รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 506

บทที่ 506 แหวนเพชรสีชมพูวงนี้ คุณแน่ใจว่าคุณไม่ต้องการ

ผู้ชายตอบกลับอย่างเย็นขา “ไม่ต้องแล้ว พวกคุณขายออกไปเถอะ”

ผู้จัดการร้านตกใจแน่นิ่ง คิดว่าตัวเองฟังผิด “ท่านประธานมู่ แหวนเพชรสีชมพูวงนี้คุณแน่ใจว่าคุณไม่ต้อง?”

“แน่ใจ ยังมีอะไรอีกไหม?”

“ค่ะ” ผู้จัดการร้านได้ยินน้ำเสียงของผู้ชายเย็นลง รีบถามต่อว่า “ท่านประธานมู่ค่ะ เงินจองสามถึงห้า——”

“......”

เธอยังพูดไม่จบ โทรศัพท์ก็ถูกวางไปแล้ว

ผู้จัดการร้านนิ่งไปครู่ใหญ่ คิดไม่ออกว่าหลายเดือนที่ผ่านมา ท่านประธานมู่ให้พวกเธอช่วยเลือกแหวนเพชรสีชมพูวงหนึ่ง ทำไมตอนนี้บอกว่าไม่เอาก็ไม่เอาไปเลย

ผู้จัดการร้านเก็บโทรศัพท์ กลับมาหาถังซินกับหลินเฉิงจี๋อีกครั้ง :“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ให้พวกคุณรอนานแล้ว ลูกค้าคนนั้นบอกว่าแหวนเพชรสีชมพูวงนี้เขาไม่ต้องการแล้ว คุณจ่ายในราคาปกติก็พอคะ”

“เขาไม่ต้องการแล้ว?” หลินเฉิงจี๋รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พลันยิ้มออกมา “ครับ รูดบัตรนะครับ”

ดำเนินการไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็ซื้อเพชรสีชมพูได้แล้ว

สวมแหวนเพชรสีชมพูเม็ดใหญ่ออกมาจากร้าน ถังซินรู้สึกตื่นเต้น :“กลางวันขนาดนี้ เพชรสีชมพูนี้ดึงดูดสายตามาก ไม่งั้นฉันถอดมาเก็บไว้ก่อน ถึงวันหมั้นค่อยหยิบออกมาใส่อีกที”

“ไม่อนุญาตให้เก็บ สวมไว้ครับ” หลินเฉิงจี๋จูงมือเธอ “ให้ผู้หญิงทุกคนมอง ให้พวกเธออิจฉาคุณมีสามีดีๆแบบนี้ ซื้อแหวนเพชรสีชมพูเม็ดใหญ่ให้กับคุณ”

ถังซินหัวเราะ พลางจ้องเขาตาโต “คุณเนี่ยทำตัวเป็นเด็กไปได้”

เมื่อทั้งคู่มาถึงซุปเปอร์ ถังซินได้รับโทรศัพท์จากฉางผิง

ฉางผิงฟ้องกับเธอ ว่าอาสาวชอบรักแกเขา ยังถามต่ออีกว่าถังซินจะกลับมาเมื่อไหร่ อยากทานอาหารฝีมือเธอ

เห็นผู้ชายเข็นรถเข็นกำลังเดินมา คำพูดของถังซินที่กำลังจะออกจากปากก็เปลี่ยนไป “สองสามวันมั้ง นายสองสามวันนี้ก็ไปทานข้าวที่บ้านอาสาว รอน้ากลับไป ทำอาหารอร่อยๆให้นายทาน”

ฉางผิงอยู่กับจู่ซือซือ ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรอก เธออยากจะอยู่เป็นเพื่อนหลินเฉิงจี๋

“ครับ” ฉางผิงตอบรับเสียงใส “คุณน้ากำลังท้อง ต้องระวังพักผ่อนให้เพียงพอนะครับ!”

“จ๊ะ รู้แล้วจ๊ะ”

หลังจากฉางผิงวางโทรศัพท์ จู่ซือซือที่กลั้นหายใจฟังอยู่ห่างๆรีบกระโจนเข้ามา ถามเขาอย่างลุ้นๆ :“เป็นไงบ้าง พี่ถังซินบอกว่าจะกลับมาเมื่อไหร่?”

ฉางผิงเหลือบมองเธอครั้งหนึ่ง “อาครับ อาคิดว่าอาสำคัญกว่าว่าที่เจ้าบ่าวของเขาหรือครับ?”

“พูดอะไรไอ้เด็กบ้า!” จู่ซือซือดึงหูเขาสุดแรง เยอะเย้ยว่า :นายก็ไม่ใช่เหมือนกันเหรอ กลายเป็นเด็กที่ไม่มีคนรัก มากินข้าวฟรีบ้านฉันทุกวัน

“อาเป็นอาของผม สมควรให้ผมทานข้าวอยู่แล้วใช่ไหม!”

จู่ซือซือแขวะเขา “วันๆก็กินกินกิน ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เลี้ยงนายเพื่ออะไร!”

ฉางผิงตอบโต้กลับ :”อามีประโยชน์อาก็มาโทรซิ!ไม่โทรยังจะมาบ่นอีก ผมคิดว่าอาต่างหากที่ไร้ประโยชน์”

“นายลองพูดมาอีกคำนึง!”

“อาน่ะเป็นคนโง่!เลือกกินแถมเอาแต่ใจ ไม่มีคนรัก!”

จู่ซือซือกรีดร้องเสียงดังสนั่น ลุกขึ้นจากโซฟา วิ่งไล่เขา :“ไอ้เด็กบ้า กล้าจริงอย่าวิ่งสิ!”

“ผมไม่ได้โง่สักหน่อย ทำไมจะไม่วิ่ง?” ฉางผิงทำหน้าทำตาใส่เธอ

คนหนึ่งโตคนหนึ่งเด็ก ฉันไล่เธอ เธอไล่ฉัน วิ่งไล่กันในห้องรับแขก ทะเลาะกันเสียงดังจนป้าหลินที่กำลังทำขนมอยู่ในครัวปวดหู

เมื่อได้ยินเสียงกริ่งประตู ป้าหลินรีบเช็ดมือไปเปิดประตู

“เอ๊ะ คุณคือ?” นอกประตูมีผู้ชายวัยกลางคนยืนอยู่ ป้าหลินเห็นแล้วนิ่งไป “กดผิดบ้านหรือเปล่าคะ?”

“ผมอาสุ่ย” ผู้ชายกล่าวขึ้น “ท่านประธานมู่ส่งผมมาดูแลคุณหนูจู่”

พูดพลางยื่นสัญญาให้กับป้าหลิน

ป้าหลินเปิดดูสัญญา ดูแล้วว่าไม่มีอะไรผิด จึงจะเปิดประตูให้อาสุ่ยเข้ามา :“ดูแลคุณหนูจู่ดีๆ เธอค่อนข้างเลือกอาหาร ถ้าคุณเคยชินแล้วก็ไม่มีอะไร......”

“เวลาเธอนอนต้องมีคนอยู่เป็นเพื่อนไหมครับ?”

“เมื่อก่อนต้อง ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว” ป้าหลินเหลือบมองอาสุ่ยทีนึง คิดว่าผู้จัดการมู่เป็นคนบอกเขา “อ่อ คุณหนูจู่ยังต้องกินยา ทุกคืนคุณต้องเอายาใส่ในนม”

ในสมองของจู่ซือซือผุดความคิดประหลาดประหลาดออกมามากมาย พุ่งเข้าไปเคาะประตูห้องนอน :“เฮ้ นายเปิดประตู! ถ้านายกล้าทำอะไรกับหลานฉัน ฉันไม่ปล่อยนายไว่แน่!”

“ไอ้วิปริตเปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

“ถ้าไม่เปิดฉันจะแจ้งตำรวจแล้วนะ ฉันพูดจริงๆ!”

จู่ซือซือเคาะประตูอย่างบ้าคลั่งครู่ใหญ่ มือเจ็บไปหมดแล้ว

เมื่อกำลังจะแจ้งตำรวจ ประตูห้องนอนถูกเปิดออก

ฉางผิงวิ่งออกมาจากห้องนอน ไปยังห้องรับแขกหยิบหมวกเบสบอลของตัวเอง รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

“ไอ้เด็กบ้า นายจะไปไหน?”

เห็นฉางผิงวิ่งออกไปแล้ว จู่ซือซือจะวิ่งตามไป ข้อมือถูกคนจับไว้แน่น

“เขามีเรื่องคุยกับท่านประธานมู่ เธอไม่ต้องกังวลไป” อาสุ่ยเอ่ยขึ้น “หิวไหม?อยากกินอะไรเดี๋ยวผมทำให้ทาน”

“โอ๊ย ฉันไม่ต้องการนายดูแล!” จู่ซือซือดึงมือออกมาสุดแรง มองเขาตรงไหนก็ดูน่ารังเกียจไปหมด “ฉันจะให้พี่เฉินหาคนหนุ่มๆให้ฉัน นายแก่เกินไป!”

“อยากกินสเต็กหมูไข่เค็มไหม?”

จู่ซือซือนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะด่าเขายังไงดี แต่กลับอยากทานขึ้นมา “อร่อยไหม?”

อาสุ่ยยิ้ม “อืม รับรองว่าคุณหนูจะต้องชอบ”

“พอเหอะ!” จู่ซือซือไม่เชื่อเขา พูดฮึดฮัดใส่ว่า :“ป้าหลินทำอาหารอร่อย ฉันยังทานแค่ไม่กี่คำเอง”

“ถ้าหากว่าผมทำอาหารอร่อย คุณหนูต้องอนุญาตให้ผมอยู่ เป็นไงครับ?”

จู่ซือซือคิดไปคิดมา ตกลงทันที่ :“นี่นายพูดออกมาเองนะ!สุดท้ายแล้วนายอย่าบอกว่าฉันรักแกนายนะ”

เธอก็จะให้ไอ้หมอนั่นเห็นความจริง รีบไสหัวออกไป!

ป้าหลินเห็นจู่ซือซือกับอาสุ่ยเข้ากันได้ดี ก็ไม่มีเรื่องอะไรของตัวเองอีก ในใจคิดว่าถ้าคนคนนี่ทำอาหารไม่ได้เรื่อง เธอพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ได้ จึงแอบกลับไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน