รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 609

หลังจากนั้นบีบแตร รถของเปปเปอร์ก็ขยับ แล้วหายไปท่ามกลางการจราจร

กระทั่งมายมิ้นท์แยกไม่ออกว่ารถคันไหนเป็นรถของเขา เธอจึงเอามือออกจากราวบันได แล้วกลับไปยังห้องนั่งเล่น

ในขณะที่เธอกำลังจะเข้าไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นนั้น โทรศัพท์ที่เพิ่งคว้าไว้ในมือก็ดังขึ้น

เดิมทีเธอคิดว่าเปปเปอร์เป็นคนโทรมา รีบยกโทรศัพท์ขึ้นพลางมองดู ผลกลับพบว่านิติบุคคลของเขตนิวเทาน์ริเวอร์เป็นคนโทรมา

มายมิ้นท์ขมวดคิ้วอย่างสงสัย

ที่แปลกนิติบุคคลของทางด้านนั้น ทำไมถึงได้โทรศัพท์มาในเวลานี้ ?

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดง พลางรับโทรศัพท์“ฮัลโหล?”

“คุณมายมิ้นท์ สวัสดีครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่โทรมารบกวนตอนดึก”คู่สายทางด้านนั้นพูดขึ้น

มายมิ้นท์เดินตรงมายังด้านหน้าโซฟาพลางนั่งลง“ไม่เป็นไรค่ะ คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”

“เป็นแบบนี้ครับคุณมายมิ้นท์ วันนี้น้องสาวของคุณมาที่นี่ และต้องการกุญแจจากผม ผมก็เลยโทรมารายงานคุณครับ”คู่สายทางด้านนั้นพูดขึ้น

เมื่อมายมิ้นท์ได้ยินคำพูดนี้ ในหน้าก็ขรึมลงเล็กน้อย“คุณบอกว่าดารามายไปที่เขตนิวเทาน์ริเวอร์เหรอคะ?”

“ใช่ครับ”คนที่เป็นคู่สายพยักหน้า

สายตาของมายมิ้นท์หรี่ลงเล็กน้อย“ตอนนี้หล่อนอยู่ที่ไหน?คุณเอากุญแจให้หล่อนไปแล้วหรือยังคะ?”

เขตนิวเทาน์ริเวอร์ คือคฤหาสน์ที่ตระกูลกิตติภัคโสภณอาศัยอยู่ในสมัยก่อน

เมื่อหกปีก่อนหลังจากที่พ่อเสียชีวิต เธอก็ปิดตายคฤหาสน์หลังนี้ จากนั้นได้มอบกุญแจบางส่วนไว้ให้กับนิติบุคคลดูแล เพื่อให้นิติบุคคลเข้าไปทำความสะอาดบ้างเป็นบางครั้ง รวมไปถึงตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆในคฤหาสน์

แม้ว่าเธอจะไม่คิดที่จะอาศัยอยู่ที่นั่นต่อ แต่เธอก็ไม่ต้องการปล่อยให้คฤหาสน์รกร้าง ดังนั้นในทุกๆเดือน เธอก็จะจ่ายค่าดูและให้กับนิติบุคคล

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เธอไม่ได้กลับไปที่นั่น แต่ดารามายกลับไปเสียเอง

“ใช่ครับคุณมายมิ้นท์ ผมได้มอบกุญแจให้กับเขาแล้ว เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นน้องสาวของคุณ”นิติบุคคลพยักหน้าพลางตอบกลับจากนั้นก็ถามขึ้นอย่างระมัดระวัง“คุณมายมิ้นท์ ผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ?ไม่ควรมอบกุญแจให้กับน้องสาวของคุณเหรอครับ?”

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปาก อยากที่จะพูดว่าใช่ ทำผิดแล้ว

แต่ในขณะเดียวกันเธอก็รู้ดีว่า นิติบุคคลไม่รู้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างเธอกับดารามาย ดังนั้นจึงได้นำกุญแจมอบให้กับดารามาย

เพราะว่านิติบุคคลคิดว่าดารามายเป็นน้องสาวของเธอ พี่น้องไม่น่ามีความแค้นที่ลึกซึ้งต่อกัน

ดังนั้นฉันไม่สามารถที่จะกล่าวโทษนิติบุคคลได้ เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่เคยบอกเรื่องดารามายกับนิติบุคคลมาก่อนเลยตั้งแต่ต้น

ขณะที่คิด มายมิ้นท์คลึงที่หว่างคิ้วพลางตอบกลับว่า:“ฉันกับดารามายมีความแค้นต่อกัน”

เมื่อได้ยินมายมิ้นท์พูดเช่นนี้ จู่ๆนิติบุคคลก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับว่าตนทำผิดแล้ว รีบขอโทษอย่างรวดเร็ว“ขอโทษด้วยนะครับคุณมายมิ้นท์ ผมไม่ทราบจริงๆ”

“ช่างเถอะค่ะ ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาเรื่อง ต่อไปห้ามเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกนะคะ”มายมิ้นท์วางมือลง

นิติบุคคลรีบขอโทษอย่างรวดเร็ว“ผมทราบแล้วครับคุณมายมิ้นท์”

“ในเมื่อตอนนี้คุณได้มอบกุญแจให้กับดารามายแล้ว งั้นคุณก็พาคนไปสักสองสามคน รีบไล่ดารามายออกจากคฤหาสน์ของฉันซะ แล้วก็เอากุญแจกลับมาด้วย”มายมิ้นท์กำชับด้วยสีหน้าเย็นชา

คฤหาสน์หลังนั้นดารามายกับลำดวนไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าพัก

เพราะว่าคฤหาสน์หลังนั้น ซื้อตอนที่พ่อกับแม่เธอแต่งงานกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องใดใดกับแม่ลูกดารามาย

สมัยก่อนตอนพ่อยังอยู่ เธอยอมให้สองแม่ลูกดารามายอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนั้นได้ เพราะเธอเองไม่สามารถพูดอะไรได้

แต่ว่าตอนนี้ พ่อไม่อยู่แล้ว สองแม่ลูกดารามายวางยาพ่อ ดังนั้นพวกหล่อนมีสิทธิ์อะไรมาเหยียบคฤหาสน์หลังนี้!

ฟังความเฉยเมยในน้ำเสียงของมายมิ้นท์นิติบุคคลรีบรับคำในทันที “ผมทราบแล้วครับคุณมายมิ้นท์ เดี๋ยวผมจะส่งคนไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ คุณวางใจเถอะ เรื่องเรื่องนี้ ผมจะต้องจัดการได้ดีอย่างแน่นอน”

แม้ว่านิติบุคคลจะรู้สึกเสียใจที่มายมิ้นท์ตัดขาดกับน้องสาวแท้ๆ แต่ว่าคำพูดพวกนี้ เขาคงไม่กล้าพูดออกมา

เพราะใครที่เป็นคนจ่ายเงิน เขานั้นก็รู้ดี

ขณะที่นิติบุคคลทั้งสองคนกำลังนำตัวดารามายออกไป จู่ๆดารามายก็ต่อสู้อย่างดุเดือดพลางพูดขึ้นว่า “ที่แท้มายมิ้นท์ก็เป็นคนให้พวกคุณมา เธอกลายเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ฉันกับเธอต่างก็เป็นลูกของพ่อ คฤหาสน์หลังนี้ก็เป็นของฉันครึ่งหนึ่งเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะไล่ฉันออกไป!”

“แน่นอนว่าคุณมายมิ้นท์มีสิทธิ์ ก่อนที่จะมาผมได้ตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สินของคฤหาสน์หลังนี้แล้ว คฤหาสน์หลังนี้เป็นคฤหาสน์ที่ไตรภูมิกับคุณลีน่าซื้อร่วมกันเมื่อสามสิบปีก่อน ไม่ใช่ซื้อหลังจากที่คุณไตรภูมิแต่งงานกับแม่ของคุณดารามาย ดังนั้นหลังจากที่คุณลีน่าเสียชีวิตไปไม่นาน สิทธิในทรัพย์สินคฤหาสน์หลังนี้ ไตรภูมิได้โอนเป็นของคุณมายมิ้นท์เรียบร้อยแล้ว กระทั่งวันนี้ก็ยี่สิบปีแล้ว ดังนั้นผมจึงบอกว่าคฤหาสน์หลังนี้เป็นของคุณมายมิ้นท์เพียงคนเดียว”

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”หลังจากที่ดารามายฟังหัวหน้านิติบุคคลพูดจบ ดวงตาก็เบิกกว้างอย่างกะทันหัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและไม่อยากจะเชื่อ

หล่อนรู้มาโดยตลอดว่าคฤหาสน์หลังนี้ซื้อตอนที่พ่อกับแม่ของมายมิ้นท์แต่งงานกัน

แต่กลับไม่รู้เลยว่า หลังจากที่แม่ของมายมิ้นท์เสียชีวิต พ่อจะมอบคฤหาสน์หลังนี้ให้กับมายมิ้นท์!

“นี่ก็ไม่เห็นจะมีเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้”หัวหน้านิติบุคคลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“จะโทษก็ต้องโทษที่คุณไม่สอบถามให้ดี ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ถูกไล่ขนาดนี้”

เมื่อพูดจบ หัวหน้านิติบุคคลก็โบกมือ แสดงเป็นนัยว่าให้คนทั้งสองคนของนิติบุคคลรีบเอาตัวคนไปซะ

ในเวลานี้ แม้ว่าดารามายจะไม่เต็มใจ และไม่ว่าจะดิ้นรนและกรีดร้องแค่ไหน ก็ถูกคนของนิติบุคคลทั้งสองคนจับโยนออกไปอยู่ดี

หัวหน้านิติบุคคลมองไปยังแม่บ้านที่ตะลึงงัน พลางเอ่ยปากพูดขึ้นว่า“ที่นี่ไม่มีธุระของคุณแล้ว คุณรีบออกไปจากที่นี่เถอะ”

“ค่ะ ค่ะ ค่ะ ”แม่บ้านรีบรับคำ ทิ้งผ้าขี้ริ้วที่อยู่ในมือแล้วรีบวิ่งออกไปทางประตู

สุดท้าย หัวหน้านิติบุคคลก็ลากกระเป๋าของดารามายออกไปข้างนอก

ดารามายถูกคนของนิติบุคคลทั้งสองคนจับโยนไว้ที่หน้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์ ตัวทั้งตัวล้มลงกับพื้น

จากนั้น ก็มีของบางอย่างถูกโยนมาทางนี้ สุดท้ายก็ร่วงหล่นมาอยู่ข้างๆหล่อน ซึ่งก็คือกระเป๋าเดินทางของหล่อนนั้นเอง

มายมิ้นท์มองไปยังมุมข้างหนึ่งของกระเป๋าเดินทางที่ถูกโยนจนพัง แล้วมองไปที่พนักงานของนิติบุคคลทั้งสามคน ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น“พวกคุณรอดูก็แล้วกัน ฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่”

แล้วก็มายมิ้นท์ด้วย ที่เธอกล้าลดเกียรติฉันขนาดนี้ ฉันจะเอาคืนเป็นสองเท่า

ในขณะที่พนักงานทั้งสามคนของนิติบุคคลกำลังเผชิญหน้ากับการข่มขู่ของดารามาย ใบหน้าไม่มีความรู้สึกเกรงกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย เพราะถึงยังไงพวกเขาก็ทำตามคำสั่ง หากมีเรื่องอะไรคุณมายมิ้นท์ก็จะต้องรับผิดชอบแทนพวกเขาอย่างแน่นอน

ดังนั้นพนักงานของนิติบุคคลทั้งสามคนไม่ได้ใส่ใจคำขู่ของดารามายเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่หัวเราะอย่างเหยียดหยาม ก็กลับไปยังบริเวณคฤหาสน์ ทิ้งดารามายให้นั่งร้องไห้อยู่บนพื้นอย่างบ้าคลั่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว