รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 407

บทที่ 407 เตะอะไรกันนักหนา อยู่นิ่งๆสงบๆหน่อยได้มั้ย

หลังจากที่เธอรับกระเป๋าเสร็จแล้ว จึงเดินออกไปทางด้านนอก พลางต่อสายโทรศัพท์หาหลินเฉิงจี๋

เพราะว่าต้องคอยจัดระเบียบกระเป๋า ทำให้เธอไม่ทันได้ระวัง จึงไปชนกับคนที่เดินผ่านมา ทำให้พาสปอร์ตและแว่นตาดำของอีกฝ่ายตกลงพื้น และโทรศัพท์ของเธอเองก็ตกลงเช่นกัน

“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ”

ถังซินรีบนั่งยองลงไป และเก็บของทั้งหมดขึ้นมาให้เธอ

“ขอบคุณค่ะ” มือหนึ่งได้ยื่นมารับของ และพูดด้วยเส้นเสียงที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความเรียบร้อย น่าฟังยิ่งนัก

ถังซินเม้มริมฝีปาก ยิ้มและเงยหน้า เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีรูปร่างบางเล็ก สวมชุดสูททำงาน ผมยาวประลงมาที่บ่า ดวงตาใสวาวและฟันขาวสวย มีความเป็นผู้หญิงอย่างเต็มตัว

เมื่อเห็นลักษณะหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นอย่างชัดเจน รอยยิ้มของถังซินก็เจื่อนลง และยืนมึนงงอยู่ตรงนั้น

ผู้จัดการแผนกRของบริษัทมู่ซื่อ จ้าวอี้ซีน

“คุณถังซินใช่มั้ยคะ?” จ้าวอี้ซีนจำถังซินได้ จึงยื่นมือออกมาอย่างรวดเร็ว “ตอนที่ฉันพึ่งมาอยู่ในบริษัทมู่ซื่อใหม่ๆ มักจะได้ยินพนักงานในแผนกพูดถึงผู้จัดการคนก่อนหน้านี้อยู่บ่อยๆ”

“ สวัสดีค่ะ” ถังซินยื่นมือไปจับมือกับเธออย่างมีมารยาทและด้วยรอยยิ้มที่จืดจาง “ฉันออกมาจากบริษัทมู่ซื่อนานแล้ว ช่วงเวลานี้ก็อยู่ที่ต่างประเทศ งานยุ่งเลยไม่มีเวลาดูข่าว คุณคือ?”

“ที่แท้ช่วงนี้คุณก็อยู่ที่ต่างประเทศนี่เอง” รอยยิ้มของจ้าวอี้ซีนยังคงสดใสเป็นประกาย “ขอแนะนำตัวหน่อยนะคะ ฉันคือผู้จัดการคนใหม่แผนกR ของบริษัทมู่ซื่อ ชื่อจ้าวอี้ซีน”

ถังซินคลายมือออกและจับไปที่คันจับกระเป๋าเดินทาง “ยินดีกับคุณด้วยนะคะ บริษัทมู่ซื่อเป็นองค์กรที่ดีมากองค์กรหนึ่ง ฉันเชื่อว่าบริษัทจะต้องให้ในสิ่งที่คุณต้องการและพัฒนาความสามารถของคุณ”

“ ขอบคุณค่ะ” จ้าวอี้ซีนฉีกยิ้มริมฝากอันแดงก่ำ “แต่ฉันยังต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกมากจากรุ่นพี่ถังอย่างคุณ!”

สีลิปติกของเธอนั้นสีสันสดสวย จึงขับผิวของเธอให้ขาวผ่อง ดูงดงามและกินใจยิ่ง

ถังซินยิ้มอย่างรักษามารยาท “ฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกค่ะ พวกเขาพูดยกยอไว้สูงเกินไปแล้ว”

“ไม่ว่าคนนอกจะพูดยกยอไว้สูงเกินไปหรือไม่ แต่รุ่นพี่ถังก็ยังเป็นคนที่เก่งมาก” จ้าวอี้ซีนยังเอ่ยอีกว่า จากสายงานการแปลสามารถย้ายมาอีกสายงานหนึ่งได้ และยังมีผลการทำงานที่สำเร็จอย่างดีขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถที่จะทำได้”

ถังซิน……

“ ……จ้าวอี้ซีน เธออายุเท่าไหร่?” ถังซินยิ้มเอ่ยถาม

จ้าวอี้ซีนคล้ายกับคิดไม่ถึงว่าถังซินจะถามคำถามนี้ จึงตอบด้วยน้ำเสียงช้าๆ “ยี่สิบแปด”

“โหว อายุมากกว่าฉันตั้งสามปี” ถังซินคล้ายกับกำลังคิดอะไรอยู่ จึงยิ้มอย่างจืดจางออกมาอีกครั้ง “ในปีที่แล้วที่ฉันอยู่บริษัทมู่ซื่อผลการทำงานของฉันนั้นประสบความสำเร็จมากจริงๆ แต่คงต้องขอไม่รับคำว่ารุ่นพี่จากคุณจ้าว”

แน่นอนว่าจ้าวอี้ซีนฟังออกว่า ในคำพูดของถังซินนั้นแฝงไปด้วยความประชดประชัน สีหน้าจึงเจื่อนลง แต่ไม่นานก็ได้พูดออกมาอย่างสดใสว่า “คุณถัง สะดวกแลกวีแชทกันไว้มั้ยคะ? ถ้ามีเวลามาดื่มน้ำชาด้วยกันค่ะ?”

“ได้เลยค่ะ!” ถังซินหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างใจกว้าง กดเข้าไปที่หน้าจอหลักดู และเอ่ยพูดขอโทษ “ในโทรศัพท์ของฉันไม่มีแอพพลิเคชันของวีแชท รอให้ฉันกลับไปดาวน์โหลดก่อนแล้วค่อยแอดวีแชทคุณไปนะคะ”

“คุณจ้าว ฉันไปก่อนนะคะ” ถังซินไม่รอให้จ้าวอี้ซีนพูดออกมาอีก เธอลากกระเป๋าก้าวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว มีความหมายคล้ายกับไม่อยากได้วีแชทของเธอแม้แต่นิดเดียว

ถังซินเดินออกไปทางด้านนอกไปพลาง และขบคิดถึงเรื่องการประมือกันกับจ้าวอี้ซีนเมื่อสักครู่นี้ไปพลาง

หญิงสาวที่อยู่ในชนชั้นสูง พูดจาดูสุภาพและมีมารยาท แต่กลับแฝงไปด้วยความเยาะหยัน ทั้งสวยและฉลาด มีสง่าเพียบพร้อม

ขณะที่หวนกลับไปคิด ท้องเธอก็รู้สึกเจ็บและมีน้ำย่อย

ไอ้แก่นั้นยอดเยี่ยมจริงๆ สามารถหาผู้หญิงที่มีสวยและฉลาดมาอยู่ข้างกายได้!

ทันใดนั้นเธอก็ถูกถีบท้องหลายที ทำให้ถังซินรู้สึกเจ็บเบาๆ

“ถีบอะไรนักหนา อยู่นิ่งๆสงบๆหน่อยได้มั้ย” ถังซิสมองบน และพูดด่าพวกเด็กๆในท้องด้วยเสียงเบา “ถ้าถีบอีกกลับไปฉันจะไม่กินข้าวแล้ว ให้พวกเธอหิว!”

“คุณถังใช่มั้ย?”

ในขณะที่ถังซินกำลังจิตใจหดหู่อยู่ ก็ได้ยินเสียงคนเรียกตนเองรางๆ เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นผู้ช่วยจางที่ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว กำลังเดินมาทางตนเอง

“ไม่เป็นไร ฉันไปโบกแท็กซี่สักคันก็ได้แล้ว”

แต่ผู้ช่วยจางเหมือนกับไม่ได้ยินคำพูดของถังซิน และบังคับแย่งเอากระเป๋าเดินทางของเธอมา และเอามาไว้ที่ท้ายรถ “คุณถัง คุณอย่าเลิกกับประธานมู่แล้วทำเหมือนผมเป็นคู่อริเลย”

“ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น…” ถังซินลูบไปที่หว่างคิ้ว และพูดอย่างจนปัญญาขึ้นว่า “งั้นก็ได้ ขอบคุณนะ”

ผู้ช่วยจางยิ้มออกมา “จะเกรงใจอะไรกันครับ”

เขามองไปที่นาฬิกาข้อมืออีกครั้ง และพูดอย่างไม่สบายใจ “เธอน่าจะลงจากเครื่องตั้งนานแล้ว ทำไมถึงยังไม่ออกมา” คุณถังคุณขึ้นไปรอบนรถเถอะ ผมจะเข้าไปดู กลัวว่าเธอจะหลงทาง”

ถังซิน…

ทางออกที่จอดรถมีทางเดียว หรือเพื่อนนักเรียนเขาคนนั้นเป็นคนปัญญาอ่อน

ถังซินเปิดประตูรถขึ้นไป และมองไปทางนอกหน้าต่างอย่างไม่ได้ตั้งใจ เห็นผู้ช่วยจางเดินไปไม่กี่ก้าว ก็ได้คุยกับผู้หญิงคนข้างหน้าคนหนึ่ง จากนั้นก็รับเอากระเป๋าเดินทางในมือเธอมา

เธอยังคิดเลยว่ายังดีที่เพื่อนนักเรียนคนนี้ไม่เดินหลงทางและได้เดินออกมาแล้ว เมื่อผู้ช่วยจางหลีกทางออก ถังซินก็เห็นผู้หญิงคนนั้น คนที่เมื่อสักครู่ได้เจอกับเธอที่ห้องโถงใหญ่ ชื่อจ้าวอี้ซีน ถังซินตกใจจนตาถลึงค้าง

อะไรกันเนี่ย!

เพื่อนนักเรียนของผู้ช่วยจางคือ…จ้าวอี้ซีน?

ถังซินไม่ทันที่จะลงรถไปเอากระเป๋าเดินทาง ผู้ช่วยจางก็ได้พาจ้าวอี้ซีนเดินมาแล้ว และเปิดประตูรถด้านหลัง และแนะนำให้ถังซินรู้จักอย่างกระตือรือร้น “คุณถัง คนนี้คือ…”

“ฉันรู้จัก” ถังซินพูดขัดเขาและฉีกยิ้ม “เมื่อสักไม่ทันระวังจึงชนกับเธอที่ห้องโถงใหญ่ เธอก็รู้จักฉันแล้ว พวกเรายังพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง”

“จริงหรอครับ” ผู้ช่วยจางมองไปที่จ้าวอี้ซีน “คุณรู้จักกับคุณถังแล้วหรอ?”

จ้าวอี้ซีนกระพริบตายิ้มเล็กน้อยและพยักหน้า “ใช่แล้ว ฉันศรัทธาในตัวรุ่นพี่ถังซินมากเลย ยังอยากที่จะแลกวีแชทกับเธอ คิดไม่ถึงว่านายจะเป็นเพื่อนกับรุ่นพี่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน