รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 507

บทที่ 507 นายกล้าดุฉัน

จู่ซือซือนอนบนโซฟาเลื่อนช่องทีวีไปมาด้วยความเบื่อไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เดินเข้าไปดูในครัวเป็นระยะๆ

ไอ้วิปวิตคนนี้ทำอาหารดูเป็นมืออาชีพ

ประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไป อาสุ่ยยกจานอาหารมาที่โต๊ะอาหาร “คุณหนูจู่ ทานอาหารได้แล้วครับ”

จู่ซือซือรีบลุกจากโซฟา เดินไปโต๊ะอาหาร ก็ได้กลิ่นอาหารลอยมา

เดินไปถึงโต๊ะอาหาร เมื่อเห็นสเต๊กหมูวางบนจานเหลืองอร่าม ก็สึกหิวขึ้นมาจริงๆ

อาสุ่ยยื่นตะเกียบให้เธอ “ลองชิมดูครับ”

“ดมแล้วหอม ไม่น่าจะอร่อย” จู่ซือซือทำเสียงฮึดฮัดออกมา “นายรอไสหัวออกไปเถอะ!”

เธอทานสเต๊กหมูร้อนๆไปคำหนึ่ง

ผลคืออร่อยสุดๆ จากที่เคยคิดจะไล่เขาออกไปตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็น :“ว้าว อร่อยมากๆเลย แต่ว่า......ทำไมรสชาติเหมือนกับที่นายสั่งมาให้ฉันทานครั้งก่อนเลย”

จู่ซือซือทานไปอีกคำหนึ่ง แน่ใจแล้วว่ารสชาติเหมือนกับครั้งก่อนแน่นอน สายตาราวกับมีดแหลมคมมองไปที่อาสุ่ย :”นายกล้าเอาอาหารที่สั่งมาทำเป็นอาหารที่นายทำ นายช่างน่าไม่อายจริง!”

“ผมอยู่ที่นี่ตลอด จะสั่งอาหารจากข้างนอกได้ยังไง?”

จู่ซือซือสำลักนิดหนึ่ง พลางชี้ไปที่หน้าต่างข้างๆห้องครัวกล่าวว่า :“พวกเขาต้องอยู่ด้านนอก นายเอาเชือกค่อยๆเกี่ยวอาหารขึ้นมา!ไม่งั้นนายจะอธิบายยังไง อาหารที่นายทำวันนี้รสชาติเหมือนกันกับอาหารที่สั่งมาครั้งก่อนเลย?”

อาสุ่ยทำได้แค่พูดความจริง :“รู้ว่าคุณหนูเลือกอาหาร มื้อก่อนหน้าผมก็เป็นคนทำ หลอกคุณหนูว่าสั่งมา”

“ฉันบอกนายแล้วเหรอว่าฉันเลือกอาหาร!” จู่ซือซือพูดขึ้นด้วยความโกรธ

“ท่านประธานมู่เป็นคนบอกผม”

“......”

จู่ซือซือทานสเต๊กด้วยความโมโห โกรธแต่ทำอะไรไม่ได้

พี่เฉินจริงเลยๆ อะไรก็พูดกับไอ้หมอนี่ แล้วยังส่งเขามาดูแลเธออีก ทำไมไม่มาถามเธอก่อน

อาสุ่ยขยับเก้าอี้ เข้ามานั่งใกล้เธอ “เป็นไงบ้าง ผมอยู่ต่อได้ไหม?”

“หึ!” จู่ซือซืออยากพูดว่าไม่ได้ แต่ก็กลัวว่าเขาจะจากไป อาหารที่ป้าหลินทำเธอไม่ชอบทาน ปากไม่ตรงกับใจทำเสียงฮึดฮัดใส่ทีนึง นั่งทานสเต๊ก ไม่สนใจเขา

อาสุ่ยก็มีความอดทน นั่งข้างๆดูเธอทานสเต๊กจนหมด แล้วยังเทน้ำส้มให้เธออีกหนึ่งแก้วด้วยความใส่ใจ

“ขอบคุณค่ะ”

จู่ซือซือแย่งแก้วน้ำส้มมา ดื่มจนเกินครึ่ง แล้วจึงค่อยๆเอ่ยว่า :“ให้นายอยู่ก็ได้ ต่อไปฉันอยากทานอะไรนายก็ทำตามที่ฉันสั่ง ไม่อนุญาตนายเข้าไปในห้องนอนฉัน ไม่อนุญาตนายแตะของของฉัน”

อาสุ่ยตอบรับคำหนึ่ง “มีอะไรอีกไหม?”

“อยู่ห่างฉันหน่อย!” จู่ซือซือจ้องเขาไปทีนึง เชิดหน้าขึ้นเอ่ยว่า “ฉันจะบอกนายไว้ แฟนของฉันเก่งมากๆ”

“คุณหนูมีแฟน?” อาสุ่ยสีหน้าบูดบึ้ง แม้แต่น้ำเสียงก็เย็นยะเยือก “คบกันตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เกี่ยวอะไรกับนายด้วย นายรู้แค่ว่าแฟนของฉันไม่คนอย่างนายจะมีเรื่องด้วยได้ก็พอ!”

อาสุ่ยออกแรงจับข้อมือเธอแน่น สายตาเหมือนจะกินเธอเข้าไป “เจอกันที่ไหน?ชื่ออะไร?”

“โอ๊ย นายจับฉันเจ็บแล้ว!” จู่ซือซือขมวดคิ้ว เจ็บจนจะร้องออกมาแล้ว “นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”

“คุณหนูไม่พูด ต่อไปผมจะไม่ทำอาหารให้คุณหนูทานอีก”

จู่ซือซือเอะอะโวยวาย :“นายก็แค่คนที่พี่เฉินส่งมาเป็นบอดี้การ์ด มาหยิ่งยโสอะไรกัน?นายยังกล้ามาดุฉันอีก!”

เห็นผู้ชายยังไม่ปล่อยมือออกจากแขนเธอ แถมยังจ้องเธออย่างเย็นชา เธอโกรธจนสีหน้าเปลี่ยนไป

“ฉันบอกนายก็ได้ แฟนฉันชื่อชิงเฟิง เก่งมากๆด้วย!นายยังไม่ปล่อยมือฉันอีก ฉันจะตะโกนเรียกเขามาแล้วนะ!”

ได้ยินแบบนั้นสีหน้าของอาสุ่ยโกรธน้อยลง

หลังจากเขาปล่อยมือ จู่ซือซือรีบนวดแขนที่เจ็บเบาๆ

เธอเหลือบไปมองอาสุ่ยที่นึง :“ กลัวแล้วใช่ไหมล่ะ?ถ้าครั้งหน้ากล้าทำแบบนี่อีก แฟนของฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่ๆ!”

“กลัวแล้ว” อาสุ่ยพยักหน้า และยังหัวเราะต่ออีก “แฟนคุณหนูเก่งจริงๆ”

“กลัวแล้วนายหัวเราะทำไม?” จู่ซือซือโกรธจัด “นายคิดว่าฉันโกหกใช่ไหม?ฉันโทรเรียกเขาให้มาที่นี่ตอนนี้เลย!”

“ไม่ใช่มั้ง เด็กคนนั้นน่าจะอายุประมาณห้าหกขวบแล้ว ท่านประธานมู่แต่งงานไม่น่าจะปิดบังพวกเราแบบนี้มั้ง?”

“ใช่ ท่านประธานมู่ไม่ใช่กำลังคบหากับคุณหนูเซี่ยงเหรอ?”

“......”

หลายคนนั่งสุมหัวกันเมาส์ สงสัยว่าเด็กผู้ชายที่มาหามู่เฉินหย่วนหลายครั้งคนนี้เป็นใคร

หลังจากฉางผิงออกมาจากลิฟต์ รีบเดินไปห้องท่านประธาน

เขาเคาะประตู หลังจากได้รับอนุญาตจากด้านใน ก็บิดประตูเปิดเข้าไป “ว้าว คุณอารองยุ่งจังเลยครับ!”

มู่เฉินหย่วนปิดเอกสาร นวดระหว่างคิ้วเบาๆ “มาหาอามีอะไรหรือเปล่า”

“กลัวว่าอาจจะยุ่งจนไม่มีเวลาทานข้าว ผมซื้อขนมมาฝากอาด้วยนะ” ฉางผิงหัวเราะคิกคิก เอาของที่ถือมาวางบนโต๊ะ “อาดูซิ ผมดีกับอาใช่ไหม?”

“พูดความจริง” มู่เฉินหย่วนไม่เชื่อที่เขาพูด สีหน้าเย็นชาเอ่ยว่า “มาทำอะไร?”

ฉางผิงนั่งลงบนเก้าอี้ หมุนเล่นไปมา “ความจริงคือผมเบื่อไม่รู้จะทำอะไรดี เลยมาเล่นกับอา”

“ทำไมไม่เล่นกับอาสาวของนาย?”

“เธอชอบแกล้งผม เล่นเกมแพ้ก็ตีผม เล่นกับเธอไม่สนุก” ฉางผิงบ่นพึมพำขึ้น “ถ้าอยู่ที่นั่นกับเธออีก อาคงไม่เห็นเด็กน่ารักๆอย่างผมอีก”

มู่เฉินหย่วนดวงตาครุ่นคิด :“นายไม่ใช่อยู่ที่บ้านถังซินเหรอ เธอไม่อยู่บ้าน?”

“น้าไม่อยู่บ้านมาสัปดาห์กว่าแล้ว” ฉางผิงกล่าวขึ้น “น้ามีว่าที่เจ้าบ่าว แน่นอนว่าต้องอยู่ที่บ้านว่าที่เจ้าบ่าว ผมก็เลยต้องไปเล่นกับอาสาว ใครจะไปรู้ว่าอาสาวชอบแกล้งผม”

สัปดาห์หนึ่งไม่กลับมาเลย?

มู่เฉินหย่วนยิ่งไม่พอใจ คิดว่าผู้หญิงคนนั้นไหนบอกว่าจะดูแลฉางผิงให้ดีที่สุด ผลคือพอมีว่าที่เจ้าบ่าว ก็ปล่อยไอ้เด็กนี่ทิ้งไว้ที่บ้านไม่สนใจ!

ฉางผิงเท้าคางมองมู่เฉินหย่วน ถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า :“อารองครับ สีหน้าอาดูไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าครับ?”

“เปล่า!”

“อาเห็นว่าน้าจะแต่งงานกับคนอื่น แล้วรู้สึกไม่สบายใจใช่ไหมครับ?” ฉางผิงพูดแทงใจของผู้ชาย “อายังมีความรู้สึกกับน้าอยู่ใช่ไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน