ผู้ถือหุ้นคนอื่นรวมทั้งผู้บริหารระดับสูง รวมไปถึงคนของเตชิตเองใบหน้าก็ต่างเต็มไปด้วยความประหลาดใจและมึนงง
“ประธานเตชิต เมื่อสักครู่นี้ที่คุณพูดว่าผู้สมัครตำแหน่งประธานบริษัทอีกหนึ่งคน หมายความว่ายังไงครับ?”
“ใช่แล้วประธานเตชิต นอกจากประธานมายมิ้นท์แล้ว ยังมีใครมีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้สมัครอีก?”
อิงตามหลักแล้ว คนที่มีหุ้นน้อยกว่าร้อยละสิบ ล้วนไม่มีคุณสมบัติที่จะรับตำแหน่งเป็นประธานบริษัทได้
ดังนั้นผู้ถือหุ้นลำดับที่สองและลำดับที่สาม ต่างไม่เคยคิดที่จะเป็นประธานบริษัท เพราะถึงยังไงก็ไม่มีสิทธิ์นั้น
ดังนั้นภายในห้องประชุม คนที่มีหุ้นมากกว่าร้อยละสิบ มีเพียงมายมิ้นท์เท่านั้น
ถ้าอย่างนั้นผู้สมัครประธานบริษัทอีกหนึ่งคนโผล่มาจากไหน?
หรือว่าในมือคนคนนั้นยังมีหุ้นของเทนเดอร์กรุ๊ปอยู่อีกร้อยละสิบ?
แต่ว่านี่มันก็ไม่น่าเป็นไปได้ หุ้นเหล่านี้ที่อยู่ในมือของพวกเขา กับของประธานมายมิ้นท์มารวมกัน ก็ครบร้อยละร้อยพอดี ไม่ได้มีเพิ่มมาอีกร้อยละสิบ
เพราะถึงยังไงตอนนี้เทนเดอร์กรุ๊ปก็ยังไม่ได้เข้าตลาดหุ้น ไม่ต้องเอาหุ้นเข้าตลาดหุ้น ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนสามารถซื้อหุ้นของเทนเดอร์กรุ๊ปผ่านช่องทางของตลาดหุ้นได้
เตชิตมองดูแววตาของกลุ่มคนที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว มีประกายในดวงตาของเขาเผยออกมา
แต่มายมิ้นท์กลับกำลังคิดอะไรอยู่ พลางเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง
ผู้สมัครอีกหนึ่งคนที่เตชิตพูดถึงจะเป็นดารามาย?
เมื่อสักครู่นี้เธอไม่สังเกตสีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมแห่งนี้ ล้วนไม่ได้เหมือนว่าพวกเขารู้เรื่องว่ามีผู้สมัครอีกหนึ่งคนมาก่อน ดังนั้นผู้สมัครอีกหนึ่งคน คงไม่ใช่คนที่อยู่ในห้องประชุมแห่งนี้คนใดคนหนึ่งเป็นแน่ จะต้องเป็นคนที่มาจากข้างนอก
อีกทั้งวันนี้ ดารามายก็มาปรากฏตัวที่เทนเดอร์กรุ๊ปพอดี ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นดารามายจริงๆ
ขณะที่คิด มายมิ้นท์หรี่ตามองไปยังเตชิต“ประธานเตชิต ในเมื่อคุณบอกว่ามีผู้สมัครอีกหนึ่งคน งั้นคุณก็เรียกคนๆนั้นเข้ามาเถอะ ไม่เพียงแต่ฉัน คนอื่นๆก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนคนนั้นเป็นใคร ใช่ไหมทุกคน?”
“ประธานมายมิ้นท์พูดถูก พวกเราทุกคนล้วนอยากรู้ นอกจากประธานมายมิ้นท์แล้ว ยังมีใครอีกที่มีคุณสมบัติเหมาะสม”
เมื่อได้ยินเตชิตกลุ่มคนต่างคล้อยตาม จึงวางแก้วชาที่ถืออยู่ในมือลงอย่างสบายใจ“ในเมื่อทุกคนอยากรู้ งั้นผมจะเรียกคนคนนั้นเข้ามาก็แล้วกัน จะว่าไป คนคนนี้ประธานมายมิ้นท์ก็รู้จัก อีกทั้งยังเป็นน้องสาวที่มีสายเลือดเดียวกันกับคุณด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของมายมิ้นท์ก็ค่อยๆขยายออก มือกำแน่น
ที่แท้ ก็เป็นดารามายอย่างที่คิดไว้
ดูเหมือนว่า ดารามายจะมีความสามารถไม่น้อย และไปเป็นพวกกับเตชิตอย่างคาดไม่ถึง
“น้องสาวของประธานมายมิ้นท์?”ผู้บริหารระดับสูงและผู้ถือหุ้นต่างเริ่มเกิดความสงสัย “ประธานมายมิ้นท์มีน้องสาว?”
คนที่ถามคำถามนี้ เป็นผู้ถือหุ้นและผู้บริหารระดับสูงที่เพิ่งเข้ามาทำงานที่เทนเดอร์กรุ๊ปในช่วงหกปีที่ผ่านมา
ส่วนผู้ถือหุ้นและพนักงานระดับสูงที่เพิ่งทำงานอยู่ที่เทนเดอร์กรุ๊ปในช่วงหกปีก่อน กลับไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ เพียงแต่คาดไม่ถึงเท่านั้น
พวกเขาต่างรู้ว่า มายมิ้นท์มีน้องสาวอยู่หนึ่งคน และก็เป็นลูกสาวของไตรภูมิ ประธานบริษัทคนก่อน เป็นลูกคนที่สอง ส่วนชื่ออะไรนั้นพวกเขาไม่ทราบ
สิ่งเดียวที่พวกเขารู้ ก็คือลูกสาวคนที่สองของประธานบริษัทคนก่อน เมื่อหกปีที่แล้วได้ไปอยู่กับแม่ของหล่อน และนำเงินทุนก้อนสุดท้ายของเทนเดอร์กรุ๊ปหนีไปด้วย ทำให้ประธานบริษัทคนก่อนหมดหวังจนกระโดดตึกฆ่าตัวตาย
สุดท้ายหากไม่ได้เป็นเพราะว่าเตชิตลุกขึ้นมา แล้วนำเงินเก็บทั้งหมดออกมา อีกทั้งยังไปยืมเงินจากธนาคาร ทำให้เทนเดอร์กรุ๊ปถูกดึงขึ้นมาจากความตายได้อย่างหวุดหวิด ไม่เช่นนั้นเมื่อหกปีที่แล้วเทนเดอร์กรุ๊ปก็คงจะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์แล้ว
ดังนั้นพวกผู้ถือหุ้นและผู้บริหารระดับสูงทราบว่าเป็นดารามาย ก็ต่างไม่พอใจ
“ประธานเตชิต คนที่คุณพูดถึงคือลูกสาวคนที่สองของไตรภูมิประธานบริษัทคนก่อนใช่ไหม แล้วทำไมหล่อนถึงได้มีสิทธิ์สมัครเป็นประธานบริษัทล่ะ?”
“ใช่แล้ว ประธานเตชิตคุณลืมเรื่องเมื่อหกปีก่อนไปแล้วเหรอ?หล่อนและแม่ของหล่อนเกือบทำให้เทนเดอร์กรุ๊ปต้องล้มละลาย ดังนั้นคนแบบนี้ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะมาเป็นประธานบริษัท อีกอย่างในมือของหล่อนก็ไม่มีหุ้นของบริษัท”
“ใช่แล้ว ประธานเตชิต”
ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยู่ฝ่ายมายมิ้นท์ หรือว่าเป็นคนที่อยู่ฝ่ายเตชิต ต่างไม่สนับสนุนเตชิต ที่สนับสนุนดารามายเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานบริษัท
คนที่ไม่รู้ก็คงคิดไปจริงๆว่าอาหลานคู่นี้มีความรู้สึกที่ดีต่อกันจริงๆ
ดารามายนั่งลงข้างๆเตชิต เนื่องจากตำแหน่งของเตชิต เดิมทีก็อยู่ตรงข้ามกับมายมิ้นท์
ดังนั้นหลังจากดารามายนั่งลง ก็สามารถประสานสายตากับมายมิ้นท์ได้อย่างชัดเจน
ดารามายยกมุมปากไปทางมายมิ้นท์“พี่ ฉันกลับมาแล้ว คุณประหลาดใจใช่ไหม?”
มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว ไม่ได้ตอบกลับ ขี้เกียจตอบกลับ เห็นหล่อนเป็นเพียงอากาศ
แต่พฤติกรรมนี้ของมายมิ้นท์ กลับทำให้ในใจของดารามายโกรธเป็นอย่างมาก
หล่อนยอมให้มายมิ้นท์ตอบโต้หล่อน แต่ไม่ยอมที่จะให้มายมิ้นท์ละเลยหล่อน
ราวกับว่า หล่อนนั้นเป็นขยะ
“เหอะ โยน ขว้างอะไร เดี๋ยวสักพักจะดูสิว่าคุณจะยังทิ้งๆขว้างๆได้อีกไหม”ดารามายยิ้มอย่างเย็นชา วินาทีต่อมาก็รีบเปลี่ยนสีหน้าแล้วหันไปพูดกับเตชิตที่อยู่ข้างๆว่า:“อาเต รบกวนคุณแล้ว”
“วางใจเถอะ ดารามาย หลานสาว ผมจะทำให้คุณได้ตำแหน่งประธานบริษัทอย่างแน่นอน แม้จะแย่งมาไม่ได้ ก็จะไม่ยอมให้เธอได้นั่งตำแหน่งนี้เด็ดขาด”สายตาคลุมเครือของเตชิตมองไปยังมายมิ้นท์ที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม พลางรับคำ
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณอาเตมากนะคะ”ร่างกายที่ตื่นเต้นของดารามายสั่น
เตชิตมองเธออย่างดูถูกจากหางตา ไม่นานก็หดสายตากลับมา ราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น พลางเอ่ยปากขึ้นว่า:“มายมิ้นท์ หลานสาว เมื่อสักครู่นี้ผมก็ได้พูดแล้วว่า ผมไม่ได้คัดค้านหากคุณต้องการดำรงตำแหน่งประธานบริษัท แต่คุณจะสามารถนั่งตำแหน่งนี้ได้หรือไม่ก็ต้องดูความสามารถของคุณเอง ตอนนี้ดารามาย หลานสาวมาแล้ว พวกคุณพี่น้องทั้งสองใครเหมาะสมที่จะเป็นประธานบริษัท ก็คงต้องดูว่าพวกคุณพี่น้องจะจัดการอย่างไร”
“ประธานเตชิต ฉันมีคำถามหนึ่งอยากจะถาม”นิ้วมือของมายมิ้นท์เคาะอยู่ที่พื้น“ทำไมถึงคิดว่าดารามายมีความเหมาะสมที่จะลงแข่งขันเพื่อดำรงตำแหน่งประธานบริษัท?หล่อนมีความสามารถงั้นเหรอ?หล่อนมีหุ้นไหม?ถ้าหากว่าหล่อนไม่มีทั้งสองอย่างนี้เลย แต่คุณกลับดึงหล่อนขึ้นมาต่อสู้ในสังเวียนกับฉัน ให้หล่อนมาแย่งชิงตำแหน่งประธานบริษัทกับฉัน มันไม่เลอะเทอะไปหน่อยเหรอ?หากเป็นเช่นนี้ นั้นก็หมายความว่าคุณไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ดังนั้นคุณก็อย่ามาโทษฉันละกันที่ไม่เห็นแก่หน้าที่คุณเคยช่วยเทนเดอร์กรุ๊ปไว้ และจะยึดอำนาจขึ้นเป็นประธานบริษัท พร้อมทั้งยึดอำนาจที่อยู่ในมือ!”
การที่เธอไม่ได้ทำเช่นนั้น และพยายามที่จะอดทนต่อเตชิต ก็เป็นเพราะว่าในตอนนั้นหลังจากที่พ่อตายแล้ว เตชิตก็ได้กอบกู้เทนเดอร์กรุ๊ปขึ้นมา
ไม่เช่นนั้น เธอคงไล่เตชิตออกจากเทนเดอร์กรุ๊ปตั้งนานแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...