รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 596

เพราะว่าด้านบนนั้นเขียนว่า:สองข้อเสียของการดื่มกาแฟตอนเช้าสำหรับผู้ชายคือ ฆ่าสเปิร์ม และลดความทรหด !

เปปเปอร์รีบหนีบสายโทรศัพท์ทันที มองไปยังผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ

หญิงสาวหน้าแดงจนเลือดแทบจะไหลออก ศีรษะก็ถูกกดลง แทบจะมุดเข้าไปในจานข้าว

ในเวลานี้เปปเปอร์มั่นใจว่า สิ่งที่เธอต้องการพูดเมื่อสักครู่นี้ กลับไม่ได้พูด ซึ่งก็คือฆ่าสเปิร์ม และลดความทรหด

ไม่เช่นนั้น ใบหน้าของเธอคงไม่แดงขนาดนี้

เพราะถึงยังไงข้อเสียอื่นๆก็ไม่ได้ถึงกับต้องทำให้คนหน้าแดง

“คุณ……”ริมฝีปากบางของเปปเปอร์ขยับ กำลังคิดที่จะพูดอะไรอยู่

ทันใดนั้นมายมิ้นท์ก็วางมีดและส้อมลงและรีบลุกทะยานทันที“ฉันเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ฉันอยากจะไปเข้าห้องน้ำ”

พูดจบ เธอก็ลากเก้าอี้ออก ราวกับกำลังหนีออกจากห้องอาหาร

เปปเปอร์มองดูเงาหลังของเธอ แล้วยิ้มออกมาเบาๆ

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเขา มือของมายมิ้นท์จึงกุมใบหน้า แล้วรีบวิ่งเร็วขึ้น

เธอมายังห้องน้ำ ปิดประตู จากนั้นแผ่นหลังพิงที่ประตู และเขินอายไปทั้งตัว

แต่ไหนแต่ไรมา เธอไม่เคยกระอักกระอ่วนใจแบบนั้นมาก่อน

รู้อย่างงี้ในตอนนั้นเธอไม่น่ารีบร้อนเกินไป ที่เตือนให้เขาไปหาข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสียของการดื่มกาแฟในตอนเช้าในอินเทอร์เน็ต

ไม่เช่นนั้น เธอก็คงไม่ต้องอายจนต้องรีบหลบหนี

มายมิ้นท์วางมือที่กุมอยู่บนใบหน้าลง พลางถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง จากนั้นก็พยายามทำให้ตัวเองสงบลง

หลังจากนั้นไม่นาน หัวใจเต้นของเธอ ในที่สุดก็กลับเข้าสู่จังหว่ะที่เป็นปกติ

จากนั้นเธอก็เดินมายังอ่างล้างหน้า คลายเกลียวก๊อกน้ำออก จากนั้นก็สาดน้ำเย็นลงบนใบหน้า หลังจากที่ลดอุณหภูมิบนใบหน้าลงแล้วจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ เตรียมกลับไปยังห้องอาหาร

หลังจากกลับไป เธอจะได้เห็นเปปเปอร์ยิ้มเยาะแน่นอน

และเธออาจจะต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอีกครั้ง

แต่ว่าแม้ว่าจะเป็นแบบนี้ เธอก็จำเป็นต้องอดทน เพราะถึงยังไงตอนเริ่มแรกเธอก็เป็นคนพูดหัวข้อนี้ขึ้นมาก่อน อีกทั้งก็ต่างเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เขาจะหัวเราะเยาะก็ให้เขาหัวเราะเยาะไปเถอะ

ขณะที่คิด มายมิ้นท์สูดหายใจเข้าลึก จากนั้นผลักประตูห้องอาหารแล้วเดินเข้าไป

เปปเปอร์วางมีดและส้อมลง พลางลากเก้าอี้ออกมาให้กับเธอ “กลับมาแล้วเหรอ?”

มายมิ้นท์อึมหนึ่งที ก้มหน้าลงพลางเดินเข้าไปนั่ง

ขณะที่เธอกำลังเตรียมที่จะหยิบมีดและส้อม จู่ๆเปปเปอร์ก็เอาแขนพิงหลังเก้าอี้ของเธอ พลางเขยิบเข้ามากระซิบ:“วางใจเถอะ ผมจะพยายามไม่ดื่มกาแฟอีกต่อไป จะไม่ทำให้คุณต้องเสียเปรียบหรอก ”

เมื่อพูดจบ เขาหัวเราะ พลางเอาแขนออก ร่างกายก็เอนกลับที่เดิม

แต่มายมิ้นท์หลังจากที่ฟังประโยคนี้จบก็ตะลึงงัน มีดและส้อมกระแทกจาน อาการเขินอายที่เดิมทีได้จางหายไปแล้ว ในครั้งนี้ก็กลับทำให้หน้าแดงขึ้นอีกครั้ง

“เปปเปอร์คุณ……คุณพูดอะไรของคุณ?”มายมิ้นท์กัดริมฝีปากแน่น มองผู้ชายอย่างรังเกียจ

เมื่อกี้เขายังจะพูดอีกว่า จะไม่ทำให้เขาต้องเสียเปรียบ

เสียเปรียบเรื่องอะไร เธอไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าต้องเข้าใจอย่างแน่นอน

เนื่องจากเข้าใจ ดังนั้นครั้งนี้จึงทำให้เธอรู้สึกอาย

เปปเปอร์เอียงใบหน้า มองไปยังลำคอแดงก่ำของมายมิ้นท์อย่างสนุกสนาน ริมฝีปากบางยกขึ้น “คุณไม่จำเป็นต้องอาย ต่อไปพวกเราก็อยู่ด้วยกันแล้ว เรื่องพวกนั้นก็จะมาโดยธรรมชาติ”

“ใครจะทำเรื่องพวกนั้นกับคุณ”มายมิ้นท์จ้องมองไปที่เขา“ถ้าคุณยังพูดจาเหลวไหลอีก อย่ามาโทษฉันที่เพิ่มเวลาออกไปอีกนะ!”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของเปปเปอร์ก็เปลี่ยนไป จริงจังขึ้นมา พร้อมทั้งรีบขอโทษ “ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ล้อคุณเล่นแล้ว”

อย่ามาล้อเล่นเลย เขาพยายามมาตั้งนาน ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้เธอใจอ่อน เธอรับปากแล้วว่าขอใช้เวลาครึ่งเดือนในการจัดการอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้ว ก็จะยอมคืนดีกับเขา

หากตอนนี้ตนพูดมากเกินไป และทำให้เรื่องการคืนดีกันที่ไม่ง่ายเลยนี้ต้องล่าช้า เขาแทบรอไม่ไหวที่จะขอให้กฎหมายครอบครัวมาช่วยตัวเขาเอง

“คนที่จอดรถกำลังยั่วยวนคุณ”เปปเปอร์หันไปพูดกับผู้หญิงที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับประโยคหนึ่ง

มายมิ้นท์พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม“ผมมองออกแล้ว”

“ช่วงนี้คุณได้ทำให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า?”เปปเปอร์ถามขึ้นอีกครั้ง

มายมิ้นท์ส่ายศีรษะ“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ช่วงนี้ฉันก็ไม่ได้มีปัญหากับผู้บริหารระดับสูงคนไหน มีเพียงความขัดแย้งกับพรรคพวกเตชิตเท่านั้น แต่คนพวกนั้นไม่ทำแบบนี้หรอก เพราะถ้าพวกเขาจะทำแบบนี้ ก็คงทำตั้งนานแล้ว คงไม่รอถึงตอนนี้ แล้วใช้วิธีแบบเด็กๆมายั่วยวนฉัน”

“งั้นก็คงเป็นศัตรูที่ไม่รู้จัก”เปปเปอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม:“ผมจะขึ้นไปเป็นเพื่อนคุณเอง”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ!”มายมิ้นท์ปลดเข็มขัดนิรภัย“ฉันรู้ว่าคุณกลัวว่าฉันจะรับมือไม่ไหว แต่ว่าเรื่องนี้ฉันรับมือได้จริงๆ อีกทั้งนี่ยังเป็นคนของเทนเดอร์กรุ๊ป ในฐานะที่ฉันเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของเทนเดอร์กรุ๊ป คนที่อยู่ใต้บังคับของฉันทำให้ฉันขุ่นเคือง แน่นอนว่าฉันในฐานะที่เป็นเจ้านายก็จะต้องลงโทษ ดังนั้นฉันจะเป็นคนจัดการเอง”

เธอมองไปที่เขาอย่างจริงจัง

เปปเปอร์ยิ้มเบาๆ“ ผมรู้ว่าคุณจะต้องพูดแบบนี้ได้ ถ้าอย่างนั้นคุณลองจัดการเองก็ได้ แต่ว่าถ้าจัดการเองไม่ได้ ก็โทรหาผมนะครับ”

“ได้ค่ะ”มายมิ้นท์พยักหน้ารับคำ จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถ ยืนอยู่นอกรถพลางโบกมือให้กับชายหนุ่ม “คุณกลับไปเถอะ ระหว่างทางระวังตัวด้วยนะ บ๊ายบาย!”

“ลาก่อน!”เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นกลับรถแล้วจากไป

เมื่อเห็นรถของเขาจากไปเรียบร้อยแล้ว มายมิ้นท์วางมือลงพลางหุบยิ้ม แล้วเดินมายังด้านหน้ารถ ใบหน้าที่เย็นยะเยือกหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโทรออก

ไม่นานบริษัทลากรถก็ส่งคนมา

มายมิ้นท์ชี้ไปที่รถที่จอดอยู่บริเวณที่จอดรถของตน พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“รบกวนพวกคุณลากรถคันนี้ออกไปด้วยนะคะ ลากไปที่ขอบถนนด้านนอก”

นี่คือที่จอดรถของเธอ

ในฐานะที่เธอเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของเทนเดอร์กรุ๊ป หากยอมให้คนอื่นมาจอดรถในที่จอดรถของตนเพื่อท้าทายตัวเอง ก็คงจะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเธอขี้ขลาดและถูกรังแกง่ายๆใช่ไหม?

หากแพร่กระจายออกไป แล้วเธอจะบริหารเทนเดอร์กรุ๊ปได้ยังไง?

พนักงานของเทนเดอร์กรุ๊ปก็จะคิดว่าเธอในฐานะเจ้านาย ไม่มีอำนาจเลยแม้แต่น้อย และไม่สามารถเป็นผู้นำเทนเดอร์กรุ๊ปต่อไปได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว