มายมิ้นท์ลุกขึ้นมาจากโซฟาอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเดินไปทางห้องนอน “หนูรู้แล้วค่ะท่านย่า ท่านย่าวางใจเถอะค่ะ ถึงท่านย่าจะไม่โทรมาตอนนี้ หนูก็กะว่าจะรีบไปอยู่แล้วค่ะ”
“งั้นก็ดีมากเลย งั้นมิ้นท์เธอรีบไปเถอะ ถ้ามีเรื่องอะไร ก็รีบโทรศัพท์มาหายัยแก่อย่างฉันนะ” ท่านย่าพูดขึ้นมา
มายมิ้นท์รีบพยักหน้าขึ้นมา “วางใจเถอะค่ะ หนูต้องโทรแน่ค่ะ”
“ได้ งั้นย่าฝากเปปเปอร์ไว้กับเธอด้วยนะ” ท่านย่าจับไม้เท้าไว้ด้วยมือหนึ่ง และมืออีกข้างหนึ่งก็ถือโทรศัพท์ไว้แน่น บนใบหน้าที่เหี่ยวย่น เต็มไปด้วยความคาดหวัง “จะต้องห้ามปรามอย่าให้เปปเปอร์ทำเรื่องโง่ ๆ นะ ถ้าเกิดว่าเป็นไปได้ เธอก็ย่าช่วยชี้แนะเขาสักหน่อย ให้เขาหลุดออกมาจากเรื่องที่แม่เขาฆ่าตัวตายให้ได้นะ”
“หนูจะพยายามค่ะ” มายมิ้นท์ตอบกลับไป
ท่านย่าวางโทรศัพท์ไปด้วยความปลาบปลื้มใจ
ป้าแดงเทชามาให้แก้วหนึ่ง พอเห็นท่าทีของท่านย่า ก็ยิ้มตามขึ้นมาด้วย “ท่านย่า วางใจเถอะค่ะ คุณนายน้อยจะต้องไม่มีปัญหาแน่นอน จะต้องทำให้คุณชายใหญ่หลุดออกมาจากภาพฝังใจได้แน่นอนค่ะ”
“หวังให้เป็นเช่นนั้นเถอะ” ท่านย่ารับชามาจิบไปคำหนึ่ง แล้วพึมพำขึ้นว่า “ฉันก็ไม่ได้ไม่เชื่อในตัวมิ้นท์ เพียงแต่ว่าเปปเปอร์ติดอยู่ในภาพฝังใจในการฆ่าตัวตายของแม่เขามานานหลายสิบปีแล้ว ไม่มีทางที่จะทำให้เขาหลุดออกมาได้ภายในครั้งเดียวหรอกนะ”
“แต่ว่าฉันเชื่อค่ะ ขอแค่คุณชายใหญ่สามารถฟังคำชี้แนะของคุณนายน้อยเข้าไปได้ ต่อไปอาการของคุณชายใหญ่ ก็จะมีขึ้นไม่น้อยเลยค่ะ” ป้าแดงเดินมาถึงข้างกายท่าน และบีบนวดไหล่ให้ท่านแล้วพูดไป
ท่านย่าพยักหน้าเล็กน้อย “มันก็ใช่อยู่ หวังว่าวันนี้มิ้นท์จะได้เจอกับเปปเปอร์อย่างราบรื่นนะ ขอแค่ได้เจอกับเปปเปอร์อย่างราบรื่น สิ่งที่พวกเราพูดกันก็จะมีโอกาสเป็นไปได้ แต่ถ้าไม่เจอ……”
“ท่านย่าอย่าคิดมากเลยค่ะ คุณนายน้อยจะต้องได้เจอคุณชายใหญ่แน่นอนค่ะ” ป้าแดงรีบพูดขัดความกังวลของท่านย่าไป “คุณชายใหญ่รักคุณนายน้อยซะขนาดนั้น ไม่มีทางไม่เจอคุณนายน้อยหรอกค่ะ”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นนะ” ท่านย่าหรี่เปลือกตาลง แล้วก็เป่าใบชาในแก้วน้ำชาไปเบา ๆ
ที่คอนโดพราวฟ้า มายมิ้นท์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็กางร่มไว้เตรียมจะออกจากบ้านไป
พอเธอเปิดประตูออก อากาศหนาวเย็นสายหนึ่งก็พุ่งปะทะเข้ามา หนาวจนเธออดมาได้ที่จะตัวสั่นเทาขึ้นมาครู่หนึ่ง
“หนาวจังเลย!” มายมิ้นท์ถูฝ่ามือเล็กน้อย บนใบหน้าก็หนาวจนขาวซีดไปแล้ว
แต่ทำอะไรไม่ได้ ถึงจะหนาวมากแค่ไหน เธอก็จะต้องรีบไปอยู่ดี
มายมิ้นท์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ครู่หนึ่ง พอเป่าไออุ่นใส่มือแล้ว ก็ก้าวเท้าออกจากบ้านไปเลย
แต่ว่าพอเธอก้าวเท้าออกไปได้ข้างหนึ่งนั้น อยู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วก็เก็บเท้ากลับมา แล้วก็หมุนตัวเดินเข้าห้องนอนไป
หนึ่งนาทีให้หลัง ในมือของเธอมีถุงเพิ่มขึ้นใบหนึ่ง แล้วถึงได้ออกจากบ้านไป พอที่เดินไปทางลิฟต์ เธอเดินไปด้วย และโทรศัพท์หาเปปเปอร์ไปด้วย
เปปเปอร์เคยรับปากกับเธอไว้ ว่าวันนี้จะไม่ปิดเครื่องโทรศัพท์
ดังนั้น เธอก็น่าจะติดต่อเขาได้นะ
แต่ว่าความจริงกลับปรากฏว่า โทรศัพท์ของเขาก็ยังปิดเครื่องไปอยู่ดี
นี่ทำให้มายมิ้นท์ทั้งโกรธทั้งเป็นกังวล
ที่โกรธเพราะเรื่องที่เขาเคยรับปากกับเธอไว้ แต่กลับทำไม่ได้
ส่วนเรื่องที่เป็นกังวลคือ เธอติดต่อเขาไม่ได้ และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง
ไม่มีทางเลือก มายมิ้นท์จึงได้แต่ต้องโทรศัพท์หาผู้ช่วยเหมันตร์แล้ว
แต่ว่าครั้งนี้โชคดีมาก โทรศัพท์ของผู้ช่วยเหมันตร์โทรติดแล้ว “คุณมายมิ้นท์”
“ผู้ช่วยเหมันตร์ เปปเปอร์อยู่ที่ตึกทรีพ็อตหรือเปล่าคะ?” มายมิ้นท์ก็ไม่ได้เป็นแบบตอนปกติ ที่จะกล่าวทักทายคนอื่นก่อน แต่กลับเปิดอกถามออกไปตรง ๆ ถึงเรื่องที่ตัวเองต้องการยืนยันในตอนนี้เลย
ในเมื่อตอนนี้ เธอเป็นห่วงเปปเปอร์มาก ยังจะไปสนใจเรื่องอย่างอื่นได้ยังไงกัน
พอผู้ช่วยเหมันตร์ได้ยินคำถามของมายมิ้นท์ก็รีบพยักหน้าขึ้นมาทันที “อยู่ครับ ประธานเปปเปอร์ไปที่ตึกทรีพ็อตตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จนตอนนี้ยังไม่ได้ออกมาเลยครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่ใต้ตึกตึกทรีพ็อต และได้ไปเคาะประตูหลายครั้งแล้ว แต่ประธานเปปเปอร์ก็ไม่เปิดประตูให้เลยครับ เมื่อกี้ผมเพิ่งจะโทรศัพท์หาท่านย่า แต่ไม่รู้ทำไม เบอร์ของท่านย่าก็โทรไม่ติดเลยครับ”
คราวนี้มายมิ้นท์เข้าใจแล้วว่าทำไมท่านย่าถึงบอกว่าโทรศัพท์ของผู้ช่วยเหมันตร์โทรไม่ติด คิดว่าตอนที่ท่านย่าโทรหาผู้ช่วยเหมันตร์นั้น ผู้ช่วยเหมันตร์ก็บังเอิญโทรหาท่านย่าด้วยพอดี สายของทั้งคู่จึงชนกัน
“ได้ ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย” พอมายมิ้นท์ยืนยันตำแหน่งของเปปเปอร์ได้แล้ว ในใจก็พอจะโล่งอกไปได้บ้าง
ขอแค่เปปเปอร์อยู่ที่ตึกทรีพ็อตจริง ๆ และไม่ได้ไปอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้ก็พอแล้ว
“ได้ครับ คุณมายมิ้นท์มาได้เลย เดี๋ยวผมรอคุณอยู่ทางนี้นะครับ” พอผู้ช่วยเหมันตร์ได้ยินว่ามายมิ้นท์จะมา ก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที
พวกเขาเจอกับเปปเปอร์ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณมายมิ้นท์จะเจอไม่ได้นี่
ในเมื่ออยู่ในใจของเปปเปอร์นั้น ยังไงคุณมายมิ้นท์ก็ยังพิเศษอยู่
“ได้ รบกวนคุณด้วยนะคะ อ๋อ ใช่แล้ว คุณมีกุญแจของอพาร์ทเม้นหรือเปล่าคะ?” มายมิ้นท์ถามขึ้นมาอีก
ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหน้าขึ้นอย่างเสียใจ “ไม่มีครับ ก่อนหน้านี้ประธานเปปเปอร์ไม่ค่อยได้มาพักอยู่ที่นี่ ดังนั้นผมก็เลยไม่มีกุญแจของที่นี่เลยครับ”
มายมิ้นท์พยักหน้าขึ้นมา จากนั้นก็มองไปที่ช่างไขกุญแจ “ช่างคะ รบกวนด้วยค่ะ”
“คุณหนู เกรงใจกันเกินไปแล้วครับ” ช่างไขกุญแจสะบัดมือเล็กน้อย แล้วก็วางกระเป๋าเครื่องมือไขกุญแจที่อยู่บนไหล่ลง แล้วเปิดออก และเอาเครื่องมือออกมาเริ่มไขกุญแจขึ้นมา
ไม่นาน กุญแจก็ไขได้แล้ว
มายมิ้นท์รีบผลักประตูเปิดออกทันที
พอผลักออก สิ่งของอย่างหนึ่งก็กลิ้งออกมา แล้วกลิ้งมาถึงเท้าเธอพอดี
เธอก้มหน้ามองไป ก็เห็นว่าเป็นขวดไวน์แดงขวดหนึ่ง
เธอขมวดคิ้วขึ้นมา แล้วโน้นตัวลงไปเก็บขวดเหล้าขึ้นมา ในขวดไม่มีเหล้าแล้ว เหลืออยู่แต่ขวดเปล่าขวดเดียว
ดูจากแบบนี้แล้ว เมื่อคืนเปปเปอร์น่าจะดื่มเหล้าหมดไปทั้งขวดเลย!
หัวคิ้วของมายมิ้นท์ขมวดเข้าหากันลึกขึ้น แล้วก็เอาขวดเหล้าวางไว้บนชั้นวางรองเท้า แล้วก้าวยาว ๆ เดินเข้าประตูไป
พอเดินเข้าไป กลิ่นเหล้าที่รุนแรงและฉุนจมูกก็ลอยพุ่งเข้ามา ไม่เพียงเท่านั้น บนพื้นในห้องรับแขก ก็ยังมีขวดไวน์แดงกองอยู่หลายขวด
ซึ่งก็หมายความว่า เมื่อคืนเปปเปอร์ไม่ได้ดื่มไปแค่ขวดเดียว แต่ดื่มไปหลายขวดเลย
บางทีที่นี่ อาจจะยังไม่ใช่ทั้งหมดก็ได้
นี่เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ?
ใบหน้าเรียวเล็กของมายมิ้นท์บึ้งตึงขึ้นมา สีหน้าก็ดูแย่มาก
เธอมองซ้ายมองขวาประเมินห้องรับแขกไป แล้วมองหาเงาของเปปเปอร์ไปด้วย แต่พอกวาดตามองหาไปรอบหนึ่ง ก็มองไม่เห็นตัวเขาเลย
และเพนท์เฮ้าส์ชุดนี้ก็ใหญ่มากด้วย กว้างแปดร้อยกว่าตารางเมตร แล้วห้องก็มีหลายห้อง ถ้าเกิดว่าตัวเองตามหาทีละห้องทีละห้อง ก็จะต้องใช้เวลานานมาก
ไม่มีทางเลือกแล้ว มายมิ้นท์ก็เลยต้องเรียกผู้ช่วยเหมันตร์เข้ามา ให้เขามาช่วยตัวเองหาพร้อมกัน
หากันสองคนกับหาคนเดียวนั้น ความรวดเร็วมันเร็วขึ้นมาไม่น้อย สุดท้ายผู้ช่วยเหมันตร์ก็หาเปปเปอร์เจอที่ตรงห้องหนังสือ
“คุณมายมิ้นท์ครับ ทางนี้ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องหนังสือ แล้วก็ตะโกนไปให้มายมิ้นท์ที่อยู่อีกห้องหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...