สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ คำหนึ่ง ชวนชมพยายามข่มความโหดเหี้ยมในใจลง แล้วก็พูดด้วยสีหน้าตกตะลึงและเศร้าเสียใจขึ้นว่า “คุณมายมิ้นท์ คุณหมายความว่ายังไงคะ? คุณเชื่อเธอ แล้วคิดว่าฉันลอบทำร้ายคุณจริง ๆ เหรอคะ?”
มายมิ้นท์ไมได้พูดอะไร
ชวนชมรีบส่ายหน้าขึ้นมา “ฉันเปล่านะคะ คุณมายมิ้นท์ ฉันเป็นคนของคุณกับคุณทามทอย ฉันจะไปลอบทำร้ายคุณได้ยังไงละคะ นี่มันไม่ถูกต้องตามหลักนะคะ คุณมายมิ้นท์คุณต้องเชื่อฉันนะคะ คุณทามทอย คุณก็ต้องเชื่อฉันด้วยนะคะ ฉันไม่เคยทำแบบนั้นจริง ๆ นะคะ”
ทามทอยหึเสียงเย็นอย่างเยาะเย้ยขึ้นมาคำหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้สนใจเธอ
พอเห็นท่าทีของเขา ในใจของชวนชมก็หล่นตุ๊บขึ้นมาทีหนึ่ง ยิ่งรู้สึกลนลานขึ้นมาอีก
“คุณทามทอย……” ชวนชมอ้าปากเล็กน้อย แล้วร้องเรียกชื่อทามทอยเสียงต่ำขึ้นมาคำหนึ่ง
เธอสามารถมองออกมาได้ คุณทามทอยไม่ใช่แค่รังเกียจเธอเท่านั้น แถมยังไม่อยากจะสนใจเธอด้วย
นี่ทำให้เธอรู้สึกกลัวมากกว่าโดนเขารังเกียจซะอีก
ถ้าเขารังเกียจเธอ อย่างน้อยก็ยังพูดได้ว่า เขายังยอมมองเธอสักครั้งหนึ่ง
แต่ถ้าไม่อยากจะสนใจเธอ งั้นก็หมายความว่าแม้แต่จะมองเธอสักครั้ง ก็ยังไม่อยากทำเลย
ในวินาทีนี้ ชวนชมเริ่มรู้สึกเสียใจแล้ว เสียใจที่ตัวเองทำอะไรไม่รอบคอบ ทำไมตอนที่ไปเจอลำดวน ถึงไม่ใส่หน้ากากไปนะ
ถ้าเป็นแบบนั้น ถึงลำดวนจะสารภาพเรื่องเธอออกมา เธอก็จะไม่มีทางโดนตรวจสอบเจอ คุณทามทอยก็จะไม่รังเกียจเธอ ไม่มีทางไม่สนใจเธอแล้ว
มือทั้งคู่ของชวนชมกำเข้าหากันแน่น และคิดไปอย่างโกรธเคืองเป็นอย่างมาก
มายมิ้นท์เปิดปากพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่ เรื่องวนี้ฉันมั่นใจเป็นอย่างมาก ว่าเธอเป็นคนทำ เพราะฉะนั้นฉันไม่มีทางเชื่อเธอได้แน่ เธอรู้หรือเปล่าว่าพวกเราสืบหาเธอเจอได้ยังไง? ตามคำบรรยายถึงหน้าตาของเธอที่ลำดวนพูดออกมา พวกเราได้เชิญช่างวาดรูปมา ให้มาวาดรูปเหมือนของเธอออกมา แล้วก็เอาให้ลำดวนดูอีกครั้ง พอเป็นแบบนี้แล้ว ก็สามารถมั่นใจได้เต็มที่เลยว่าคนร้ายคือเธอ”
ชวนชมลืมตาโตขึ้นมา
ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง
นี่มันมีวิธีสืบหาแบบนี้ด้วยเหรอ!
ว่าแล้ว ว่าสิ่งที่เธอต้องเรียนรู้ยังมีอีกเยอะ!
“คุณมายมิ้นท์ ถึงจะเป็นแบบนี้ แต่ว่าของอย่างภาพวาดนี้……”
“เธอไม่ต้องมาเล่นลิ้นอีกแล้ว ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร” มายมิ้นท์ยกมือขึ้นมา และพูดขัดคำพูดของชวนชมขึ้นมาอีกครั้ง
เธอคลี่มุมปากออกแล้วยิ้มอย่างเยาะเย้ยขึ้นมา แล้วพูดขึ้นว่า “เธออยากจะพูดว่าไอ้เรื่องรูปวาดนี้เอามาเป็นหลักฐานไม่ได้หรอก เพราะว่าสามารถตั้งใจวาดออกมาเป็นรูปเธอได้ จากนั้นลำดวนก็ตั้งใจชี้ตัวคนร้ายว่าเป็นเธอใช่ไหมล่ะ?”
“ฉัน……” ท่าทีของชวนชมเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วก็พูดอะไรไม่ออก
ด้วยเหตุนี้สามารถเห็นได้ว่า มายมิ้นท์พูดจี้โดนใจเธอแล้ว
มายมิ้นท์หึเสียงเย็นขึ้น “ได้ ในเมื่อภาพวาดไม่พอที่จะเป็นหลักฐานได้ งั้นฉันก็จะเอาหหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุดออกมา นั่นก็คือหลังจากที่เธอลอบทำร้ายฉันเสร็จแล้ว ก็ไปที่บ้านลำดวน และอยู่ที่บ้านลำดวนเป็นช่วงเวลานานด้วย ในบ้านของหล่อนจะต้องมีลายนิ้วมือที่เธอทิ้งเอาไว้ด้วย ถึงจะยุ่งยากนิดหน่อย แต่ถ้าฉันออกยอมจ่ายเงินก้อนโต ส่งคนไปเก็บหลักฐานที่บ้านลำดวนทีละนิดทีละนิด เธอว่าจะสามารถหาลายนิ้วมือของเธอได้หรือเปล่าล่ะ?”
“มายมิ้นท์พูดได้ถูกต้อง ถ้าหาลายนิ้วมือของเธอจากบ้านลำดวนเจอได้ งั้นก็แสดงว่าคำพูดของลำดวนเป็นเรื่องจริง เธอเป็นคนทำร้ายมายมิ้นท์ แล้วให้ลำดวนมารับโทษแทน” ทามทอยลูบคางไปแล้วพูดอย่างรู้สึกเห็นด้วย
สีหน้าของชวนชมเปลี่ยนเป็นขาวซีดขึ้นมาทันที
เพราะว่าเธอนึกถึงตอนที่ตัวเองอยู่ที่บ้านลำดวนนั้น ได้ถอดถุงมือออก
ตอนนั้นบนถุงมือเปื้อนเลือดของมายมิ้นท์อยู่เยอะมาก จากนั้นเธอก็ถอดถุงมือออก แล้วเข้าไปล้างมือในห้องน้ำ ตอนนั้นมือของเธอแตะโดนจุดต่าง ๆ ในห้องน้ำมากมาย เพราะฉะนั้นในห้องน้ำจะต้องมีลายนิ้วมือของเธออยู่แน่นอน
พอทามทอยได้ยิน ทัศนคติก็ตกตะลึงจนแตกสลายไปเลย “เธอ……นี่เธอคิดแบบนี้เหรอ?”
“เอาล่ะทามทอย ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยบอกเรื่องพวกนี้กับคุณแล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาแปลกใจขนาดนี้หรอกพวกเราพาเธอเข้ามาในวงการนี้ กระตุ้นให้จิตใจของเธอเกิดความโลภขึ้นมา เธออยากจะเป็นชวนชมตลอดไป อยากจะดื่มด่ำอยู่กับชีวิตที่ร่ำรวย ซึ่งมันก็ไม่แปลก ในเมื่อจิตใจมนุษย์นั้นไม่มีวันพอเพียงอยู่แล้ว” มายมิ้นท์ดึงแขนของทามทอยทีหนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา
ชวนชมกำมือไว้แน่น แล้วก็ไม่พูดอะไร
คำพูดพวกนี้ของมายมิ้นท์ ถึงแม้ที่พูดมาจะความจริง และก็เป็นความคิดที่อยู่ในใจเธอจริง ๆ
แต่พอมาได้ยินอยู่ในหู ก็ค่อนข้างที่จะแสบหู จนเธอแทบจะรู้สึกว่ามายมิ้นท์กำลังเหยียดหยามเธออยู่ ใส่ร้ายป้ายสีเธอต่อหน้าคุณทามทอย คิดว่าภาพของเธอที่อยู่ในใจคุณทามทอยในตอนนี้ คงจะพังพินาศไปหมดแล้ว
แต่ก็ไม่เป็นไร รอให้ในอนาคตเธอเปลี่ยนเป็นยิ่งอยู่ก็ยิ่งเพียบพร้อมแล้ว เธอเชื่อว่าคุณทามทอยจะต้องเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเธอไปแน่ ๆ
ตอนนี้เป็นช่วงที่เสี่ยง แต่เป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น!
“เจินเจิน ตอนนี้ฉันอยากรู้แค่เรื่องสุดท้ายแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เธอไม่ตอบมาตลอด นั่นก็คือไฝแดงเม็ดนี้ของฉัน ตกลงมันมีความลับอะไร ถึงทำให้เธอต้องมาทำลายทิ้งให้ได้?” มายมิ้นท์ยกมือซ้ายขึ้นมา แล้วก็ชี้ไปที่ข้อมือที่มีผ้าพันแผลพันอยู่ และถามเสียงเย็นขึ้น
ในดวงตาของชวนชมมีประกายกะพริบผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง และหายวับไปทันที “ไม่มีความลับอะไรค่ะ แค่หมอดูคนหนึ่งมาบอกฉัน บอกว่าให้ระวังคนรอบข้างที่มีไฝแดงอยู่บนตัว ไม่งั้นคนคนนั้นจะดวงมาชงกับฉัน จะมาทำให้ฉันซวย ส้มเปรี้ยวก็มีไฝแดง ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในบ้านตระกูลภักดีพิศุทธิ์ ก็มักจะมารังแกฉัน แล้ววันนั้นฉันก็บังเอิญเห็นไฝแดงของคุณมายมิ้นท์ที่ร้านอาหาร ก็เลยอยากจะทำลายทิ้ง ซึ่งก็เป็นเพราะว่าดวงคุณจะมาชงกับฉัน เพราะฉะนั้นฉันก็เลยคิดว่าคุณจะมาเปิดโปงเรื่องที่ฉันไม่ได้เป็นชวนชมตัวจริง ก็เลยมาลงมือกับคุณ”
เธอสามารถยอมรับได้ว่าตัวเองมีความทะเยอทะยานที่อยากเป็นชวนชมตลอดไป และสามารถยอมรับได้ว่าตัวเองทำร้ายมายมิ้นท์
แต่เรื่องความลับของไฝแดง เธอจะพูดไม่ได้เด็ดขาด
ถ้าพูดออกไป เธอก็จบแล้วจริง ๆ
“หมอดูงั้นเหรอ? ดวงชงกับเธอเหรอ?” ทามทอยโกรธจนขำขึ้นมาเลย “เจินเจิน นี่เธอเล่นเรื่องไสยศาสตร์เหรอ เธอนึกว่าฉันจะเชื่อคำพูดเรื่อยเปื่อยพวกนี้ของเธอเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...