รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 602

เขารู้ดีว่า เขาไม่สามารถห้ามให้มายมิ้นท์เป็นประธานบริษัทแล้ว

อีกทั้งวันนี้การร่วมมือกับดารามายเพื่อให้เธอต้องจนมุม จะต้องทำให้เธอโกรธแค้นอย่างแน่นอน หากยอมให้เธอนั่งตำแหน่งประธานบริษัท แน่นอนว่าหล่อนจะต้องใช้อำนาจกำจัดเขาเป็นคนแรกอย่างแน่นอน

ดังนั้นเพื่อไม่ให้ถูกกำจัด ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือบีบบังคับให้มายมิ้นท์ยอมมอบหุ้นร้อยละห้าจุดห้า ขอเพียงแค่ให้หุ้นในมือขอ

มายมิ้นท์มีไม่ถึงร้อยละห้าสิบ มายมิ้นท์ก็จะได้ไม่มีอำนาจเด็ดขาด และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่สามารถที่จะใช้อำนาจเด็ดขาดในการปลอดเขาได้

มายมิ้นท์มองแววตาวูบวาบของเตชิต ก็รู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่

เธอยิ้มครู่หนึ่ง“ได้ ฉันแบ่งให้หล่อน แต่ว่าหล่อนจะสามารถรักษามันไว้ได้ไหม ก็ต้องอยู่ที่ความสามารถของหล่อนเองแล้ว”

พูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พลางเรียกเลขาซินดี้เข้ามา

“ไปจัดทำหนังสือโอนหุ้นมาหนึ่งฉบับ”มายมิ้นท์กำชับ

เดิมทีเธอก็คิดแล้วว่า คงไม่สามารถยื้อหุ้นร้อยละห้าจุดห้านี้ไว้ได้ แม้ว่าเตชิตจะไม่ยอมให้เธอเอาออกมา แต่ดารามายก็ต้องให้เธอเอาออกมาอยู่ดี

ดังนั้นตอนนี้เมื่อได้ยินประโยคนี้ เธอก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย และไม่ตกใจเลยแม้แต่นิดเดียว และไม่ลังเลใดๆด้วย

ก็เหมือนกับที่เธอพูดเมื่อสักครู่นี้ว่าดารามายเป็นคนโง่เขลา ขอเพียงแค่มีโอกาส เธอก็สามารถสร้างสถานการณ์ เอาหุ้นร้อยละห้าจุดห้านี้คืนมาจากดารามาย ได้

เมื่อเลขาซินดี้ได้ยินในสิ่งที่มายมิ้นท์กำชับ ก็ตกใจเหลือบมองดารามายครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้า “ฉันทราบแล้วค่ะ ประธานมายมิ้นท์ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

พูดจบ เลขาซินดี้ไปจัดทำหนังสือโอนหุ้น

ไม่ได้ เอกสารก็จัดทำเรียบร้อย

ท่ามกลางพยานที่มีทั้งผู้บริหารระดับสูงและพวกผู้ถือหุ้น รวมไปถึงทนายฝ่ายกฎหมายของบริษัท ก็ได้เป็นพยานให้กับมายมิ้นท์และดารามาย ในการเซ็นหนังสือโอนหุ้น

นับจากนี้ ในมือของดารามายก็มีหุ้นอยู่ร้อยละห้าจุดห้า

แม้ว่าจะห่างไกลจากความคิดแรกเริ่มของหล่อนที่ต้องการหุ้นจำนวนร้อยละยี่สิบห้าจุดห้า แต่ว่าหล่อนก็รู้ดีว่าตนเองไม่สามารถแย่งมาได้ การได้หุ้นมาร้อยละห้าจุดห้า ก็ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงแล้ว

“ในเมื่อตอนนี้ฉันมีหุ้นแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันก็ควรมีตำแหน่งสักตำแหน่งในบริษัท มายมิ้นท์ฉันต้องการตำแหน่งของคุณ”ดารามายรับหนังสือโอนหุ้นไว้ พลางมองมายมิ้นท์อย่างยั่วยุ

ดวงตาของมายมิ้นท์หรี่ลง“แน่นอนว่าต้องได้สิ หวังเพียงว่าคุณอย่าสร้างเรื่องน่าขบขันก็พอ”

“เหอะ คุณนี่ชอบดูถูกคนจริงๆ มายมิ้นท์ คุณสามารถบริหารบริษัทได้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าฉันจะทำไม่ได้!”ดารามายยกคางขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ

มายมิ้นท์ยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม“ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอดู หากคุณกล้าสร้างปัญหาให้กับบริษัท หรือว่าทำให้บริษัทต้องเสียหาย ฉันก็จะปลดคุณ”

พูดจบ เธอก็ไม่ได้แยแสดารามายอีกต่อไป พลางมองมายังเตชิตที่อยู่ฝั่งตรงข้าม“ประธานเตชิต ในเมื่อตอนนี้ฉันดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัทแล้ว งั้นอำนาจการบริหารอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ในมือของคุณก็ควรที่จะนำกลับคืนมาให้ฉันแล้วใช่ไหม?”

เตชิตกัดฟันหลัง ผ่านไปนาน เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยายามสงบสติอารมณ์:“แน่นอน ในเมื่อคุณเป็นประธานบริษัทแล้ว อำนาจการบริหารก็ควรตกเป็นของคุณ”

มายมิ้นท์ยิ้มเล็กน้อย“ถ้าอย่างงั้นก็ดี เมื่อเป็นเช่นนี้ ประธานเตชิตก็จะได้พักผ่อน ไม่ต้องมาลำบากช่วยฉันบริหารบริษัทอีก เพราะถึงยังไงคุณก็อายุมากแล้ว”

พูดจบ ท่ามกลางสายตาของเตชิตที่ราวกับจะกลืนกินเธอ เธอลุกขึ้นอย่างสงบ พลางตบมือ“โอเคค่ะทุกท่าน การประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้ถือว่าสิ้นสุดลงแล้ว แยกย้ายได้”

“ครับ ท่านประธาน!”ผู้บริหารระดับสูงและผู้ถือหุ้นทุกคนต่างยกมือขึ้น พลางตอบรับกันอย่างเซ็งแซ่ อีกทั้งในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนสรรพนามในการเรียกอีกด้วย เปลี่ยนจากรองประธานมายมิ้นท์ เป็นท่านประธานบริษัท

มายมิ้นท์ปิดตาลงเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ

ไม่พูดคงไม่ได้ว่า สรรพนามที่คนอื่นเรียกว่าท่านประธานบริษัทนี้ มันน่ายินดีกว่ารองประธานเป็นไหนๆ

เธอ ชอบเป็นอย่างมาก!

มายมิ้นท์ไม่ได้มองมายังเตชิตและดารามายทั้งสองอีกต่อไป หยิบสมุดโน๊ตที่อยู่บนโต๊ะและก้าวเท้าออกจากห้องประชุม

วันนี้เธอเป็นประธานบริษัทแล้ว แน่นอนว่าต้องเป็นคนแรกที่เดินจากไป หลังจากที่เธอเดินจากไป คนที่เหลือจึงค่อยๆเดินจากไป

“ฝ่ายการเงิน?”มายมิ้นท์กลอกตาครู่หนึ่ง นึกออกแล้ว“คนที่คุณพูดถึงคือหัวหน้าชาหวาน?”

“อืม”เปปเปอร์พยักหน้า

“หัวหน้าชาหวานเป็นคนของคุณ?”มายมิ้นท์ตกใจจนต้องเบิกตากว้าง

เปปเปอร์พยักหน้า“เมื่อก่อนใช่ แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เขาเป็นพนักงานของคุณ”

มายมิ้นท์เหอะหนึ่งทีด้วยความเย็นชา“หากเขาเป็นพนักงานของฉัน แล้วทำไมเขาต้องติดต่อกับเจ้านายเก่าด้วยล่ะ? ฉันว่า เขาก็ยังคงเป็นพนักงานของคุณ อีกทั้งยังรับเงินเดือนอีกทางหนึ่งจากคุณด้วย?”

“……”เปปเปอร์นิ่งเงียบ

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปาก“ดูเหมือนว่าฉันจะพูดถูก”

“ก็ได้ ผมจะบอกคุณตามตรง”เปปเปอร์ยิ้มเล็กน้อยพลางอธิบายขึ้นว่า:“หลังจากที่ชาหวานจากไป คุณก็ตามหาหัวหน้าฝ่ายการเงินมาโดยตลอด แม้กระทั่งยังวางแผนที่จะซื้อตัวจากคู่แข่ง ผมเป็นกังวลว่าหัวหน้าฝ่ายการเงินที่คุณหา สุดท้ายจะเป็นคนของตระกูลภักดีพิศุทธิ์ หรือไม่ก็ถูกซื้อตัวโดยเตชิต ดังนั้นผมก็เลยตัดสินใจ ส่งหัวหน้าฝ่ายการเงินของบริษัทผมไปช่วยคุณที่นั่น เมื่อเป็นเช่นนี้คุณจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะเป็นคนที่ถูกตระกูลภักดีพิศุทธิ์หรือเตชิตซื้อตัว”

“ใช่ เขาจะไม่ถูกตระกูลภักดีพิศุทธิ์หรือเตชิตซื้อตัว แต่ว่าก็ยังคงซื่อสัตย์กับคุณอย่างลับๆ ทั้งยังบอกเรื่องเกี่ยวกับบริษัทฉันให้กับคุณอีกด้วย”มายมิ้นท์กลอกตาขาว พลางพูดขึ้นอย่างรำคาญ

หากเป็นเมื่อก่อน เธอรู้ว่าพนักงานของตนถูกเปปเปอร์จัดหามาให้ อีกทั้งยังบอกเรื่องราวของตนให้กับเปปเปอร์ เธอจะต้องโกรธอย่างแน่นอน

แต่ว่าตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นแฟนที่เธอเลือกแล้ว

อีกอย่าง หัวหน้าฝ่ายการเงินที่เขาจัดหามาให้นี้ ก็มีความสามารถจริงๆ มาไม่นานก็สามารถดูแลฝ่ายการเงินได้อย่างมีระเบียบ

ดังนั้นเธอจึงจำใจไม่ได้ที่จะไล่คนออกเพราะความโกรธ

เมื่อไม่ได้สัมผัสถึงความโกรธที่ออกมาจากคำพูดของมายมิ้นท์ เปปเปอร์จึงถอนหายใจเล็กน้อย

ดูเหมือนว่า เธอไม่ได้โทษเขาที่ส่งคนของเขามาอย่างพลการ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว