักกันเล็กน้อย
มู่ซีซีเป็นคนแรกที่ได้สติกลับคืนมา จากนั้นก็มองไปที่จี้หลิงชวนพร้อมกับยิ้มอย่างเขินอายและพูดขึ้นมาว่า "กลับมาแล้วเหรอ? กินข้าวเย็นหรือยัง"
ขณะที่มู่ซีซีกำลังพูดอยู่นั้น จี้หลิงชวนที่เพิ่งได้สติกลับมาก็ได้เดินก้าวเท้าเข้าไปอยู่ตรงหน้าของมู่ซีซีในระยะที่ประชิดกันมาก จี้หลิงชวนก้มศีรษะลงเล็กน้อย และลมหายใจอันร้อนระอุก็สัมผัสมาโดยคอที่บอบบางและขาวบริสุทธิ์ของมู่ซีซี
มู่ซีซีรู้สึกคันจึงเอียงคอเล็กน้อย และบรรยากาศรอบๆตัวของทั้งสองก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่ง และดูแปลกๆเล็กน้อย
จี้หลิงชวนจงใจเพิ่มน้ำหนักเสียงของคำว่าจัดการสองพยางค์ เมื่อมู่ซีซีได้ฟังแล้ว ใบหน้าของเธอก็ถูกย้อมให้เป็นสีแดงในทันที เธอกลัวจนไม่กล้าขยับ
เป็นระยะเวลาอันรวดเร็วจี้หลิงชวนอุ้มเธอกลับมายังห้องนอน มู่ซีซีถูกวางลงบนเตียงขนาดใหญ่ จากนั้นร่างสูงใหญ่ของจี้หลิงชวนก็ขึ้นคร่อมเธอในทันที
ร่างกายทั้งสองชิดกันอย่างแนบแน่น และอุณหภูมิร่างกายของมู่ซีซี เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากความร้อนจากร่างกายของจี้หลิงชวนได้แผ่ออกมา
เธอกลืนน้ำลายอย่างประหม่าและมองไปที่จี้หลิงชวน อย่างตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าสองสามวันมานี้จี้หลิงชวนทำไมถึงได้เอาแต่หลบเธอ ไม่สนใจเธอ และไม่แม้แต่ที่จะแตะต้องเธอ
แต่วันนี้เพิ่งจะกลับมาก็ตรงเข้ามาอุ้มและยังพาเธอขึ้นเตียงอีกครั้ง...
เมื่อนึกถึงตรงนี้มู่ซีซีก็อดสงสัยไม่ได้ เธอมองไปที่จี้หลิงชวน และถามออกไปตรงๆว่า "จี้หลิงชวน... หลายวันมานี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ ?"
จี้หลิงชวนมองดูร่างกายอันอ่อนนุ่มของมู่ซีซีที่กำลังถูกร่างกายของเขาคร่อมไว้ทางด้านล่าง ลูกกระเดือกอันเซ็กซี่และดูมีเสน่ห์ของเขาขยับเคลื่อนที่ขึ้นลงไปมา จากนั้นก็ก้มศีรษะลงและจูบไปที่ริมฝีปากของมู่ซีซีอย่างอ่อนโยน หลังจากที่ได้ลิ้มรสริมฝีปากสีแดงของเธอมากจนพอใจแล้ว เขาก็แสยะยิ้มออกมาและพูดขึ้นว่า "เด็กดี มีสติหน่อยสิ"
เมื่อได้ยินคำพูดของจี้หลิงชวน ก็มู่ซีซีดูเหมือนจะถูกเวทมนตร์ของจี้หลิงชวนสะกดโดยไม่รู้ตัว เธอลืมคำพูดที่เตรียมจะถามกับจี้หลิงชวนก่อนหน้าไปจนหมด สองแขนของเธอค่อยๆโอบกอดไปที่คอของจี้หลิงชวนโดยไม่รู้ตัว และกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความปรารถนา ฝ่ามืออันเรียวบางราวกับว่ามีเวทมนตร์ของจี้หลิงชวน ค่อยๆฉีกเสื้อผ้าของมู่ซีซีทีละเล็กทีละน้อยอย่างง่ายดาย
และบรรยากาศของห้องอันเงียบสงบก็เต็มไปด้วยเสียงลมหายใจหอบประสานกันของทั้งคู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...