เธอโยนชุดคลุมอาบน้ำใส่ตัวเปปเปอร์ไปเลย “นี่คือชุดที่ฉันเพิ่งซื้อมาในเน็ตเมื่อคราวที่แล้ว ไซซ์มันใหญ่ไปหน่อย แล้วฉันใส่ไม่ได้ ดังนั้นคุณเอาไปใส่เถอะค่ะ ถึงแม้ว่าสำหรับคุณแล้วอาจจะเล็กไปหน่อย แต่ว่าแค่คืนเดียวเท่านั้น ถู ๆ ไถ ๆ ไปก่อนนะคะ”
เปปเปอร์รับชุดคลุมอาบน้ำมา “โอเค”
“ไปอาบน้ำเถอะค่ะ แล้วก็รีบมาเป่าผมให้แห้ง ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นหวัดไปนะคะ” มายมิ้นท์ชี้ไปทางห้องน้ำ
“งั้นผมไปแล้วนะ” เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ถือชุดคลุมอาบน้ำแล้วเดินไปทางห้องน้ำ
พอเขาไปแล้ว มายมิ้นท์เองก็ไม่ได้อยู่ในห้องรับแขกต่อ แต่กลับเดินเข้าไปในครัว เตรียมที่จะต้มน้ำขิงให้เขาสักถ้วย
ไม่ว่าจะยังไง เพราะเห็นแก่ลูกบอลคริสทัลลูกนั้นแล้ว เธอจะยอมให้เขาเป็นหวัดไปไม่ได้
มายมิ้นท์หั่นขิงเสร็จ แล้วเปิดไฟ และเริ่มต้มขึ้นมา
พอต้มเสร็จแล้ว เธอก็ยกน้ำขิงกลับมาที่ห้องรับแขก
เปปเปอร์ยังไม่ออกมาจากห้องน้ำ มายมิ้นท์วางน้ำขิงลงบนโต๊ะรับแขก จากนั้นก็นั่งลงไป แล้วก็หยิบลูกบอลคริสทัลลูกนั้นขึ้นมาอีกครั้ง
พอลูบคลำลูกบอลคริสทัลลูกนั้นไป มายมิ้นท์ก็พึมพำขึ้นมาอย่างรู้สึกขำ “ช่างเป็นคนโง่จริง ๆ มีใครเขาฝ่าหิมะตกหนักกลางดึกออกไปซื้อของแบบนี้กัน คิดว่าคงจะมีแต่คุณคนเดียวแล้วมั้ง”
จากนั้น มายมิ้นท์ก็วางลูกบอลคริสทัลกลับลงไปในกล่อง จากนั้นก็ถือกล่องขึ้นมาแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง เอากล่องไปวางไว้บนตู้หัวเตียง แล้วเปิดฝากล่องออก ให้ลูกบอลคริสทัลในนั้นโผล่ออกมา
หลังจากนั้น เธอก็เก็บหงส์ที่วางตกแต่งอยู่บนหัวเตียงในตอนแรกไป
พอไม่มีหงส์ชิ้นใหญ่ที่วางตกแต่งอยู่ แล้วเหลือแต่ลูกบอลคริสทัลเล็ก ๆ ลูกหนึ่ง บนหัวเตียงก็เปลี่ยนเป็นกว้างขวางขึ้นมาเยอะมากอย่างเห็นได้ชัด
แต่มายมิ้นท์กลับไม่ได้รู้สึกน่าเกลียด วินาทีนี้ ในสายตาของเธอ ลูกบอลคริสทัลลูกนั้น ได้ชนะของตกแต่งทุกชิ้นแล้ว
แล้วในเวลานี้เอง ที่ห้องรับแขกนอกห้องนอนก็มีเสียงความเคลื่อนไหวดังลอยขึ้นมา
มายมิ้นท์รู้ว่าเปปเปอร์ออกมาแล้ว ก็รีบเดินออกจากห้องไป แล้วพอเห็นสภาพของเปปเปอร์ที่ใส่ชุดคลุมอาบน้ำของเธออยู่ และกำลังเช็ดผมอยู่ข้างโซฟา เธอก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากไว้แล้วหัวเราะขึ้นมา
ชุดคลุมอาบน้ำตัวนี้สำหรับเขาแล้วมันเล็กเกินไป พอใส่อยู่บนตัวเขาแล้วก็แน่นมาก ทำให้คนรู้สึกตลกดี
แต่ในขณะเดียวกัน ชุดคลุมอาบน้ำนี้ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน อย่างน้อยก็ได้ทำให้เห็นรูปร่างที่งดงามของเปปเปอร์
แน่นอนว่าเปปเปอร์รู้อยู่แล้วว่ามายมิ้นท์หัวเราะเรื่องอะไร แล้วก็ยักคิ้วเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้ห้ามเธอหัวเราะ
ในเมื่อสภาพของเขาในตอนนี้ ก็ดูตลกอยู่บ้างจริง ๆ
ดังนั้น เธอจะหัวเราะก็หัวเราะไปเถอะ เธอรู้สึกว่ามีความสุขก็ดีแล้ว
แต่ว่ามายมิ้นท์ก็ไม่ได้หัวเราะนานเท่าไหร่ ก็หยุดหัวเราะไปแล้ว
ยังไงเธอก็รู้ว่าคนเราทุกคนต่างก็มีความมั่นใจในตัวเอง บางครั้งหัวเราะครั้งสองครั้งก็พอแล้ว ถ้าหัวเราะต่อไปเรื่อย ๆ ก็เป็นการไม่ให้เกียรติคนอื่นแล้ว
“แค่ก” มายมิ้นท์กระแอมไอเบา ๆ ขึ้นมาคำหนึ่ง จากนั้นก็ชี้ไปที่น้ำขิงที่อยู่บนโต๊ะรับแขก “นั่นเป็นน้ำขิงที่ฉันตั้งใจต้มให้คุณโดยเฉพาะ ดื่มซิคะ”
แล้วเปปเปอร์ถึงเห็นว่าบนโต๊ะมีน้ำขิงอยู่ด้วย ในดวงตาก็มีแววตื่นตกใจกะพริบผ่านไป แล้วหายวับไปทันที และสิ่งที่เข้ามาแทนที่ ก็คือความอ่อนโยนอยู่เต็มตา “ได้ เดี๋ยวผมดื่ม”
เขาทิ้งผ้าขนหนูลงไปพาดอยู่บนพนักโซฟา แล้วก็นั่งลงบนโซฟา จากนั้นก็ยกน้ำขิงขึ้นมาดื่มทีเดียวรวดจนหมด
พอดื่มเสร็จแล้ว มายมิ้นท์ก็โยนไดร์เป่าผมให้เขาอันหนึ่ง “คุณนั่งเป่าผมไปตรงนี้ เดี๋ยวฉันปูที่นอนให้คุณนะคะ”
เปปเปอร์ทำตามที่เธอพูดมาอย่างว่าง่าย แล้วก็ลุกขึ้นและเดินไปนั่งลงตรงโซฟาตัวเล็กตรงฝั่งตรงข้าม
มายมิ้นท์ก็เดินมาถึงตรงที่โซฟา แล้วยื่นมือลงไปคลำด้านล่างเล็กน้อย พอคลำโดนที่ปรับเอนอันหนึ่ง แล้วก็ใช้แรงดึงออกด้านนอกทีหนึ่ง
จากนั้นเปปเปอร์ก็เห็นว่าทำไมด้านล่างโซฟายังมีอีกชั้นหนึ่งและโดนเธอดึงออกมา แล้วยกขึ้นมาทีหนึ่ง ชั้นนั้นก็สูงเท่ากับที่นั่งของระดับโซฟาในตอนแรกเลย
พอเป็นเช่นนี้แล้ว โซฟาอันนี้ก็กลายเป็นเตียงใหญ่ที่กว้างหนึ่งเมตรครึ่งแล้ว
หางคิ้วของเปปเปอร์กระตุกขึ้นเล็กน้อย ทีนี้ถึงรู้ว่าโซฟามีความสามารถแบบนี้ด้วย
“เดี๋ยวฉันไปเอาผ้าห่มให้คุณนะคะ” พอมายมิ้นท์ดึงที่ล็อกของโซฟาให้เรียบร้อยแล้ว ก็หมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง แล้วรื้อค้นในตู้เสื้อผ้าไปรอบหนึ่ง ก็ค้นผ้าห่มออกมาได้สองผืนกับหมอนหนึ่งอัน แล้วเอาไปปูไว้บนโซฟา
“เอาล่ะ กลางคืนฉันจะไม่ปิดฮีตเตอร์ คุณนอนตรงนี้จะได้ไม่หนาวค่ะ” จ้องมองผลงานเตียงโซฟาที่ทำสำเร็จแล้ว มายมิ้นท์ก็ตบมือเล็กน้อย แล้วก็หมุนตัวไปพูดกับชายหนุ่มที่กำลังเป่าผมอยู่
เขาเงยหน้าขึ้นมา ประทับจูบลงบนใบหน้าของเธอเบา ๆ แล้ว ถึงได้วางศีรษะลงบนหมอนใหม่อีกครั้ง “ราตรีสวัสดิ์!”
