แต่ในชั่วพริบตา จู่ๆภาพรอยจูบที่คอของมู่ซีซีก็ผุดขึ้นมาในหัวของชูเหยา รอยยิ้มเมื่อกี้หายไปในทันที พร้อมกับหมัดที่กำแน่นขึ้น
เธอพยายามระงับความหึงหวงที่อยู่ในใจของเธอ ชูเหยากัดริมฝีปากแน่น ตอนนี้ปล่อยให้มู่ซีซีได้ใจไปก่อน! ไม่ช้าไม่เร็วนี้เธอจะต้องเอาจี้หลิงชวนกลับคืนมาให้ได้!
ตลอดระยะทางไม่มีเสียงสนทนาใดๆเลย ประมาณสิบนาทีต่อมา จี้หลิงชวนขับรถไปส่งชูเหยาถึงประตูโรงพยาบาล
แต่ชูเหยาเป็นผู้หญิง อีกทั้งเธอยังป่วยอีก จี้หลิงชวนรู้สึกไม่ค่อยวางใจ เขาจึงอยู่เป็นเพื่อนและพาชูเหยาไปตรวจร่างกายที่คลินิกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ผลการตรวจออกมา จี้หลิงชวนจึงรู้ว่าชูเหยาป่วยเป็นแค่โรคกระเพาะและลำไส้อักเสบเฉียบพลันเท่านั้น เป็นเพราะเธอดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ เข้าไปมากจึงมีอาการเช่นนี้ เดี๋ยวหลังจากทานยา พักผ่อนให้เพียงพอ และระวังในเรื่องการทานอาหาร ร่างกายของเธอก็จะดีขึ้นมาเอง
จี้หลิงชวนรู้สึกโล่งใจขึ้น เขาไปรับยาให้กับชูเหยา จากนั้นก็ขับรถไปส่งชูเหยากลับไปที่คฤหาสน์เซอร์ซิส
เมื่อรถมาถึงคฤหาสน์เซอร์ซิส ชูเหยาก็เปิดประตูและลงจากรถไป ในขณะที่เธอหยิบสิ่งของๆตัวเองอยู่นั้น สายตาของเธอได้มองไปที่จี้หลิงชวนโดยไม่ได้ตั้งใจ ชูเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อยและยิ้มออกมา เธอหอบเอาความหวังอันริบหรี่พร้อมพูดกับจี้หลิงชวนขึ้นว่า"หลิงชวน วันนี้รบกวนคุณแล้ว ทั้งพาฉันไปส่งที่โรงพยาบาลแถมยังมาส่งฉันที่บ้านอีก ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คุณยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับบ้านดีไหม? ถ้าหิวมากๆ จะไม่ดีต่อกระเพาะนะ"
ทันทีที่ชูเหยาพูดจบ จี้หลิงชวนก็มองจ้องไปที่ชูเหยาพร้อมกับส่ายหัวและปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาว่า "ไม่ล่ะ ซีซีกำลังรอฉันอยู่ที่บ้าน เธอพักผ่อนให้มากๆนะ ฉันขอตัวกลับก่อนล่ะ"
ทันทีที่คำพูดของจี้หลิงชวนแผ่วเบาลง ชูเหยาก็กำมือทั้งสองข้างแน่นขึ้น เธอพยายามทำสีหน้าของเธอให้สงบ แต่บนใบหน้าของชูเหยาก็ยังคงเผยให้เห็นถึงความเกลียดชังในใจของเธออยู่บ้างเล็กน้อย
แต่ในเวลาชั่วพริบตา ชูเหยาก็สามารถควบคุมสีหน้าของเธอให้กลับมาเป็นปกติได้ เวลาต่อมา สายตาอันเฉียบแหลมของชูเหยาก็เหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือของเธอบนเบาะรถ เธอยิ้มพร้อมกับชี้ไปที่โทรศัพท์และพูดขึ้นว่า “โทรศัพท์มือถือหล่น เกือบลืมหยิบซะแล้ว”
เมื่อพูดเสร็จชูเหยาก็ก้มลงไปในรถและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ในขณะเดียวกันสายตาของเธอจ้องไปที่ปกเสื้อเชิ้ตสีขาวของจี้หลิงชวนซึ่งอยู่ใกล้แค่ปลายมือ ทันใดนั้นดวงตาของชูเหยาก็เป็นประกายขึ้น เธอเขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อยเล็กน้อยเพื่อร่างกายของเธอโคลงเคลงไปมา และจากนั้นชูเหยาก็ล้มพุ่งไปเข้าไปหาจี้หลิงชวนที่อยู่ทางด้านหน้า
ในมุมที่จี้หลิงชวนไม่สามารถมองเห็นได้ ริมฝีปากของชูเหยาที่ทาลิปสติกสีแดงก็ได้ประกบลงไปที่ปกคอเสื้อสีขาวของจี้หลิงชวนในทันที เธอทิ้งลิปสติกสีแดงปริศนาไว้ที่คอเสื้อของเขา
เมื่อเผชิญหน้ากับชูเหยาที่จู่ๆก็พุ่งเข้ามาในอ้อมแขนของตัวเอง จี้หลิงชวนก็จับที่ไหล่ของชูเหยาและค่อยๆพยุงเธอลุกขึ้น พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
ก่อนที่จี้หลิงชวนจะมีการตอบสนอง ชูเหยาก็รีบลุกขึ้นและออกจากรถพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของเธอ เธอมองจี้หลิงชวนด้วยความผิด "หลิงชวน ฉันขอโทษ... เมื่อกี้นี้เท้าของฉันเป็นตะคริว"
ชูเหยารีบลุกขึ้นมาก่อน จากนั้นก็ขอโทษ และเธอไม่ได้ทำอะไรที่มันมากเกินไปมาก จี้หลิงชวนจึงไม่สามารถพูดอะไรให้เธอได้
เขาทำได้เพียงแค่ส่ายหน้าและพูดกับชูเหยาว่า "ไม่เป็นไร"
ชูเหยามองที่จี้หลิงชวนอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ คุณกลับไปเถอะ เดินทางปลอดภัยนะคะ”
เมื่อหลู่เฉิงจินได้ยินเช่นนี้ ตาของเขาก็สว่างขึ้นมาในทันที จากนั้นเขาก็รีบพูดขึ้นว่า "เหยาเหยา ไม่ต้องกังวล ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย"
หลังจากเสร็จสิ้นการโทรศัพท์ ชูเหยานึกถึงภาพฉากที่ได้เห็นมู่ซีซีในวันนี้ ดวงตาของเธอค่อยๆหรี่ลงอย่างน่ากลัว
ชูเหยาค่อยๆใช้น้ำยาทาเล็บสีแดงทาลงนิ้วมือของเธอทีละนิ้วๆ เธอฉีกยิ้มเล็กน้อย ส่วนในสมองของเธอก็นึกถึงภาพมู่ซีซีวันนี้ที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงประตูหน้าบริษัทตอนหลังเลิกงาน
เห็นได้ชัดว่าเธอได้ฝังหนามลึกลงไปในหัวใจของมู่ซีซีได้สำเร็จแล้ว
และยังมีลิปสติกปริศนาที่เธอจงใจทิ้งไว้บนปกเสื้อของจี้หลิงชวนอีกด้วย
เกรงว่าผู้หญิงคนนั้นจะรับไม่ได้ และจากการที่เธอได้สัมผัสกับมู่ซีซีในวันนี้ คิดว่ามู่ซีซีก็คงจะชอบจี้หลิงชวนอยู่เหมือนกัน
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ชูเหยาก็แสยะยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจ เธออดคิดไม่ได้ว่าเหตุการณ์ในคืนนี้ระหว่างชี้หลิงชวนและมู่ซีซีจะเป็นอย่างไร
หนึ่งชั่วโมงต่อมา จี้หลิงชวนจอดรถในลานจอดรถด้านนอกของคฤหาสน์ เขาลงจากรถและเดินเข้าไปในคฤหาสน์ทันที
ที่ห้องนั่งเล่นมีเพียงแค่ไฟสีเหลืองอ่อนอันอบอุ่นยังคงเปิดไว้อยู่ จี้หลิงชวนยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา ขับรถไปๆมาๆ ไม่คิดเลยว่าตอนนี้จะใกล้เวลาสี่ทุ่มแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...