แต่ตอนนี้เธอตกหลุมรักเปปเปอร์อีกครั้งแล้ว ในใจของเธอ ลูกคนที่แท้งไปจึงค่อนข้างสำคัญและมีความหมายต่อเธอ
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อพูดถึงเด็กคนนั้นขึ้นมาอีกครั้งเธอจึงรู้สึกโศกเศร้าเล็กน้อย
เธอเสียใจ เสียใจที่ไม่อาจปกป้องเด็กคนนั้นไว้ให้ดีได้
ถ้าตอนนั้นเธอปกป้องเขาเอาไว้ให้ดี ตอนนี้ท้องของเธอคงจะโตขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ?
มายมิ้นท์ก้มหน้าลงแล้วสัมผัสไปที่ท้องส่วนล่างของเธอ ท่าทางของเธอนั้นหดหู่ลง
เปปเปอร์วางตะเกียบลง “เป็นอะไรเหรอครับ?”
ดวงตาของมายมิ้นท์เป็นประกายแล้วส่ายหน้า “ไม่มีอะไรค่ะ”
เปปเปอร์หรี่ตาลงเป็นความหมายว่าไม่เชื่อเธอ
จู่ๆ อารมณ์ของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จากท่าทีอันสงบลดลงสู่จุดต่ำ
เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่การันต์พูดออกมานั้นส่งผลต่ออารมณ์ของเธอ
มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าเปปเปอร์กำลังคิดอะไรอยู่ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามทำให้ตนเองสงบสติอารมณ์ แล้วพูดกับปลายสายว่า “หมอการันต์ ที่จริงฉันยังไม่ได้บอกกับคุณว่าฉันไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลกิตติภัคโสภณ ดังนั้น ลูกของฉันจึงนับไม่ได้ว่าเป็นทายาทของตระกูลกิตติภัคโสภณอย่างแท้จริง มีเพียงลูกของดารามายเท่านั้นที่เป็นทายาทของตระกูลกิตติภัคโสภณ”
“อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง” การันต์จึงได้เข้าใจ “นี่คือวัตถุประสงค์ที่คุณต้องการให้ดารามายมีลูกสินะ”
เดิมทีเขาเข้าใจว่าเธอคิดว่าตนไม่สามารถมีลูกได้ จึงต้องการจะรับลูกน้องสาวเอาไปเลี้ยง
วันนี้เขาจึงตั้งใจจะชี้แจงกับเธออย่างละเอียดว่า ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าเธอมีลูกไม่ได้ เพียงแต่ภายในสองปีนี้เธอโอกาสที่ตั้งครรภ์ค่อนข้างน้อย
มองดูแล้วเหมือนว่าคำอธิบายนั้นจะไม่จำเป็น
“เพราะฉะนั้นคุณยอมรับวิธีที่ผมพูดอย่างที่สอง ให้ดารามายตั้งครรภ์ด้วยตนเอง?” การันต์เอนหลังไปพิงที่พนักเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอย่างผ่อนคลาย
มายมิ้นท์ตอบรับเบาๆ “ใช่ค่ะ ฉันต้องการแบบนั้น ตอนแรกตั้งใจว่าอีกสักพักจะโทรไปปรึกษาคุณและบอกกับการตัดสินใจนี้ แต่คุณโทรมาเสียก่อน”
“โอเคครับ ในเมื่อคุณเลือกวิธีนี้ เดี๋ยวผมจะไปบอกกับแผนกสูติศาสตร์นรีเวชให้พวกเขาหาวิธีในการปรับสภาพร่างกายของผู้หญิงคนนั้นให้เร็วที่สุด และพยายามให้ผู้หญิงคนนั้นตั้งครรภ์ได้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องยีนส์ของฝ่ายชาย คุณมีข้อกำหนดอะไรไหม?” การันต์ถามขึ้นอีกครั้ง
มายมิ้นท์ส่ายหน้า “เรื่องนี้ฉันยังไม่ได้คิดเอาไว้ค่ะ เดิมทีตั้งใจว่าหลังจากที่เอาไข่ของเธอออกมาได้แล้วและส่งไปที่ต่างประเทศ ฉันค่อยหาอสุจิจากคลังอสุจิของชายต่างชาติที่ค่อนข้างยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้ เนื่องจากไม่สามารถนำไข่ออกมาจากท่อนำไข่ได้ รอให้สภาพร่างกายเธอพร้อมที่จะตั้งครรภ์แล้วค่อยจัดการ”
ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน
การันต์เงยหน้าขึ้น “โอเคก็ได้”
หลังจากที่ทั้งสองคนคุยกันเรื่องเตรียมแผนตั้งครรภ์ของดารามายแล้ว สักพักจึงได้วางสายลง
เปปเปอร์เทนมร้อนให้เธอแก้วหนึ่ง “ดื่มอันนี้นะครับ แก้วเมื่อกี้ของคุณเย็นหมดแล้ว”
มายมิ้นท์วางโทรศัพท์มือถือลงแล้วเอื้อมมือไปรับนมมา
บัดนี้นมยังอุ่นอยู่ เมื่อปะทะกับฝ่ามืออันเย็นของเธอ ทำให้ฝ่ามือเธออุ่นขึ้น เธอหันไปยิ้มกับเปปเปอร์ว่า “ขอบคุณค่ะ”
“รีบทานข้าวเถอะครับ เมื่อสักครู่คุณเอาแต่โทรศัพท์ยังไม่ได้กินอะไรเลย” เปปเปอร์เม้มริมฝีปากเรียวบางของเขาแล้วพูดขึ้น น้ำเสียงนั้นเผยถึงความรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
แม้ว่าคนที่โทรมาจะไม่ใช่ศัตรูหัวใจ แต่เป็นเจ้าการันต์นั้น ทว่าเหมือนเขาจะคุยกับเธอนานไปหรือเปล่า?
นานเกินเสียจนเดิมทีเขาไม่ได้คิดอะไรกับการันต์ ก็กลับกลายเป็นว่ามีความคิดอื่นแล้ว
มายมิ้นท์ฟังออกถึงความรู้สึกหึงหวงของเปปเปอร์ และรู้ว่าตอนนี้เขากำลังหึงเธอกับการันต์ จึงอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าและหัวเราะ
หลังจากนั้นเธอก็มองไปยังอาหารเช้าที่วางอยู่ตรงหน้า จากนั้นเอื้อมมือเข้าไปหยิบซาลาเปามาวางไว้ในจานของเขา
เปปเปอร์ก้มลงมองดูซาลาเปาลูกนั้นแล้วมองไปที่มายมิ้นท์ ดวงตาของเขาปรากฏถึงความเบิกบานใจ
เธอตักอาหารให้เขาด้วย
“ตอนนี้ยังรู้สึกหึงอยู่ไหมคะ?” มายมิ้นท์เอามือเท้าคางแล้วมองดูชายหนุ่ม
ชายหนุ่มส่ายหน้าแล้วหยิบซาลาเปาเข้าปาก “ไม่แล้วครับ”
เขายอมรับว่าเมื่อสักครู่ เขาหึงเธอมากเกินไปจริงๆ
เมื่อมายมิ้นท์เห็นว่าเธอเกลี้ยกล่อมเขาได้แล้วก็ยิ้มออกมาเบาๆ “ก่อนกินอาหารต่อเถอะค่ะ”
หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วมายมิ้นท์ก็จัดการเคลียร์โต๊ะ
เปปเปอร์เดินตรงไปที่โซฟาแล้วนั่งลงก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งข้อความไปให้การันต์ ‘คุณพูดอะไรกับมายมิ้นท์ทำให้อารมณ์ของเธอแปรปรวนขนาดนี้?’
ริมฝีปากของเปปเปอร์ขยับเขยื้อนเล็กน้อย “คุณ......”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ เขาก็หยุดลง
มายมิ้นท์ทำท่าทางงุนงง “คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่คะ?”
เปปเปอร์ก้มหน้าลง “ไม่มีอะไรครับ ผมแค่อยากจะบอกว่าคุณใส่ชุดแค่นี้ไม่หนาวเหรอ”
ที่จริงเขาอยากจะพูดว่า อย่าเศร้าโศกไปเลย ในอนาคตพวกเขายังมีลูกด้วยกันได้
ลูกของพวกเขาก่อนหน้านั้น เป็นความผิดเพราะว่าทั้งสองคนเป็นพ่อแม่ที่ไม่ดี
แน่นอนว่าในใจของเปปเปอร์แท้จริงแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เกลียดราเม็ง
ในขณะเดียวกันเขาเองก็รู้ดีว่าต่อให้ราเม็งไม่วางยาพิษมายมิ้นท์ ท้ายที่สุดแล้วเด็กคนนั้นก็แท้งอยู่ดี
เนื่องจากเด็กคนนั้น เกิดขึ้นตอนที่เขายังถูกสะกดจิตอยู่ และยังไม่รู้ตัวว่าเขารักเธอ ดังนั้นเธอจะเอาเด็กคนนั้นออกหรือไม่เขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมาก
ส่วนเธอในตอนนั้นก็ไม่ได้รักเขา ดังนั้นจึงไม่ได้อยากเอาเด็กคนนั้นไว้เพื่อจะเชื่อมโยงทั้งสองคนเข้าด้วยกัน
ด้วยเหตุนี้เอง จากการวิเคราะห์ของเขาเมื่อครู่ ความผิดที่แท้จริงมาจากคนที่เป็นพ่อแม่เช่นพวกเขาทั้งสอง
ตอนนี้เขากลับมาเป็นปกติแล้วและไม่ได้ถูกสะกดจิตอีกต่อไป เขารักเธอจากใจจริง ความรู้สึกที่มีต่อเด็กคนนั้นจึงได้ปรากฏออกมา
คาดว่ามายมิ้นท์เองก็คงเป็นดังนั้น เมื่อเธอตกหลุมรักเขาอีกครั้งเธอจึงได้รู้สึกรักเด็กคนนั้นด้วย เธอรู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกคนนั้นไป
น่าเสียดายที่ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว
หลังจากกลับไป เขาจะไปวัดและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เด็กคนนั้นเป็นการชดเชย
แน่นอนว่าเขาไม่ได้งมงาย
มายมิ้นท์ได้ยินประโยคนั้นของเปปเปอร์ ดวงตาอันงดงามคู่นั้นของเธอก็หรี่ลง
อย่าคิดว่าเธอไม่รู้ สิ่งที่เขาอยากจะพูดจริงๆ คงไม่ใช่เรื่องนี้
เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาเปลี่ยนใจไม่อยากพูด เธอเองก็ไม่อยากถาม จากนั้นจึงเปิดประตูเดินออกไป “ไปกันเถอะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...