ชูเหยาก็รีบลุกขึ้นดึงตัวลินดาอย่างรวดเร็ว และกระซิบข้างหูของลินดาว่า: "ลินดา เสี่ยวอวี่พูดถูก ยิ่งตอนนี้เธอเป็นหัวหน้าของมู่ซีซีเธออยากจะตบเอาคืน มันยังมีอีกตั้งหลายวิธี จะตัดอนาคตของตัวเองทำไมกัน?”
ในขณะที่ชูเหยาพูดอยู่นั้น เธอเอียงข้างพูดกระซิบเพื่อไม่ให้มู่ซีซีได้ยิน
ในช่วงเวลาต่อมา ลินดาได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของชูเหยา ถ้าเรื่องนี้ถึงหูผู้จัดการจริงๆแล้วล่ะก็ เธอก็เป็นฝ่ายผิดก่อน แม้ว่ามู่ซีซีจะลงมือทำร้ายเธอก่อน มันก็ไม่มีผลดีต่อเธอเช่นกัน ถ้าเพราะเพียงอารมณ์ชั่ววูบของเธอจนทำให้ตัวเองโดนไล่ออกแล้วล่ะก็ มันก็ไม่คุ้มกันหรอก!
สิ่งที่ชูเหยาและเสี่ยวอวี่พูดนั้นไม่มีผิดเลยสักนิด! ตอนนี้เธอเป็นหัวหน้าของมู่ซีซีแล้ว ในอนาคตหากเธอต้องการจัดการมู่ซีซีมันยังมีหนทางอีกมากมาย และในตอนนี้อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือเลย! นั่นมันไม่คุ้มค่าเลย!
เมื่อคิดถึงนี่ลินดาก็สงบสติอารมณ์ลง เธอผละออกจากเสี่ยวอวี่และยิ้มเยาะเย้ยให้มู่ซีซี: "มู่ซีซีเธอเก่งมาก การตบในครั้งนี้ฉันจะจำมันไว้อย่างดี วันพระมันไม่ได้มีหนเดียว"
มู่ซีซีมองดูลินดาอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วหันกลับมานั่งที่ของตัวเอง เธอไม่เชื่อว่าตราบใดที่เธอตั้งใจทำงานของเธอเป็นอย่างดี ลินดาจะสามารถทำอะไรกับเธอได้!
อีกไม่นานก็ถึงเวลาทำงาน ทันทีที่เริ่มทำงาน เสียงขบฟันของลินดาดังลอดออกมาจากริมฝีปากหนาของเธอและเธอกำลังเริ่มแผนการเล่นงานมู่ซีซีอยู่ เธอจงใจมอบหมายงานยาก ๆให้กับมู่ซีซี เมื่อมู่ซีซีทำเสร็จแล้ว เธอก็แกล้งเริ่มหาข้อบกพร่อง แล้วให้มู่ซีซีไปแก้ไขมันครั้งแล้วครั้งเล่า
มู่ซีซีรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าลินดาต้องทำเช่นนี้
ลินดาให้เธอแก้ เธอก็นำไปแก้ไขโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ อย่างไรก็ตามเพราะก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ค่อยมีงานมากนักอยู่แล้ว หลังจากที่ลินดาแกล้งมอบหมายงานยาก ๆให้เธอทำแบบนี้ เวลางานของเธอก็ยิ่งแน่นขึ้น
มู่ซีซีคิดว่าตัวเองนั้นได้เรียนรู้งานและฝึกฝนงานก่อนล่วงหน้าแล้วกัน
ทำงานยุ่งทั้งบ่าย ลินดาแกล้งมู่ซีซีแต่มู่ซีซีกลับไม่โวยวายอย่างที่เธอจินตนาการเอาไว้ แต่มู่ซีซีกลับดูสงบและตั้งอกตั้งใจในการทำสิ่งต่าง ๆที่ได้รับมอบหมายอย่างดี ซึ่งมันยิ่งทำให้ลินดาโกรธมากจนเธอไม่รู้จะไประบายอารมณ์ความโกรธนี้ได้ที่ไหน
ชูเหยาเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจกับการแสดงออกของมู่ซีซี เดิมทีเธอคิดว่ามู่ซีซีต้องทนรับไม่ไหวกับการที่โดนลินดาแกล้งแบบนี้อย่างแน่นอน
ในท้ายที่สุด เธอคาดไม่ถึงว่ามู่ซีซีกลับอดทนได้ ซึ่งมันทำให้เธอตกตะลึงงัน
ในขณะที่ชูเหยาคิดอยู่นั้น เธอแอบเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม แต่เป็นแบบนี้ก็ดีนะ คู่ต่อสู้ต้องไม่ใช่ผู้หญิงที่ไร้สมอง ซึ่งมันจะยิ่งทำให้การแข่งขันครั้งนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก!
ชูเหยาหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา เปิด WeChat ของลู่เฉิงจิน และพิมพ์ข้อความหาลู่เฉิงจิงโดยตรงว่า " ลู่เฉิงจิน ดอกไม้ของฉันคุณมามอบให้กับฉันได้แล้ว"
ชูเหยาส่งข้อความออกไปได้ไม่นาน ราวกับว่าลู่เฉิงจินกำลังรอข้อความจากชูเหยาอยู่ยังไงยังงั้นแหละ หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ตอบกลับข้อความทันทีว่า: "ตกลง ผมจะไปส่งให้เดี๋ยวนี้!"
ชูเหยาเม้มริมฝีปาก ตามที่คาดไว้ไม่มีผิดเวลาไม่ถึง 20 นาที พนักงานส่งดอกไม้ก็ออกมาจากลิฟต์พร้อมกับช่อกุหลาบช่อใหญ่ถือไว้ในมือ
ดอกกุหลาบสีแดงสดจำนวนเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอกถูกส่งให้กับชูเหยา
ชูเหยาเซ็นรับช่อดอกไม้ช่อนั้นภายใต้สายตาที่อิจฉาของพนักงานในแผนกการลงทุน
ทันทีที่ชูเหยารับดอกไม้ช่อนั้น ลินดาก็เอนตัวไปข้างหน้าด้วยแววตาที่อิจฉาและพูดด้วยความประหลาดใจว่า: “ว้าว ดอกกุหลาบนี้ช่างงดงามเหลือเกิน! โอ้ พระเจ้า ดอกกุหลาบมากมายขนาดนี้น่าจะมีเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอกสินะ! สวยมากจริง ๆเลย "
ในขณะที่ลินดาพูดอยู่นั้นเธอยิ้มให้กับชูเหยาพร้อมพูดอย่างรวดเร็วว่า: "เหยาเหยา ดอกไม้ช่อนี้คุณชายจี้เป็นคนมอบให้เธอหรือเปล่า?"
อีกด้านหนึ่งด้านนอกสำนักงานท่านประธาน ชูเหยากอดแฟ้มไว้แนบอกพร้อมเอื้อมมือออกไปเคาะประตูห้องแล้วพูดว่า: “คุณชายจี้คะ ฉันเป็นชูเหยาจากแผนกการลุงทุนค่ะ มีแฟ้มเอกสารหนึ่งที่ต้องให้คุณตรวจสอบค่ะ”
ทันทีที่น้ำเสียงของชูเหยาจบลง น้ำเสียงเย็นชาของจี้หลิงชวนก็ดังออกมาจากห้อง: "เชิญเข้ามา"
ชูเหยาถือเอกสารไว้แนบอกพร้อมยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นจึงผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปทันที
ในสำนักงานมีเพียงจี้หลิงชวนคนเดียวเท่านั้น ใบหน้าที่สวยงามของชูเหยาก็แสดงรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมและเดินไปตรงหน้าจี้หลิงชวน จากนั้นยื่นเอกสารไปให้: "คุณชายจี้คะ นี่คือเอกสารที่ผู้จัดการให้นำมาให้คุณค่ะ"
จี้หลิงชวนพยักหน้าพร้อมยื่นมือออกไปรับแฟ้มเอกสารมองไปที่ชูเหยาและพูดว่า:"คุณคุ้นเคยกับการทำงานที่นี้แล้วหรือยัง?"
““ฉันค่อนข้างคุ้นเคยกับมันแล้ว ฉันมีงานทำและตอนนี้ชีวิตแบบนี้ก็ดีมาก” ชูเหยายิ้มให้จี้หลิงชวน นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับจี้หลิงชวนอย่างอัตโนมัติทันที เธอเลิกคิ้วขึ้นและถามจี้หลิงชวนว่า: "ตอนนี้คุณยุ่งอยู่หรือเปล่า? ถ้าคุณไม่ยุ่ง ฉันมีอะไรจะบอกคุณค่ะ"
จี้หลิงชวนพยักหน้า: "คุณพูดเถอะ"
ชูเหยายิ้มแล้วพูดว่า: "เมื่อกี้นี้มีคนเพิ่งส่งช่อดอกไม้มาให้กับฉัน เพราะเมื่อวานตอนที่คุณขับรถส่งฉันกลับบ้านคนในบริษัทจำนวนไม่น้อยเห็นเข้าแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าช่อดอกไม้ช่อนั้นคุณเป็นคนส่งมอบให้ฉัน ในเวลานั้นฉันได้อธิบายให้พวกเขาฟังแล้ว ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนส่งดอกไม้ช่อนั้นมาให้ แต่พอฉันอธิบายดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ฉันอธิบายเลยสักคน......"
ชูเหยารู้ดีว่าแผนการแบบนี้จี้หลิงชวนไม่หลงกลง่าย ๆ แทนที่จะให้จี้หลิงชวนรู้เรื่องด้วยตัวเอง เธอรีบชิงอธิบายให้เขาฟังก่อนดีกว่า
ด้วยวิธีนี้จี้หลิงชวนจะได้คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องที่เข้าใจผิด แต่จะไม่คิดว่ามันเป็นแผนการของเธอ อย่างไรก็ตามชูเหยาไม่ต้องการให้จี้หลิงชวนรู้ว่าเธอเป็นคนที่มีจิตใจอิจฉาริษยาขนาดนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...