รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 411

บทที่ 411 ผู้ใหญ่รังแกเธอแล้ว เด็กก็ยังรังแกเธออีก

จู่ซือซือเข้ามาใกล้และเกาะติดถังซิน และบอกทุกอย่างที่เธออยากจะกินให้เธอฟัง ถังซินจึงสั่งซื้อวัตถุดิบจากแอพพลิเคชัน

กว่าที่ของจะมาส่งต้องใช้เวลาอย่างน้อยสี่สิบนาที “ในครัวมีแป้งทำอาหารและเนยที่ไม่เค็มมั้ยคะ?” ถังซินเอ่ยถามป้าหลิน พลางเดินไปที่ห้องครัว ทำเหมือนกับว่ามู่เฉินหย่วนไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้

“มีค่ะ ทั้งหมดอยู่ในตู้ด้านบน ป้าหลินเจ้าไปในห้องครัวพร้อมเธอ และช่วยหยิบของให้เธอ และยังมีเตาอบและแม่พิมพ์ที่ทำพวกคุ้กกี้ด้วยค่ะ ของพวกนี้คุณถังต้องการมั้ยคะ?”

“ต้องการค่ะ เอาออกมาให้หมดเลยค่ะ”

“ได้ค่ะ”

จู่ซือซือไม่ได้ตามเข้ามาด้วย และมองมาที่มู่เฉินหย่วนที่ยืนอยู่ข้างๆ และเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “พี่เฉิน เมื่อสักครู่พี่บอกว่าจะมาทำอะไรนะ มาเอาโน๊ตบุ๊คใช่มั้ย?”

ยังไม่ทันที่มู่เฉินหย่วนจะพูดอะไรออกมา เธอจึงค้นหาไปทั่วห้องรับแขก

สุดท้ายก็หาโน๊ตบุ๊คเจอที่ข้างๆชั้นวางโทรทัศน์ เธอว่างเอามาให้มู่เฉินหย่วนอย่างดีอกดีใจ “หาเจอแล้ว! พี่เฉินพี่รีบไปเถอะ ไปทำงานช้าไม่ดีนะ”

……

มู่เฉินหย่วนคลึงที่หว่างคิ้ว “ในบ้านมีคนนอกอยู่ ฉันเป็นห่วงเธอ อีกสักครู่ค่อยไป”

“ คนนอกอะไรกัน?” จู่ซือซือไม่มีปฏิกิริยาออกมาชั่วขณะ หลังจากที่มองตามเขาเข้าไปในห้องครัวเพื่อดูถังซิน ก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมาทันที “พี่ถังซินไม่ใช่คนนอก พี่เฉิน หลังจากที่เลิกกันแล้ว พี่อย่าทำเหมือนเธอเป็นคู่อริสิ พี่ถังซินสวยขนาดนั้น ถ้าพี่ไม่ต้องการ ก็ยังมีผู้ชายอีกมากที่เขาต้องการ”

ชายหนุ่มแววตาเคร่งขรึมเล็กน้อย “จู่ซือซือ ทำไมถึงได้ทำร้ายคนพี่และเห็นแก่ตัวแล้วหล่ะ”

“ ฉันแค่พูดความจริง” ถังซินเบะริมฝีปากอันแดงก่ำ และเหมือนกับคิดอะไรขึ้นมาได้ และเข้าไปเอ่ยถามด้วยเสียงเบาๆ “พี่เฉิน พี่อยากกินอาหารที่พี่ถังซินทำใช่มั้ย ถึงได้ไม่ยอมกลับไป?”

“ไม่ใช่”

จู่ซือซือทำเสียง “หึหึ ฉันว่าใช่ เห็นได้ชัดว่าพี่เฉินอยากอยู่กินข้าวที่นี่”

“กลับไปที่ห้องนอนและเปลี่ยนเอาชุดนอน” มู่เฉินหย่วนเอาฝ่ามือกดไปที่หัวเธอ และบังคับให้เธอหันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องนอน “ถ้ายังพูดยั่วยุฉันอีกหล่ะก็ ฉันจะเอาตัวป้าหลินไป ให้เธอได้ทำทุกอย่างโดยพึ่งลำแข้งของตัวเอง”

“คนเลว” จู่ซือซือพูดบ่นพึมพำ เธอตีมือเขาออก และกลับห้องนอนไปอย่างไม่เต็มใจ

มู่เฉินหย่วนเอาโน๊ตบุ๊ควางไว้บนโต๊ะน้ำชา และเดินไปหยิบแก้วที่เคาน์เตอร์บาร์มาใส่น้ำโซดา

ในขณะที่ลุกขึ้น ก็ได้เห็นถังซินกำลังยุ่งอยู่ในครัวแบบเปิดอยู่ ผมสีดำถูกมัดให้เป็นหางม้าอย่างฉาบฉวยได้ห้อยลงมาที่หลัง ปรากฏให้เห็นลำคอที่ขาวเนียนอย่างเลือนราง เธอสวมเสื้อผ้าสบายๆ มีกลิ่นอายของผู้หญิงอย่างเต็มตัว

เขาพิงไปที่ขอบบนเคาน์เตอร์บาร์ ดวงตาอันดำขลับได้จับจ้องไปที่บนตัวถังซิน มองเธอขยับตัวเป็นครั้งคราว หรือหยิบของจากมือป้าหลินมาทำอะไรโน่นนี่

บนตัวผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์อะไร ที่ทำให้เขาจดจำอย่างไม่เคยลืมตลอดมา

ทำไมถึงสามารถรบกวนอารมณ์เขาได้ง่ายขนาดนี้?

มู่เฉินหย่วนรู้สึกใจร้อนไม่เป็นสุขเล็กน้อย เงยหน้าดื่มน้ำโซดาจนหมดแก้ว ทำให้ดับไฟที่ร้อนอยู่ในใจลงไม่น้อย

ด้านในห้องครัว ป้าหลินที่กำลังช่วยงานถังซินอยู่ในครัว ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของตนเองดังขึ้น

ป้าหลินบอกกับถังซินและเดินไปรับโทรศัพท์ข้างๆ

หลังจากผ่านไปประมาณสองนาที ป้าหลินก็ได้คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วและเดินออกมาหามู่เฉินหย่วน และเอ่ยพูดอย่างร้อนใจ “คุณมู่ หลานฉันมีไข้สูง ลูกชายกับลูกสะใภ้ไปทำงานต่างจังหวัดกลับมาไม่ได้ ฉันกลัวว่าปู่เขาจะดูแลคนเดียวไม่ได้ ฉันขอลางานสักครึ่งสันเพื่อกลับไปดูได้มั้ยคะ?”

“ถ้าอย่างนั้นให้คุณลาครึ่งวัน มู่เฉินหย่วนเอ่ยขึ้น พรุ่งนี้เช้ามาให้ตรงเวลาก็พอแล้ว”

“ขอบคุณคุณมู่มากนะคะ” ป้าหลินซาบซึ้งใจต่อเขาเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่กำลังจะออกไปจึงเอ่ยขึ้นว่า “คุณมู่ คุณอยู่ที่นี่ว่างๆก็สามารถเข้าไปช่วยคุณถังในครัวได้นะคะ เธอทำคนเดียวไม่ไหวหรอก”

หลังจากที่ป้าหลินออกไปแล้ว มู่เฉินหย่วนก็ยังนั่งพิงอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ยังไม่ได้ลุกขึ้นมา

ชายหนุ่มมองไปที่ห้องครัว เห็นถังซินทำอาหารคนเดียวแต่ก็ดูมีความชำนาญเป็นอย่างมาก คิดในใจว่าในเมื่อเธอรังเกียจตัวเขา แล้วทำไมเขาจะต้องเข้าไปช่วยทำด้วย?

แล้วอีกอย่างเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะมาช่วย

“เอ๋ ป้าหลินหล่ะ?” จู่ซือซือเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านออกมา และเมื่อเห็นในครัวมีเพียงถังซินอยู่คนเดียว จึงเอ่ยถามมู่เฉินหย่วน “ป้าหลินทำไมไม่ช่วยพี่ถังซินทำอาหารหล่ะ?”

“เอาแห้งหน่อย จะทำขนมปัง”

“อืม”

ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรขึ้นอีก และยืนเรียงข้างๆกัน ต่างคนต่างทำงานที่อยู่ในมือของตน

หลังจากที่มู่เฉินหย่วนผสมแป้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงใช้มือกดก้อนแป้งที่คิดว่าพอใช้ได้แล้ว และเตรียมที่จะหันไปบอกกับถังซิน

ถังซินคล้ายกับอยากที่จะเอื้อมหยิบของ จึงหันตัวมาโดยที่ไม่ระวัง จึงชนเข้ากับหน้าอกของชายหนุ่ม เธอถูกชนโดยไม่ทันได้ตั้งตัว จึงทำให้เท้าทรงตัวไม่ดี จึงล้มไปทางข้างหลังอย่างไม่รู้ตัว

มู่เฉินหย่วนจึงรีบยื่นมือไปโอบเอวเธอไว้อย่างแน่น และดึงตัวเธอขึ้นมา และเมื่อรอให้เท้าของเธอทรงตัวให้ดีสักครู่ จึงรีบดึงมือกลับมาอย่างว่องไว และขยับตัวไปข้างๆ

ถังซินแสดงสีหน้าหยิ่งยโสเมื่อถูกเขาช่วยไว้

“อะไรกันเนี่ย ยังคงแสดงออกมาอย่างไร้ความปราณีจริงๆนะ ก่อนหน้านี้ที่นอนกับเธอ ทำไมถึงไม่พูดให้รักษาระยะห่าง?”

ทันใดนั้นรู้สึกว่าเด็กๆในท้องอยู่กันไม่นิ่ง ไม่รู้ว่าลูกคนไหนเตะเธออยู่ในท้อง

ถังซินขมวดคิ้วและร้องออกมา และด่าในใจขึ้นว่า “ผู้ใหญ่รังแกเธอแล้ว เด็กก็ยังจะมารังแกเธออีก!”

“ เป็นอะไร?” เมื่อเห็นเธอมีหน้าที่ซีดลงมู่เฉินหย่วนจึงเอ่ยถามขึ้น และอยากที่จะถามเธออีกว่า “อยากไปพักสักครู่มั้ย?” แต่ก็รู้สึกว่าจะดูสนิทมากเกินไป จึงอดทนไว้ไม่พูดออกมา

“ไม่เป็นไร!” ถังซินพูดด้วยน้ำเสียงที่อารมณ์ไม่ดี และข้ามเขาไปหยิบแป้งเค้กออกมาหนึ่งถุง “ฉันได้ทำให้เนยนิ่มลงแล้ว คุณใช้เครื่องตีแป้งตีให้เข้ากัน แล้วใส่ไข่ลงไปตีด้วย สุดท้ายเติมเกลือและแป้งเค้ก จำไว้นะว่าเติมเกลือ อย่าเติมน้ำตาล ไม่เช่นนั้นคุ้กกี้จะมีรสชาติหวานเกินไป”

เมื่อมู่เฉินหย่วนเห็นเธอเอาเครื่องตีแป้งมายัดใส่มือที่มือของตนด้วยสีหน้าที่เย็นชา จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ตีจนเข้ากันต้องใช้เวลานานเท่าไหร่?”

“ไม่รู้ ค้นหาในกูเกิ้ลเอง!” ถังซินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา และหันหลังให้เขา

มู่เฉินหย่วนจนปัญญา

เหมือนกับเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย เมื่อสักครู่ยังช่วยประคองเธอขึ้นมา แล้วทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้พูดจาด้วยน้ำเสียงเช่นนี้?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน