บทที่ 525 จะให้พูดว่าลืม แล้วลืมได้เลยได้ยังไง
เธออยู่ดีๆก็นึกถึงครั้งก่อนตอนที่อยู่บ้านเขา ตอนเช้าเขาทำบะหมี่หมูเส้นชามหนึ่ง ถึงแม้จะเค็ม แต่เธอก็ทานจนหมดชาม
รวมถึงบะหมี่เนื้อวันนี้ด้วย
เห็นอยู่ว่าฝีมือการทำอาหารของผู้ชายไม่ค่อยดี ทำไม่อร่อย เธอก็ยังไม่รังเกียจ
เธอยังมีความรู้สึกเหมือนเดิมให้กับเขา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
แต่ทำไม......
ถังซินนึกถึงคืนวันฝนตกวันนั้น เธอขอร้องเขาขนาดนั้น ยอมคุกเข่า เขาก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้าน
ยอมเปิดประตูให้ผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปในบ้าน แต่กลับไม่มองเธอแม้แต่น้อย
เธอได้รับความเจ็บปวดจากเขามามากมาย จะให้พูดว่าลืม แล้วลืมได้เลยได้ยังไง?
ถังซินรู้สึกแน่นหน้าอก คิดถึงเรื่องเหล่านั้น พร้อมกับทานบะหมี่เนื้อ น้ำตาปริ่ม ร้องไห้โฮออกมากระทันหัน
น้ำตาหยดลงในชาม ราวกับลูกปัดที่เชือกถูกตัดขาด
มู่เฉินหย่วนเห็นผู้หญิงก้มหน้าไม่พูดไม่จา ผ่านไปครู่หนึ่งไหล่กระตุก ท่าทางไม่ค่อยปกติ หลับตาลง จับไหล่เธอหันกลับมา
เห็นใบหน้าเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ยังกำลังร้องไห้อยู่
เขารู้สึกตกใจขึ้นมาทันที ใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้เธอ “เป็นอะไรไปครับ ทำไมถึงร้องไห้?”
“อารองแบบนี้มันไม่ใช่เรียกว่ารู้อยู่แล้วยังจะถามเหรอครับ!” ฉางผิงถามขึ้นอย่างเย็นชา “เพราะว่าอาทำบะหมี่ได้ไม่อร่อยเลย แต่บะหมี่รสก็แค่จืดไปนิดนึง หรือว่าเนื้อไม่อร่อย น้าถึงร้องไห้?”
มู่เฉินหย่วนหันไปมองเขาอย่างไม่พอใจ
“ฝีมือทำอาหารของผมไม่ดีจริงๆ” มู่เฉินหย่วนต้องยอมรับแต่โดยดี สีหน้าเขินอาย “คิดว่าตำตามขั้นตอนแล้วควรไม่มีปัญหา คิดไม่ถึงว่า......ไม่อร่อยก็ไม่ต้องทาน ผมพาคุณออกไปทานอาหารอร่อยๆ”
ฉางผิงรีบยกมือทันที พูดเบาๆว่า “อารอง ผมไปด้วยครับ ผมอยากทานกุ้งอบน้ำมัน”
มู่เฉินหย่วนไม่สนใจเขา คิดว่าถังซินรู้สึกว่าบะหมี่ไม่อร่อย พาเธอออกไปทานข้างนอกก็ได้
คิดไม่ถึงว่าน้ำตาของถังซินหยุดไหลทันที ท่าทางจากที่ดูน้อยเนื้อต่ำใจเปลี่ยนเป็นเย็นชา ปัดมือของเขาออกไป
เธอเปลี่ยนไปเร็วมาก
มู่เฉินหย่วนมือค้างกลางอากาศ รู้สึกไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เป็นอะไรไป?
ถังซินไม่สนใจผู้ชายข้างๆ ก้มหน้าทานบะหมี่
ใช้เวลากว่าสิบนาทีกว่า ในที่สุดก็ทานบะหมี่เนื้อจนหมด เธอวางตะเกียบลง พูดอย่างเย็นชาว่า :“ท่านประทานมู่ลงมือเข้าครัวลำบากแล้วค่ะ ชามวางทิ้งไว้ให้ฉางผิงล้างก็ได้”
“ถังซิน” มู่เฉินหย่วนขมวดคิ้ว ไม่ชอบที่เธอเป็นแบบนี้ ปฏิเสธเขากระทันหันอย่างกับเป็นคนนอก
“ระหว่างเราอาจจะยังมีเรื่องเข้าใจผิด เราต้องคุยกัน”
ถังซินยิ้มให้เขา แต่แววตาไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม “ไม่มีอะไรเข้าใจผิดแล้ว เรื่องที่ควรอธิบายท่านประทานมู่ได้อธิบายไปหมดแล้ว ขอบคุณท่านประธานมู่สำหรับมื้อดึกนี้ ฉันไปส่งท่านประธานมู่”
เธอขยับเก้าอี้ลุกขึ้น เดินมุ่งไปที่ประตู เปิดประตูยืนรออยู่ตรงนั้น
ฉางผิงมองอย่างงุนงง
บะหมี่ที่อารองทำไม่อร่อยก็จริง แต่น้าก็ไม่ควรไล่คนแบบนี้มั้ง?
ฉางผิงพูดกับมู่เฉินหย่วนเบาๆ “อารอง อาดูสิว่าบะหมี่ที่อาทำมันไม่อร่อยขนาดไหน ทำให้น้าโกรธถึงขั้นไล่อาออกจากบ้าน อารีบขอโทษน้าเร็วๆ”
มู่เฉินหย่วนรู้ดีว่าถังซินไล่เขาไม่ใช่เพราะบะหมี่ไม่อร่อย เมื่อกี๊ที่ร้องไห้ เกินครึ่งเกิดจากนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา ดังนั้นท่าทางที่มีต่อเขาถึงเปลี่ยนเป็นเย็นชาขนาดนี้
เรื่องที่ผ่านมา เกิดจากเขาประมาท ทำให้ความเข้าใจผิดของทั้งสองเพิ่มมากขึ้น
มู่เฉินหย่วนไม่พูดอะไร ตอนเดินผ่านห้องรับแขกหยิบเสื้อคลุมขึ้นมา
ก้มหน้ามองผู้หญิงที่สีหน้าเย็นชา ตั้งใจรักษาระยะห่างกับเขา เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ถ้างั้นคุณกับฉางผิงรีบพักผ่อน ผมกลับก่อน”
“ค่ะ” ถังซินน้ำเสียงราบเรียบ แทบไม่อยากจะมองเขา “ท่านประธานมู่กลับดีๆ”
เมื่อมู่เฉินหย่วนก้าวออกไป ประตูด้านหลังเขาถูกเจ้าของบ้านปิดทันทีโดยไม่รั้งรอ
“ทว่ามีเรื่องหนึ่งให้นายไปจัดการ ค่อนข้างอันตราย ถ้าหากนายไม่อยากไป ฉันไปหาคนอื่น”
กวนชิงเฟิงมองคนในภาพอย่างละเอียดแป๊บนึง จดจำเขาเข้าสมองได้อย่างรวดเร็ว
“พี่ส่งคนไปซีเรียหมดแล้ว เมืองหนานเฉิงหาคนเก่งกว่าผมไม่ได้อีกแล้ว” กวนชิงเฟิงลงมือลบภาพนั้น พูดอย่างหนักแน่นว่า “ให้ผมไปเถอะ ท่านประธานมู่ คุณเชื่อผม”
มู่เฉินหย่วนหัวเราะ “ฉันเชื่อนายมาตลอด ไม่เคยสงสัยนาย”
นิ่งไปครู่หนึ่ง เขาถามกวนชิงเฟิงอีก “เรื่องของซือซือ......นายแค้นฉันไหม?”
กวนชิงเฟิงหันไปมองประตูห้องนอนที่ปิดสนิท จากนั้นส่ายหน้า :“เรื่องนี้ผมเป็นคนผิด ผมดูแลเธอไม่ดี ผมยังต้องขอบคุณท่านประธานมู่จัดการเรื่องนี้ได้เด็ดขาด ไม่คิดแค้นผม”
มู่เฉินหย่วนถอนหายใจลึกๆ
พูดว่าไม่คิดแค้นเป็นไปได้ยังไง?
ตอนนั้นเขากล้าเอาปืนจ่อถังซิน แถมยังคิดจะฆ่ากวนชิงเฟิง
แต่เมื่อหาคนมาสะกดจิตจู่ซือซือ ให้เธอลืมเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับกวนชิงเฟิง หลายคืนตอนดึกที่เขานั่งเฝ้าเธอ เห็นเธอฝันร้องออกมา ร้องออกมาว่าใครอย่าไป เขาก็ใจอ่อนอีก
เขารู้ว่าถึงแม้จู่ซือซือจะลืมเรื่องราวทุกอย่างไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอสามารถเริ่มต้นใหม่ แต่เขาจะไม่ได้เจอกับผู้หญิงน่ารักๆแบบนี้อีก ถึงแม้แต่งงานแล้วก็ไม่มีความสุข
อีกอย่างไม่ใช่ความผิดของกวนชิงเฟิงทั้งหมด
ดังนั้นเขาถึงยอมใจอ่อน ยอมปล่อยกวนชิงเฟิง ให้ทั้งคู่สมปรารถนา ยอมให้โอกาสกวนชิงเฟิงอีกครั้ง
“เอ๊ะ ลุง ทำไมลุงถึงยังไม่นอน?” จู่ซือซือเดินขยี้ตาออกมาจากห้องนอน
เธอคิดว่ากวนชิงเฟิงยังไม่นอน จากนั้นพบว่ามู่เฉินหย่วนอยู่ข้างๆเขา รู้สึกตื่นขึ้นมาทันที พุ่งไปยังห้องรับแขกราวกับลูกระเบิด นั่งลงข้างๆมู่เฉินหย่วน
“ว้าว พี่เฉิน เมื่อเช้าฉากพี่พุ่งเข้าไปแย่งเจ้าสาวในโบสถ์เท่มากเลย!” จู่ซือซือพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจ “พี่ถังซินซาบซึ้งไหมคะ เธอได้พูดอะไรไหมคะ?”
มู่เฉินหย่วนโดนเธอเอะอะโวยวาย ขมวดคิ้ว “นี้ใช่เรื่องที่เธอควรให้ความสนใจ”
“พี่เฉิน พี่เป็นแบบนี้ จะต้องคุยกับพี่ถังซินไม่ราบรื่นแน่นอน” จู่ซือซือหันไปมองบนใส่เขา พูดเบาๆว่า :“พี่ดูน้ำเสียงของพี่ ถ้าหากหนูเป็นพี่ถังซิน หนูก็ไม่เลือกพี่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...