รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 597

“ได้ครับคุณมายมิ้นท์ พวกเราจะย้ายรถเดี๋ยวนี้” หลังจากที่หัวหน้าหน่วยลากจูงฟังความต้องการของมายมิ้นท์เรียบร้อยแล้ว ก็รีบออกคำสั่งโดยทันที

กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเริ่มทำงาน

มายมิ้นท์ยืนมองอยู่ข้างๆ ในขณะเดียวกันก็โทรศัพท์หาเลขาซินดี้

ไม่นานเลขาซินดี้ก็รับสาย “ประธานมายมิ้นท์”

“เลขาซินดี้ คุณรู้ไหมว่ารถที่จอดอยู่ในที่จอดรถของฉัน เป็นรถของใคร?”มายมิ้นท์มองดูรถญี่ปุ่นคันนั้นแล้วถามขึ้น

รถคันนั้นดูจากภายนอกใหม่มาก คาดว่าน่าจะเป็นรถใหม่ที่เพิ่งซื้อมา

อีกทั้ง ตอนนี้เธอก็เกลียดการเห็นรถญี่ปุ่นมาก ทำให้เธออดนึกถึงเหตุการณ์ที่ส้มเปรี้ยวขับรถชนเปปเปอร์ไม่ได้

ในตอนนั้นส้มเปรี้ยวขับรถญี่ปุ่น

อีกทั้งตอนนี้เวลาก็ผ่านไปนานแล้ว ก็ยังไม่ได้ข่าวคราวของส้มเปรี้ยวเลย และก็ไม่รู้เลยว่าหล่อนไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน

“รถที่จอดอยู่บริเวณที่จอดรถของคุณ?”อีกทางด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เลขาซินดี้ตอบกลับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่า:“ขอโทษด้วยนะคะประธานมายมิ้นท์ เมื่อเช้านี้ฉันไม่ได้ไปที่โรงจอดรถ ไม่ทราบเลยว่ามีรถมาจอดอยู่ที่ที่จอดรถของคุณ”

“เหรอคะ?”มายมิ้นท์พยักหน้า แสดงให้เห็นว่าทราบแล้ว จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า:“งั้นคุณถามข่าวคราวกับคนดูแลลานจอดรถก็แล้วกันว่าเกิดอะไรขึ้น”

“ได้ค่ะ ประธานมายมิ้นท์”เลขาซินดี้รับคำ

มายมิ้นท์วางสายโทรศัพท์ลง พร้อมทั้งวางมือถือลง แล้วมองไปยังรถลากต่อ

กระทั่งรถญี่ปุ่นคันนั้นถูกลากขึ้นเทรลเลอร์ เธอจึงเดินเข้าไป หยิบกรวยสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ห้ามจอด กลับไปวางตำแหน่งที่จอดรถของเธออีกครั้ง

หลังจากวางเสร็จเรียบร้อยแล้ว มายมิ้นท์ก็จ่ายเงินให้กับทีมลากรถ แล้วเดินมุ่งไปยังลิฟต์

ไม่นาน เธอก็มาถึงยังห้องทำงานของตนเอง

เลขาซินดี้กำลังรออยู่ที่ด้านหน้าประตูห้องทำงานของเธอ เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา จึงได้รายงานตารางงานของวันนี้ก่อน

เมื่อรายงานจบ จึงเริ่มได้เริ่มแจ้งเรื่องที่ได้สอบถามมาจากคนดูแลลานจอดรถ“ประธานมายมิ้นท์ คนดูแลบอกว่า เจ้าของรถคันนั้นเป็นผู้หญิง อีกทั้งผู้หญิงคนนั้นยังบอกว่าเป็นน้องสาวของคุณ ดังนั้นคนดูแลจึงไม่ได้ไล่ให้เจ้าของรถคันนั้นขับรถออกไป”

เมื่อได้ยินคำพูดของเลขาซินดี้ ฝีเท้าของมายมิ้นท์ก็หยุดชะงักลง พลางรีบหันหลังกลับมา“คุณพูดอะไร?น้องสาวของฉัน?”

หรือว่าจะเป็นดารามาย?

“ใช่ค่ะ ผู้ดูแลพูดแบบนี้จริงๆ”เลขาซินดี้พยักหน้า“ผู้ดูแลยังพูดอีกว่า ผู้หญิงคนนั้นยังหยิบพาสปอร์ตของตนเองออกมา ด้านในนั้นเขียนว่าชื่อดารามาย ผู้ดูแลรู้สึกว่าดารามายชื่อๆนี้ นั้นคล้ายคลึงกับชื่อของประธานมายมิ้นท์มาก ดังนั้นจึงเชื่อว่าเธอเป็นน้องสาวของคุณ จึงไม่ได้ไล่ฝ่ายตรงข้ามไป กลัวว่าจะทำให้คุณไม่พอใจ”

ดังนั้นนี่จึงไม่ถือว่าผู้ดูแลละเลยต่อหน้าที่

ทำได้เพียงโทษผู้หญิงคนนั้นที่ปลอมตัวเป็นน้องสาวของประธานมายมิ้นท์

“ที่แท้ก็เป็นดารามายอย่างที่คิดไว้จริงๆ!”มายมิ้นท์กำหมัดแน่น สีหน้าไม่สู้ดีนัก

เมื่อสักครู่นี้เธอก็กำลังคิดว่าคนที่อ้างว่าเป็นน้องของเธอ จะใช่ดารามายหรือเปล่า

ตอนนี้ความจริงพิสูทธิ์แล้วว่าเป็นความจริง

“ประธานมายมิ้นท์ คุณรู้จักดารามายเหรอคะ?”เลขาซินดี้มองมายังมายมิ้นท์ด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนักของมายมิ้นท์ จึงลองหยั่งเชิงพลางถามขึ้น“ประธานมายมิ้นท์ ดารามายคนนั้นมีความแค้นอะไรกับคุณหรือเปล่า ?”

“คุณควรรู้นะว่า พ่อของฉันยังมีเมียอีกคนหนึ่ง?”มายมิ้นท์ไม่ตอบแต่ถามกลับ

เลขาซินดี้พยักหน้า“ทราบครับ ได้ยินประธานลาเต้เคยพูด ดารามายคนนี้คงไม่ใช่น้องสาวของคุณจริงๆหรอกนะ?”

“ใช่”มายมิ้นท์อึมหนึ่งที“เป็นลูกที่เกิดจากเมียคนที่สองของคุณพ่อ”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”เลขาซินดี้รู้ตัวในฉับพลัน “เดิมทีฉันก็คิดว่ามีคนอ้างว่าเป็นน้องสาวของคุณเสียอีก แต่ว่า……”

เลขาซินดี้ขมวดคิ้ว“ฉันเคยได้ยินประธานลาเต้พูดว่า ประธานมายมิ้นท์ เมื่อหกปีก่อนน้องสาวของคุณกับแม่เลี้ยงของคุณได้ขโมยเงินทั้งหมดของเทนเดอร์กรุ๊ปหนีไป ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เธอปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งยังมุ่งตรงมาที่เทนเดอร์กรุ๊ป คงไม่ใช่ว่ามีแผนการอะไรหรอกนะคะ?”

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากสีแดงไม่พูดไม่จา

ในความเป็นจริงแล้ว เธอนั้นเห็นด้วยกับคำพูดของเลขาซินดี้เป็นอย่างมาก

ในเวลานี้ ก็มีคนมาเคาะประตูของห้องทำงาน

มายมิ้นท์เงยหน้ามองออกไป“เชิญเข้ามาค่ะ”

เดิมทีเธอคิดว่าเป็นเลขาซินดี้ แต่คนที่เข้ามากลับเป็นผู้ช่วยข้างกายของเตชิต

“ประธานมายมิ้นท์”ผู้ช่วยของเตชิต โค้งคำนับให้กับมายมิ้นท์

มายมิ้นท์วางโทรศัพท์ลง พลางถามอย่างเฉยเมย:“ประธานเตชิตของพวกคุณมีธุระอะไรเหรอคะ?”

หากไม่ได้เป็นเพราะคำสั่งของเตชิต ผู้ช่วยคนนี้ไม่มีทางมาที่นี่อย่างแน่นอน

ผู้ช่วยเตชิตยืนอยู่บริเวณด้านหน้าประตูพลางถามขึ้นว่า “เป็นแบบนี้ครับประธานมายมิ้นท์ ประธานเตชิตให้คุณไปประชุมครับ”

“ประชุมอะไรตอนนี้?”มายมิ้นท์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

ทุกครั้งที่มีการประชุมก็จะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าก่อน

แต่ว่าวันนี้ก็ไม่ได้มีนัดหมายว่าจะประชุมอะไร

แต่ว่าเตชิตกลับให้เธอไปประชุม จะต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ

“เป็นแบบนี้ครับ ประธานเตชิตบอกว่า ตั้งแต่คุณกลับมาเทนเดอร์กรุ๊ปนานขนาดนี้แล้ว เทนเดอร์กรุ๊ปยังไม่เคยมีการประชุมผู้ถือหุ้นอย่างเป็นทางการเลยสักครั้ง ในครั้งนี้ประธานเตชิตเตรียมเปิดประชุม เพื่อเลือกประธานบริษัทคนใหม่ บอกว่านานแล้วที่เทนเดอร์กรุ๊ปปล่อยให้ตำแหน่งประธานบริษัทว่างเว้นลง มีเพียงผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการ ซึ่งไม่เป็นการดีต่อการพัฒนาเทนเดอร์กรุ๊ป ดังนั้นจึงต้องการที่จะรีบเลือกและแต่งตั้งตำแหน่งประธานบริษัทให้เรียบร้อย”ผู้ช่วยพูดขึ้น

มายมิ้นท์เขยิบไปพิงที่ด้านหลัง ยิ้มแต่เหมือนไม่ยิ้มและพลางพูดขึ้นว่า:“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง แต่ว่าประธานเตชิตพูดผิดประโยคหนึ่ง เพราะตำแหน่งประธานบริษัทไม่จำเป็นที่จะต้องจัดการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือก เพราะแต่ไหนแต่ไรมาตำแหน่งประธานบริษัทนี้คนที่ถือหุ้นมากที่สุดก็จะรับไป ดังนั้นฉันคิดว่าคงไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งประธานบริษัทนี้มากกว่าฉัน”

ประธานบริษัทตำแหน่งนี้แต่ไหนแต่ไรมา ก็จะให้ผู้ที่ถือหุ้นสูงสุดเป็นคนรับตำแหน่ง หากคนที่ถือหุ้นมากที่สุดยังไม่ได้รับตำแหน่ง ตำแหน่งนี้ก็จะว่างลง และไม่มีทางให้คนที่ถือหุ้นน้อยมารับตำแหน่งอย่างแน่นอน นี่เป็นกฎของวงการธุรกิจ

เดิมทีเธอก็ควรได้เป็นประธานบริษัทไม่ใช่แค่รองประธาน เพียงแต่ลาเต้บอกว่า ก่อนหน้านี้เธอไม่เข้าใจเรื่องของธุรกิจมาก่อน หากจู่ๆนั่งตำแหน่งประธานบริษัทแต่กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย คนที่อยู่ข้างล่างก็จะไม่ยอมรับในตัวเธอ และพวกเขาจะร่วมมือกันเพื่อโค่นเธอลง

ถ้าจะให้เป็นเช่นนั้น สู้ถ่อมตัวหน่อยจะดีกว่า การเป็นเพียงรองประธาน ไม่เพียงแต่ได้เรียนรู้มากขึ้น ทั้งยังให้ผู้ถือหุ้นที่เป็นผู้บริหารระดับสูงรู้สึกดี ไม่ทำให้พวกเขาต้องระแวดระวังเธอตั้งแต่แรก รอเธอเรียนรู้ได้ระดับหนึ่งแล้ว ค่อยนั่งตำแหน่งประธานบริษัท หากเป็นเช่นนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่พึงพอใจ ก็ไม่มีวิธีที่จะดึงเธอลงมาแล้ว เพราะว่าเธอไม่ใช่คนที่ไม่รู้อะไรอีกต่อไปแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว