รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 17

ตอนที่ 17 ช่างน่าตื่นเต้น

การรับประทานอาหารในครั้งนี้มีความตื่นเต้นแต่ไม่มีภัย ในบางครั้งมู่หยางชิวใช้ดวงตาโกรธแค้นจ้องมองมาที่ถังซิน เหมือนพูดว่า “หลังจากกลับไป ฉันจะจัดการเธอยังไง” ถังซินก็ทำเป็นมองไม่เห็น

ก่อนหน้านี้เธอได้ย้ายของส่วนใหญ่ออกไปจากบ้านตระกูลมู่แล้ว ไม่คิดที่จะกลับไปที่นั่นอยู่แล้ว

ทันใดนั้นชายหนุ่มตรงข้างๆ ก็ไอเสียงเบาๆ เท้าใต้โต๊ะก็เคลื่อนเข้าหากัน ถังซินมองไปอย่างร้อนรน มู่เฉินหย่วนโน้มคางลงมาแล้วลุกขึ้นไปห้องน้ำ

“......”

สักพักถังซินก็เริ่มรู้ตัว เดาว่ามู่เฉินหย่วนอยากจะให้ตนเองอธิบายเรื่องในวันนี้ เธอก็ไม่ทำให้เสียเวลา รีบถือกระเป๋าเดินไปห้องน้ำ

ถังซินพึ่งเดินถึงระเบียงยาว ก็มีคนเดินอย่างรวดเร็วผ่านตัวเธอไป

เธอเงยหน้าขึ้นมาพบว่าเดินผ่านไปนั้นก็คือเฉียวมั่นหลัว เมื่อเธอใกล้ผ่านมู่เฉินหย่วนที่ยืนอยู่ด้านหน้า เอียงตัวหันไปทางแขนของชายหนุ่ม หน้าอกที่เต่งตึงก็แนบเข้าไปที่แขนของเขา

“ท่านประทานมู่ ต้องขออภัยด้วย” เฉียวมั่นหลัวพูดแบบนี้ คงไม่คิดที่จะลุกขึ้นมาจากร่างกายของชายหนุ่ม เสียงแหลมบาดใจเหมือนกับปลายใบของต้นอ่อน “เท้าของฉันดูเหมือนจะแพลงแล้วหล่ะ”

มู่เฉินหย่วนยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับตัวอะไร

เฉียวมั่นหลัวช่างใจกล้า ดึงซิปเสื้อพิธีการจากคอลงมา มองเห็นเนินอกที่ขาวอ่อนที่ดึงดูดลูกตาของคน “ท่านประทานมู่ ฉันเลื่อมใสท่านมาตลอด อยากติดตามไปทำงานกับท่าน”

“ฉันรู้ว่าบริษัทมู่จื่อมีคนเยอะมาก ฉันอาจจะไม่โดดเด่นอะไร แต่ว่าฉันเป็นคนที่ขยันมาก เพียงท่านให้โอกาสฉันสักครั้ง ฉันอยากทำงานกับท่านที่สาขาย่อยที่นิวยอร์ก”

ถังซิน “......”

เธอคิดว่าไม่รู้เฉียวมั่นหลัวชอบมู่หยางชิวตรงไหน ที่แท้ก็มีแผนแบบนี้นี่เอง

“ท่านประทานมู่ เพียงแต่ได้ทำงานกับท่าน ให้เสียสละอะไรก็ได้ แม้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน” มือของเฉียวมั่นหลัวลูบไปที่คอของมู่เฉินหย่วน ริมฝีปากแดงๆ ก็ตามไป

ทันใดนั้น ข้อมือเธอก็เจ็บขึ้นมาทันใด เพราะถูกมู่เฉินหย่วนดึงออกไป

สายตาของชายหนุ่มนิ่งสงบไร้การเคลื่อนไหว จนทำให้เฉียวมั่นหลัวสั่นกลัว

มู่เฉินหย่วนหัวเราะเยาะว่า “ฉันคิดว่าคุณไม่ต้องไปที่ไหน ลาออกไปดีที่สุด คุณคิดว่าไงหล่ะ”

“ขอ.ขอโทษค่ะท่านประทานมู่ ฉันทำเกินไปแล้ว” เฉียวมั่นหลัวเกิดความหวาดผวา ไม่ง่ายเลยที่เธอจะสามารถมาอยู่ตำแหน่งนี้ได้ เพราะเหตุนี้จึงถูกไล่ออก “งั้นฉันไปหล่ะ”

เห็นเฉียวมั่นหลัววิ่งมาทางนี้ ถังซินก็รีบก้มหัวลงทันที จนวิ่งเฉียดไหล่ของเธอไป

กำลังจะเดินไปต่อ ทางก็ถูกขวางเอาไว้

“ไหน ๆ หลานสะใภ้ก็มาแล้ว แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นคงไม่ดี” มู่เฉินหย่วนพูดออกมา ปลายรองเท้าถีบไปที่ประตูห้องน้ำ มองถังซินด้วยสายตาบอกความนัยโดยไม่ต้องพูด “มาคุยกัน”

ตัวถังซินแข็งเป็นตะคริว มีความคิดนับไม่ถ้วนไหลเข้ามาในสมอง

ความเป็นไปได้สูงสุดคงเป็นเรื่องนั้น ก็คือมู่เฉินหย่วนคงถ่ายคลิปที่โรงแรมในคืนนั้น คิดจะเอามาขู่เธอ

เมื่อรับมือถือมาดู มันเป็นคลิปจริงๆ ภาพในนั้นดูเหมือนเป็นห้องสูทของโรงแรม

มือของถังซินสั่นเกือบจะเอามือถือปาออกไป

ใบหน้าของเธอซีดเซียวมองไปทางมู่เฉินหย่วน มู่เฉินหย่วนพยักคิ้ว ใช้คางชี้ไปแสดงให้รู้ว่า “ลองกดดูสิ อืม？”

“ท่าน...ท่านประทานมู่ คุณนี่ต่ำทรามมาก” ฟันของถังซินกำลังสั่น “เมื่อกี้คุณพึ่งพูดไปว่าไม่ใส่ใจแล้ว ตอนนี้ก็เอาสิ่งนี้มาให้ฉันดู มันหมายความว่ายังไง ”

มู่เฉินหย่วนเห็นเธอมองเขาด้วยความโกรธ สีหน้าดูซีด เดาว่าเธอคงเข้าใจอะไรผิดไป

ก็ใช้นิ้วแตะไปที่คลิป การตอบสนองของถังซินคิดที่จะปิดมือถือ มู่เฉินหย่วนใช้แรงปัดมือของเธอไว้

ถังซินหลับตาไม่กล้าดู กลัวได้ยินเสียงของตัวเอง แต่คิดไม่ถึงเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงที่ดูคุ้นหูมาก เหมือนกับเสียงของน้องสาว กวนหลิงเอ๋อ

นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ？