ในขณะที่ลินดาพูดอยู่นั้นสายตาของเธอก็มองไปที่ผ้าพันคอไหมพรมสีดำที่ผูกรอบคอของมู่ซีซี
มู่ซีซีไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางที่ผิดปกติของลินดา หลังจากฟังคำพูดของลินดาแล้ว มู่ซีซีก็ยื่นมือออกไปรับเอกสารนั้นพร้อมกับพยักหน้าให้ลินดา: "โอเค ฉันจะไปถ่ายเอกสารเดี๋ยวนี้"
ทันทีที่น้ำเสียงจบลง จู่ ๆลินดาก็ยื่นมือออกมาทางเธอทันที มู่ซีซียังคงตะลึงงันและยืนอยู่ที่เดิม จู่ๆ น้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นของลินดาก็ดังขึ้นในหูของเธอ: “โอ้ นี่มู่ซีซี เวลานี้ในตึกอากาศร้อนขนาดนี้ ทำไมเธอถึงยังพันผ้าพันคอผ้าไหมพรมสีดำอยู่อีกล่ะ! นี่เธอไม่รู้สึกร้อนจนอึดอัดหรอกเหรอ?รีบเอาผ้าพันคอออกเถอะเดี๋ยวก็หายใจไม่ออกหรอก”
ทันทีที่ลินดาพูดจบ มู่ซีซีก็รู้สึกเพียงว่าผ้าพันคอไหมพรมสีดำที่พันอยู่รอบคอของตัวเองนั้นกำลังถูกใครคนหนึ่งดึงออกไป มู่ซีซีใจตกไปอยู่ตาตุ่ม เธอยังไม่ทันจะหยุดการกระทำนั้น มันก็สายเกินไปแล้ว ในชั่วพริบตา ลินดาก็ดึงผ้าพันคอที่พันตรงคอของเธอออก เธอจ้องมองไปที่คอของมู่ซีซีด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่เชื่อสายตาของตัวเอง และเธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโอเว่อร์: "ว๊าย!"
และน้ำเสียงโอเว่อร์ที่ดังขึ้นนั้น ทำให้สายตาของเพื่อนร่วมงานในสำนักงานก็จ้องมาที่มู่ซีซีและลินดาในทันที
มู่ซีซีหน้าซีดเผือดนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมและเมื่อสังเกตเห็นการจ้องมองที่อยากรู้อยากเห็นของสายตาเหล่านั้น เธอรีบดึงสติของตัวเองกลับมาและเธอรีบเอามือข้างหนึ่งปิดคอของตัวเองทันที และมืออีกข้างหนึ่งก็เอื้อมออกไปแย่งผ้าพันคอไหมพรมสีดำที่อยู่ในมือลินดา
มู่ซีซีรู้สึกหน้าชาที่ถูกประจานจนแก้มแดงระเรื่อ
เธอรับรู้ได้ถึงแววตาที่อยากรู้อยากเห็นเหล่านั้นจ้องมองมาที่เธอ มู่ซีซีกัดริมฝีปากของเธอแน่นโดยรู้อยู่แก่ใจดีว่า คาดว่าตอนนี้เพื่อนร่วมงานในสำนักงานของเธอต่างเห็นรอยแดงจ้ำที่คอของเธอแล้วล่ะ!
ดวงตาของมู่ซีซีแดงก่ำ และต้องการแย่งผ้าพันคอไหมพรมสีดำของเธอกลับคืนมา แต่เมื่อลินดาเห็นมู่ซีซียื่นมือออกมาเพื่อจะแย่งเอาคืนเธอก็หัวเราะเยาะใส่มู่ซีซี:"ว้าว มู่ซีซี นี่เธอมีแฟนแล้วเหรอเนี่ย?"
เมื่อถูกถามต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้ มู่ซีซีก็รู้สึกถูกประจานจนได้รับความอับอายทำให้ดวงตาของเธอแดงก่ำและจ้องมองไปที่ลินดา น้ำเสียงของเธอสั่นเทา: "ลินดา เธอเอาผ้าพันคอคืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!"
ลินดาไม่หวั่นไหวและยิ้มเยาะให้มู่ซีซีพร้อมพูดว่า: "โอ้ มู่ซีซี เธอเคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเขินอายแล้วล่ะ คาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเก็บซ่อนมันไว้อย่างแนบเนียนขนาดนี้ นี่เธอมีแฟนแล้วเหรอเนี่ย! "
ทันทีที่ลินดาพูดจบ มู่ซีซีก็โต้กลับเสียงดังทันที: “ฉันไม่มีแฟน! เอาผ้าพันคอคืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ชูเหยาที่มองดูเหตุการณ์อยู่ข้าง ๆเธอเอาผ้าพันคอจากมือของลินดาแล้วยื่นให้กับมู่ซีซี และแกล้งพูดอย่างรู้สึกเห็นใจว่า: "ซีซี เธออย่าโกรธไปเลยนะ อันที่จริงลินดาไม่ได้ตั้งใจ เพียงแค่ล้อเล่นกับเธอเท่านั้นเองแหละ"
“ขอบคุณ” มู่ซีซีกล่าวขอบคุณกับชูเหยา จากนั้นหยิบผ้าพันคอไหมพรมแล้วรีบพันกลับไปที่คอของตัวเอง เธอหรี่ตาลงและรีบถือเอกสารที่ลินดาส่งให้เธอพร้อมกล่าวว่า: “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปถ่ายเอกสารก่อน”
ในขณะที่มู่ซีซีพูดอยู่นั้นเธอก็เดินออกจากสำนักงานทันที
เมื่อนึกถึงนี่ชูเหยาก็ยิ้มเยาะอย่างมีชัย
ในอีกด้านหนึ่ง มู่ซีซีรีบซ่อนตัวอยู่ในห้องถ่ายเอกสาร เธอตาแดงก่ำขณะถ่ายเอกสารสามชุดไปด้วย และมู่ซีซีกัดริมฝีปากของเธอแน่นเพื่อที่ไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา
หลังจากถ่ายเอกสารออกเป็นสามชุดเข้าเล่มเรียบร้อยแล้ว จากนั้นมู่ซีซีถือเอกสารและก้มศรีษะลงตลอดทางเดินเข้าไปในสำนักงาน
ทันทีที่มู่ซีซีเดินเข้าไปในสำนักงาน ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ทันทีว่าสายตาของเพื่อนร่วมงานทั้งหมดจับจ้องมาที่ตัวเธอ
และคราวนี้มู่ซีซีรับรู้ได้ว่าสายตาที่จ้องมองเธอในครั้งนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง และมีเพื่อนร่วมงานชายหลายคนมองมาที่มู่ซีซีด้วยสายตาเจ้าเล่ห์และหื่นกาม
เพื่อนร่วมงานหญิงก็มองดูเธอด้วยสีหน้าท่าทางที่รังเกียจและดูถูกดูแคลน
แน่นอนว่านี่เป็นเพราะปากพล่อยของลินดา ในขณะที่มู่ซีซีกำลังถ่ายเอกสารในห้องถ่ายเอกสารอยู่นั้น ลินดาได้ซุบซิบนินทาใส่ความเรื่องชีวิตส่วนตัวของมู่ซีซี เธอไม่มีแฟนแต่กลับมีนัดทุกวัน! นินทาว่าเธอเป็นผู้หญิงร่านแพร่กระจายข่าวลือออกไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้เพื่อนร่วมงานหลายคนในสำนักงานของแผนกการลงทุนก็เห็นรอยจูบที่คอของมู่ซีซีด้วยเช่นกัน และได้ยินคำพูดที่มู่ซีซีพูดว่าเธอไม่มีแฟน อีกทั้งเมื่อกี้นี้มู่ซีซีก็ทำตัวลับๆล่อๆจากไปด้วยความอับอายเช่นนั้น มันจึงยิ่งทำให้ทุกเชื่อในสิ่งที่ลินดาพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...