รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 610

หลังจากที่กรีดร้องอยู่นาน พวกพนักงานนิติบุคคลเหล่านั้น ไม่เพียงแค่ไม่กลับมา อีกทั้งยังดึงดูดผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาให้มามุงดูด้วย

ดารามายรู้สึกอาย จึงรีบลุกขึ้นแล้วเก็บกระเป๋าที่อยู่ที่พื้น พลางก้มหน้าเดินไปยังที่จอดรถ

หลังจากที่ขึ้นรถของตนเองเรียบร้อยแล้วดารามายทำหน้าบึ้ง หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรหามายมิ้นท์

คอนโดพราวฟ้า หลังจากที่มายมิ้นท์อาบน้ำเสร็จพลางเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ เตรียมที่จะไปเป่าผม

เมื่อเดินไปที่ด้านหน้าไดร์เป่าผม โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

มายมิ้นท์คิดว่าเปปเปอร์มาถึงแล้ว เพื่อรายงานความปลอดภัย จึงรีบวางไดร์เป่าผมลง แล้วหันหลังเดินไปยังหัวเตียง พลางหยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนเตียงขึ้นมา

ผลพบว่าหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงผลนั้นไม่ใช่เปปเปอร์ แต่เป็นเบอร์ของคนแปลกหน้า ทำให้แววตาที่สุกสว่างของมายมิ้นท์เมื่อสักครู่นี้ อดไม่ได้ที่จะหม่นหมองลง

ที่แท้ก็ไม่ใช่เปปเปอร์

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดง สุดท้ายก้รับสายโทรศัพท์“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใครโทรมาคะ？”

“มายมิ้นท์ คุณกล้าให้คนไปไล่ฉันออกจากคฤหาสน์เหรอ！”เสียงแหลมของผู้หญิงดังออกมา

น้ำเสียงของผู้หญิงคนนั้นทั้งโกรธทั้งขุ่นเคือง ทำให้คนฟังรู้สึกขนหัวลุก

คิ้วของมายมิ้นท์บีบตัวแน่น พลางพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า：“ฉันก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็คุณเองดารามาย ทำไมเหรอ โทรมาขอให้ฉันรู้สึกผิดเหรอ？ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกคุณให้นะ คุณโทรหาคนผิดแล้ว คฤหาสน์หลังนั้นเป็นของฉัน แน่นอนว่าฉันมีสิทธิ์ไล่คุณออกไป อีกทั้งฉันยังสามารถแจ้งความได้ด้วย ฟ้องคุณข้อหาบุกรุก”

“คุณ……” คำพูดนี้ของมายมิ้นท์ทำให้ดารามายไปไม่เป็น จนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา ใบหน้าขาวซีดขึ้นอีกครั้ง เหมือนจานที่สีตก น่าตลกจริงๆ

หลังจากนั้นไม่นาน หล่อนจึงสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามกดทับความรู้สึกโหดร้ายและรุนแรงในใจไว้ พลางพูดขึ้นอย่างมืดมนและเย็นชา：“ดีมาก มายมิ้นท์ คุณจำไว้นะ เรื่องของคืนนี้ ฉันไม่จบง่ายๆแน่ สักวันหนึ่งคุณจะต้องเสียใจ！”

พูดจบ หล่อนก็วางสายโทรศัพท์ลง

เพราะในใจของเธอชัดเจนว่า ตนพูดไม่ชนะมายมิ้นท์แน่ๆ ทั้งยังไม่สมเหตุสมผล หากพูดต่อไป จะถูกรังแกจนตายโดยมายมิ้นท์ สู้วางสายก่อนดีกว่า

มายมิ้นท์มองไปยังหน้าจอหลักของโทรศัพท์มือถือ พลางยิ้มอย่างเย็นชา

จะทำให้คุณต้องเสียใจ？

ได้ เธอจะรอดู ดูสิว่าสุดท้ายแล้ว ใครกันแน่ที่จะเสียใจ！

ขณะที่มายมิ้นท์วางสายโทรศัพท์ลงและนำโทรศัพท์กลับไปวางยังหัวเตียง จู่ๆโทรศัพท์ก็สว่างขึ้นอย่างอัตโนมัติ

สิ่งที่แสดงบนหน้าจอในครั้งนี้ เป็นข้อความข้อความหนึ่ง คนที่ส่งข้อความคือเปปเปอร์

จะเห็นได้ว่า สายตาของมายมิ้นท์จู่ๆก็เผยความรู้สึกดีใจออกมา จึงได้รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ปลดล๊อกข้อความพลางพูดขึ้นว่า：นอนหรือยังครับ？

มายมิ้นท์คลิกที่แถบพิมพ์：ยังค่ะ คุณถึงแล้วหรือยังคะ？

อีกทางด้านหนึ่งของฝั่งโทรศัพท์ เปปเปอร์นั่งอยู่บนโซฟา ดึงเนกไทที่คอออกเล็กน้อย ขณะที่เพิ่งคลายเนกไทออก ก็รู้สึกว่าโทรศัพท์ที่ขาสั่น

เขารีบคลายเนกไทออกพลางก้มหน้า เมื่อเห็นข้อความของมายมิ้นท์ จึงรีบตอบกลับ

เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางพลางงุ้มขึ้น มือข้างหนึ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา：ถึงแล้ว

มายมิ้นท์นั่งลงที่ข้างเตียง：ถึงแล้วก็ดีค่ะ ดึกแล้ว คุณรีบล้างหน้าแปรงฟันแล้วพักผ่อนเถอะค่ะ อย่าอดหลับอดนอน

เมื่อได้ยินคำพูดเป็นห่วงใยจากผู้หญิงคนนี้ คิ้วของเปปเปอร์ก็อ่อนโยนลงไม่น้อย พลางพิมพ์ตัวอักษรตอบกลับว่า：ครับ คุณก็เช่นเดียวกันนะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ

มายมิ้นท์ยื่นริมฝีปากออก：ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

เมื่อวางโทรศัพท์ลง เปปเปอร์ลุกขึ้น แล้วเดินไปยังห้องหนังสือ

“ไม่ใช่ ทำไมคุณต้องให้หุ้นร้อยละห้ากับเขาด้วยละครับ？”ลาเต้ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

มายมิ้นท์จิบน้ำที่วางอยู่บนเตียงเมื่อคืนนี้หนึ่งอึก เพื่อทำให้ชุ่มคอ จากนั้นจึงตอบกลับว่า：“หุ้นที่ฉันให้ เป็นหุ้นจำนวนร้อยละสอบที่ได้มาจากพ่อ ไม่ใช่หุ้นที่พวกคุณกับคุณตาซื้อมาหรอกค่ะ พ่อไม่ทิ้งพินัยกรรมแบ่งมรดกก่อนตาย ดังนั้นฉันจึงควรแบ่งหุ้นครึ่งหนึ่งให้กับดารามาย หุ้นนี้ หากฉันไม่ให้ และดารามายฟ้อง ศาลก็ต้องตัดสินให้ฉันแบ่งอยู่ดี อีกทั้งครั้งนี้หล่อนกลับมา เดิมทีก็เพื่อต้องการทวงหุ้นที่อยู่ในมือของฉันกับเทนเดอร์กรุ๊ปคืน หากหุ้นในมือของฉันส่วนใหญ่ไม่ใช่หุ้นที่พวกคุณซื้อให้ฉัน เมื่อวานนี้ฉันคงถูกดารามายแย่งไปครึ่งหนึ่งแล้ว ”

เมื่อฟังคำพูดของเธอจบ ลาเต้ก็สงบลงไม่น้อย แต่ปากก็ยังไม่ยอม“เสียเปรียบให้หล่อนจริงๆ”

มายมิ้นท์ยิ้มอย่างจนปัญญา“ไม่มีหนทางอื่น ให้ใช้ให้หล่อนเป็นลูกของพ่อจริงๆล่ะ”

“แล้วตำแหน่งนั้นล่ะ？”ลาเต้ขมวดคิ้วพลางพูดขึ้น“ตำแหน่งรองประธานสำคัญขนาดนั้น ทำไมคุณถึงยอมให้เขาล่ะ？หล่อนทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง อีกทั้งยังมีความทะเยอทะยานมากขนาดนั้น ให้หล่อนนั่งตำแหน่งสูงขนาดนี้ หากหล่อนก่อเรื่องขึ้นมาจะทำยังไง”

“วางใจเถอะลาเต้ เรื่องพวกนี้ฉันพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เมื่อสักครู่นี้คุณก็พูดแล้วว่า ดารามายมีความทะเยอทะยานสูง หล่อนต้องไม่ยอม ต้องโวยวายอย่างแน่นอน และทำให้ภาพลักษณ์ของเทนเดอร์กรุ๊ปตกต่ำลง ดังนั้นฉันก็เลยให้ตำแหน่งใหญ่ๆกับเธอ ตำแหน่งระดับสูงที่ทำให้เธอไม่สามารถเข้าถึงสิทธิและความลับใด ๆ ได้ การให้หล่อนอยู่ใกล้ตัวเช่นนี้เป็นการดีที่สุด เมื่อเป็นเช่นนี้ หล่อนทำอะไรฉันก็จะรู้ทันที”มายมิ้นท์อธิบาย

ลาเต้พยักหน้า“ก็ใช่”

“ใช่แล้วลาเต้ คุณรู้ได้ยังไงว่าดารามายได้กลายเป็นรองประธานของเทนเดอร์กรุ๊ป？”มายมิ้นท์ถามขึ้นด้วยความสงสัย

เรื่องเรื่องนี้ ฉันไม่ได้เผยแพร่ต่อสาธารณะ และไม่ได้บอกใครนอกจากเปปเปอร์

ดังนั้น การที่เขารู้เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่แปลก

คู่สายโทรศัพท์อีกทางด้านหนึ่ง ลาเต้นั่งอยู่ในห้องทำงานของตนเอง มองไปยังคอมพิวเตอร์ที่อยู่เบื้องหน้าของตน “ผมเห็นในอินเทอร์เน็ต”

“อินเทอร์เน็ต？”สีหน้าของมายมิ้นท์ขรึมลง

ลาเต้อึมหนึ่งที“ใช่ครับ วันนี้ตอนเช้าพอเปิดคอมพิวเตอร์ ก็เห็นข่าวรองประธานคนใหม่ของกลุ่มบริษัทเทนเดอร์กรุ๊ปเด้งขึ้นมา พอคลิกเข้าไปดู เป็นดารามายสัมภาษณ์อยู่คนเดียว ดังนั้นผมก็เลยทราบว่าดารามายกลับมาแล้ว หากไม่ใช่เป็นเพราะว่าหล่อนยังกลายเป็นรองประธานของเทนเดอร์กรุ๊ป ดังนั้นผมก็เลยโทรมาถามความจริงจากคุณ”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”มายมิ้นท์พยักหน้า แสดงเป็นนัยว่าเข้าใจแล้ว

ลาเต้ยังพูดอีกว่า：“บทสัมภาษณ์ตอนนั้น ดารามาย น่าจะเป็นคนให้สื่อมาอัดด้วยตนเอง คาดว่าน่าจะต้องการประกาศ ว่าตนได้ดำรงตำแหน่งรองประธานแล้ว และต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเทนเดอร์กรุ๊ปไม่ใช่ของคุณเพียงคนเดียว แต่ก็เป็นของหล่อนด้วย”