บทที่ 524 ลำเอียงอย่างเปิดเผย
“นาย นายยืนทำอะไรอยู่ที่ประตู?” ถังซินกลัวว่าเด็กน้อยจะได้ยินเรื่องที่คุยกับมู่เฉินหย่วนแล้ว ตกใจ ใจหายใจคว่ำ “นายได้ยินอะไรไปบ้าง?”
ฉางผิงหัวเราะเหอะๆ “ได้ยินน้าทะเลาะกับอารอง บอกว่าอารองน่ารำคาญ”
“แค่นี้?”
“หรือว่าน้าลงไม้ลงมือตีอารองด้วยเหรอ?” ดวงตาเล็กๆของฉางผิงสดใสขึ้น “น้าชนะแล้ว?”
จริงๆแล้วเรื่องที่เธอคุยกับมู่เฉินหย่วนเด็กน้อยไม่ได้ยิน
ถังซินรู้สึกโล่งใจ หันไปมองบนใส่เด็กน้อย เอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า :“สมองน้อยๆของนายคิดอะไรซี๊ซั้วอยู่!พวกเราตบตีอะไรกัน อีกอย่างเขาเป็นผู้ชาย กล้าตบตีผู้หญิงท้องอย่างน้าเหรอ?”
“อาจจะเป็นไปได้” ฉางผิงหยิบองุ่นใส่ปากอีกสองลูก เอ่ยขึ้นตะกุกตะกักว่า “น้าไม่รู้หรือครับ ต่อหน้าอารองน้าดูเสแสร้งมากเลย ชอบด่าอารอง เรื่องตบตีอารองก็อาจจะเป็นไปได้นะ”
ได้ยินแบบนั้น ถังซินหน้าตาบูดบึ้งทันที “น้าเสแสร้งที่ไหน?”
“น้านะชอบเสแสร้งมากๆ ผมมองออก” ฉางผิงน้ำเสียงมั่นใจ เล่าสิ่งที่เขาวิเคราะห์ออกมาให้เธอฟัง “เมื่อก่อนตอนที่น้าพาอาหลินมา พูดจากับอาหลินอ่อนหวาน ราวกับไม่อารมณ์เสียเลย แต่กับอารองกลับดุด่า ตั้งแต่อารองมาทำสีหน้าไม่ดีใส่อารองตลอดเวลา เมื่อกี๊น้ายังพูดว่าอารองน่ารำคาญ”
เธอเป็นแบบนั้นจริงเหรอ?
คำพูดของฉางผิงทำให้ถังซินแน่นิ่งไป เธอคิดไปคิดมา รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ เธอไม่เคยรู้มาก่อน
“น้าครับ น้ายังชอบอารองอยู่ใช่ไหม?” ฉางผิงแอบกระซิบถาม สายตามีความเผือกซ่อนอยู่ “ผมได้ยินมาว่าผู้หญิงจะเสแสร้งเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายที่ชอบ ชอบทำตามใจตัวเอง”
ถังซินกำองุ่นหลายลูกยัดใส่ปากเขา จ้องเขาอย่างเย็นชา “เปล่าซะหน่อย!นายหยุดพูดเป็นต่อยหอยได้แล้ว ใกล้จะน่ารำคาญพอๆกับอารองนายแล้ว กินองุ่นของนายไป!”
ฉางผิงถูกยัดองุ่นเข้าไปเต็มปากจนแก้มป่อง พูดอะไรไม่ออกเลย ช่างน่าสงสารที่สุด
เขาต้องเดาถูกแน่นอน แทกใจดำน้าของเขาแล้ว
เห็นน้าโกรธจนพาล ก็คือหลักฐานที่ดีที่สุด!
ฉางผิงถูกถังซินรังเกียจ ก็วิ่งเข้าไปหามู่เฉินหย่วนในห้องครัว
เขาคิดว่าอารองของเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมในการทำอาหารมื้อดึก คงไปเรียนทำอาหารจากที่ไหนมา หลังเข้ามาในห้องครัวเห็นผู้ชายท่าทางเก้ๆกังๆ ฉางผิงมุมปากกระตุก
“อารองนะอารอง......” ยืนมองอยู่ครู่หนึ่ง ฉางผิงอดใจไม่ได้เอ่ยขึ้น พูดอ้อมๆว่า “ถ้าหากอาทำครัวไม่เป็น เราสั่งมาทานก็ได้นะครับ เวลานี้ยังมีร้านที่เปิดอยู่”
เขายังจำซาลาเปาที่มู่เฉินหย่วนทำครั้งก่อนได้อย่างแม่นยำ ตีเขาให้ตายเขาก็ไม่อยากทานอีก
“นายไม่พูด ฉันก็ไม่ได้หาว่านายเป็นใบ้” มู่เฉินหย่วนพูดโดยไม่หันกลับไปมอง เห็นกระทะน้ำมันร้อนแล้ว หยิบไข่ไก่ขึ้นตอกกับขอบกระทะ ใส่ลงไป
เศษน้ำมันในกระทะกระเด็นถูกแขนเสื้อที่เขาพับขึ้น ดูสกปรก
มู่เฉินหย่วนไม่ได้สนใจ สั่งฉางผิง “ยกบะหมี่ออกไป เรียกน้านายมาทาน”
“ครับ” ฉางผิงหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือ
ดีที่เคาน์เตอร์ครัวไม่ได้สูงมาก เขาเขย่งเท้าสามารถหยิบชามบะหมี่ได้
เป็นบะหมี่เนื้อ มีเครื่องเยอะมาก
ฉางผิงสูดเข้าไปเฮือกใหญ่ ดมแล้วหอมดี กลับรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจอารองผิดอีกแล้ว ท่าทางมองดูเก้ๆกังๆ ราวกับมือใหม่ แต่ทำบะหมี่ออกมาได้ดีเลยนะ
เขายกบะหมี่ออกไป ตะโกนเรียกไปที่ห้องรับแขก “น้าครับ มาทานบะหมี่เนื้อ!”
ฉางผิงถูฝ่ามือน้อยๆของเขา เดินกลับไปห้องครัว ไปยกมาอีกชามหนึ่งอย่างพอใจ
ได้บะหมี่ถ้วยที่สองแล้ว เขาพบว่าในบะหมี่มีแต่น้ำซุปใสๆ ในน้ำซุปมีต้นหอมซอยลอยอยู่
“อารองครับ บะหมี่ชามนี้ของผม?” ฉางผิงเงยหน้าขึ้นถามมู่เฉินหย่วน ดวงตาเต็มไปด้วยคำถาม “ในชามบะหมี่ไม่ใช่ควรมีเนื้อหนาๆวางอยู่เหรอ?เนื้อหายไปไหน?”
มู่เฉินหย่วนตอบไปมั่วๆ :“เนื้อสดใหม่เอามาไม่เยอะ อยู่ในชามของน้านายหมดแล้ว”
อีกอย่าง เธอพบว่าเนื้อในชามเหมือนว่าคุณภาพจะดีกว่าที่ซื้อจากซุปเปอร์อีก ดมแล้วกลิ่นก็ไม่เหมือนกันด้วย
แต่ทว่าเห็นเด็กน้อยปฏิเสธแบบนั้น ถังซินไม่อยากคะยั้นคะยอต่อ ก้มหน้าก้มตาทาน
ทานบะหมี่ไปแค่คำเดียว เธอหยุดชะงักแน่นิ่งไป
เมื่อมู่เฉินหย่วนหันไปเห็น คิดว่าเธอไม่สบาย รีบไปถามเธอ “เป็นอะไรไปครับ......”
อีกฝั่งฉางผิงร้องเชรดขึ้นมา ขัดจังหวะคำพูดของมู่เฉินหย่วน ทำหน้าบูด “อารอง บะหมี่ไม่เพียงแต่สุกไม่ทั่ว เครื่องปรุงก็ไม่ไส่อีก อารองแม้แต่เกลือก็ไม่ใส่เหรอ? ”
เป็นแค่‘น้ำซุปใสๆ’จริงๆ!
เห็นฝีมือทำอาหารของตัวเองถูกรังเกียจขนาดนั้น มู่เฉินหย่วนรู้สึกเขินอาย
สีหน้าของเขาผิดปกติไป ฝืนอธิบายชุดใหญ่ :“น้าของนายกำลังท้อง เกลือต้องทานน้อยๆ แต่ว่าไข่ดาวใส่เกลือแล้วนะ ถ้าหากนายรู้สึกว่าน้ำซุปมันจืดจริงๆ ก็เข้าไปในครัวใส่เกลือได้”
“......”
ฉางผิงหันไปมองบนใส่อาเขา
ทานไปสองสามคำ รู้สึกว่าน้ำซุปจืดจริงๆ เข้าไปห้องครัว หาเครื่องปรุงมาปรุงเติมเอง
มู่เฉินหย่วนปล่อยให้ฉางผิงไปจัดการเองตามชอบ แต่กับถังซินกลับพูดเป็นอีกแบบหนึ่ง “ไม่อร่อยใช่ไหมครับ?ถ้าหากทานไม่ได้จริงๆก็สั่งมาทานเถอะครับ ร้านอาหารยังเปิดอยู่ คุณอยากทานอะไรครับ?”
ฉางผิงเพิ่งจะถือถ้วยออกมาจากห้องครัว “......”
เขาอยู่กับอาสาวยังจะดีกว่า!
“ช่างเถอะ สั่งอาหารมาทานต้องรออีก ฉันอยากให้คุณรีบกลับไปจะตายอยู่แล้ว!” ถังซินพูดจาสีหน้าบูดบึ้ง ดูเหมือนจะรังเกียจฝีมือการทำอาหารของผู้ชาย แต่ก็ยังทานอยู่
บะหมี่ไม่ได้เติมเครื่องปรุงอะไรลงไป จืดมากๆ แต่ทว่าเนื้อหมักได้ดี อร่อยมากๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...