เขาพูดราตรีสวัสดิ์เสียงต่ำกับหญิงสาวออกไปอีกครั้ง แล้วถึงได้หลับตาลง แล้วนอนหลับไปอย่างพึงพอใจ
และแล้วเช้าวันที่สอง พอฟ้าเริ่มสาง เปปเปอร์ก็ลืมตาตื่นขึ้นมา จากนั้นก็มองดูหญิงสาวที่อยู่ในอกเล็กน้อย
พอเห็นว่าหญิงสาวยังคงไม่มีท่าทีว่าจะตื่น เขาก็ค่อย ๆ เอามือที่กอดอยู่ตรงเอวของเธอออกเบา ๆ จากนั้นก็เปิดผ้าห่มออก แล้วลงจากเตียงไปอย่างระมัดระวัง แล้วก็ออกจากห้องเธอไปอย่างระมัดระวัง แล้วกลับมานอนลงบนเตียงโซฟาของเขาในห้องรับแขกอีกครั้ง แสร้งทำเป็นเหมือนกับว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อนเลย แล้วนอนต่อไป
แต่อาจจะเป็นเพราะว่าหญิงสาวที่ตัวเองรักไม่ได้อยู่ข้างกายด้วย เปปเปอร์ก็เลยนอนไม่หลับอีกเลย พอนอนหลับตาไปพักหนึ่งแล้ว ก็ลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็เอาโทรศัพท์ออกมาโทรออกไปสายหนึ่ง
“ใครน่ะ? เช้าขนาดนี้” ทางปลายสายมีเสียงที่ยังนอนไม่ตื่นของผู้ช่วยเหมันตร์ลอยมา แถมยังเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พึงพอใจ
เปปเปอร์หรี่ตาที่สวยงามลงเล็กน้อย แล้วพูดเสียงขรึมขึ้นว่า “ฉันเอง เปปเปอร์”
“เปปเปอร์เหรอ?” ผู้ช่วยเหมันตร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ปฏิกิริยาแรกคือชื่อนี้ช่างคุ้นหูจังเลย
จากนั้นวินาทีต่อมา เขาก็ตั้งสติกลับมาได้ แล้วก็ลืมตาขึ้นมาในพริบตา และลุกขึ้นมานั่งลงจาก ความง่วงงุนได้หายไปหมดทั้งตัวเลยสมองก็สดชื่นเป็นอย่างมาก แล้วก็หยิบแว่นบนหัวเตียงมา ยิ้มแล้วพูดจาประจบสอพลอขึ้นมาว่า “ที่แท้ก็ประธานเปปเปอร์นี่เอง ประธานเปปเปอร์ เช้าขนาดนี้ คุณมีอะไรจะสั่งเหรอครับ?”
เฮี้ย นี่มันช่างทำให้คนน่าโมโหจริง ๆ
เมื่อก่อนมักจะติดต่อหาเขากลางค่ำกลางคืน ให้เขาไปทำนั่นทำนี่ก็ช่างเถอะ
แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนมาเป็นแม้แต่เช้ามืด ฟ้ายังไม่สว่างก็มาเริ่มทรมานเขาแล้วเหรอ
ประธานเปปเปอร์นี่เป็นปีศาจจริง ๆ
“ตอนเวลาแปดโมง เอาเสื้อผ้าชุดหนึ่งและอาหารเช้ามาให้ฉันที่คอนโดพราวฟ้า” เปปเปอร์มองดูนาฬิกาข้อมือทีหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นเรียบ ๆ
ผู้ช่วยเหมันตร์มึนงงไปเลย “คอนโดพราวฟ้าเหรอครับ?”
เปปเปอร์ตอบอืมไปคำหนึ่ง “อย่ามาสายล่ะ”
พูดจบ เขาก็วางสายไปเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...