หลังจากมายมิ้นท์รับมา ก็คลี่ผ้าออก แล้วห่มให้เปปเปอร์
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังให้ผู้ช่วยเหมันตร์เปิดฮีตเตอร์ของห้องหนังสือด้วย ถึงสบายใจได้อย่างเต็มที่
ผู้ช่วยเหมันตร์เห็นเธอปฏิบัติกับเปปเปอร์อย่างรอบคอบเช่นนี้ ในใจก็ปลาบปลื้ม
แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ประธานเปปเปอร์ทุ่มเทให้คุณมายมิ้นท์ ในที่สุดก็มีการตอบสนองแล้ว
มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าผู้ช่วยเหมันตร์กำลังคิดอะไรอยู่ เธอนั่งอยู่ข้างกายเปปเปอร์ กำลังเอี้ยวตัวมองเขา
ใบหน้าของเขาในตอนนี้แดงระเรื่อ เป็นผลมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่ใต้ตา กลับเขียวคล้ำไปหมด เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืน เอาแต่ดื่มลูกเดียว
ยังดีที่ดื่มแต่ไวน์แดง ไม่งั้นดื่มไปทั้งคืนขนาดนี้ ตอนนี้ถ้าเขาไม่ตายก็คงเข้าโรงพยาบาลไปแล้วแน่ๆ
นึกถึงผลที่ตามมาอย่างนั้น มายมิ้นท์จึงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
แล้วจู่ๆ มือถือก็ดังขึ้น
มายมิ้นท์จึงหยุดยั้งความคิดในหัว หยิบมือถือออกมาจากในกระเป๋า
ท่านย่าเป็นคนที่โทรเข้ามา คงจะโทรมาถามสถานการณ์ของเปปเปอร์สินะ
มายมิ้นท์ไม่ลังเล กดรับทันที “ท่านย่าคะ”
“มิ้นท์ เจอเปปเปอร์หรือยัง?” ปลายสายด้านนั้น ท่านย่าถามขึ้นด้วยความร้อนใจ
มายมิ้นท์พยักหน้า “เจอแล้วค่ะ”
“งั้นเหรอ ดีๆ แล้วตอนนี้เปปเปอร์เป็นยังไงบ้าง? เขาได้ทำอะไรโง่ๆไหม?” ท่านย่ากำไม้เท้าแน่น ถามต่อ
มายมิ้นท์ก้มหน้ามองเปปเปอร์ “เขาดื่มไวน์ไปค่ะ นอกจากดื่มแล้ว ตอนนี้ยังไม่ทันได้ทำเรื่องโง่ๆค่ะ”
“ไม่ได้ทำเรื่องโง่ๆ?” ท่านย่ายังคงไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
รู้อยู่แล้วว่าทุกๆปีก่อน เปปเปอร์ต้องดื่มเหล้า แต่เมื่อความแรงของแอลกอฮอล์ไม่เพียงพอที่จะทำให้เมาได้ เขาก็จะเริ่มทำร้ายตัวเอง
แต่คราวนี้ ไม่นึกว่าเปปเปอร์จะแค่ดื่มไวน์ ทั้งยังไม่ได้ทำร้ายตัวเอง นี่ทำให้เธอไม่ค่อยกล้าเชื่อจริงๆ
“ใช่ค่ะ” มายมิ้นท์พยักหน้า “ผู้ช่วยเหมันตร์บอกว่า เพราะเปปเปอร์ดื่มจนเมา ถึงไม่ทันได้ทำร้ายตัวเองค่ะ”
“เป็นไปไม่ได้!” ท่านย่าลุกขึ้นยืนทันที
มายมิ้นท์ชะงัก “ท่านย่า เกิดอะไรขึ้นคะ?”
สีหน้าของท่านย่าค่อนข้างผิดปกติ “มิ้นท์ บอกย่ามา เปปเปอร์ดื่มเหล้าอะไร?”
“ดื่มไวน์แดงค่ะ” มายมิ้นท์ตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล
ผู้ช่วยเหมันตร์ที่อยู่ด้านข้างสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย กำมือแน่น
แย่แล้ว ท่านย่าไม่ใช่คุณมายมิ้นท์ เธอรู้อยู่แล้วว่าต่อให้ประธานเปปเปอร์จะดื่มไวน์แดงกี่ขวดเขาก็ไม่มีทางเมา
แต่ตอนนี้ประธานเปปเปอร์ดันดื่มไวน์แดงจนเมาซะได้ ถ้าท่านย่าไม่สงสัยว่ามีปัญหาสิถึงจะแปลก
อย่างที่คิดเลย เมื่อท่านย่าได้ฟังคำตอบของมายมิ้นท์แล้ว มือที่กำลังจับมือถืออยู่ ก็จับแน่นขึ้น “นี่เป็นไปไม่ได้ เปปเปอร์คอแข็งมาก จะเป็นไปได้ยังไงที่ดื่มไวน์แดงไม่กี่ขวดก็เมาแล้ว? มิ้นท์ เหมันตร์อยู่ข้างๆเราหรือเปล่า?”
“อยู่ค่ะ” มายมิ้นท์มองไปที่ผู้ช่วยเหมันตร์
ท่านย่าสีหน้าเคร่งขรึม “ส่งมือถือไปให้เขาที ย่ามีเรื่องจะถามเขาหน่อย”
“ค่ะ ท่านย่ารอสักครู่นะคะ” มายมิ้นท์เอามือถือออกมาจากข้างหู แล้วส่งไปให้ผู้ช่วยเหมันตร์ “ผู้ช่วยเหมันตร์ ท่านย่าอยากคุยกับคุณค่ะ”
ผู้ช่วยเหมันตร์รู้อยู่แล้วว่าอะไรที่มันจะเกิดสุดท้ายก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก็ฝืนยิ้มรับมือถือมา “ท่านย่าครับ”
จากนั้นเขาก็เดินออกไปนอกห้องหนังสือ
มายมิ้นท์มองแผ่นหลังของเขาอย่างไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกด้วย
แต่ทว่าก็ไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากจัดผมให้เปปเปอร์เสร็จ จึงลุกขึ้นไปที่ห้องน้ำ เตรียมรองน้ำออกมา เช็ดหน้าให้เขา
ที่ระเบียงด้านนอก หลังจากผู้ช่วยเหมันตร์ปิดประตูระเบียงแล้ว ถึงได้ตอบคำถามของท่านย่าอย่างสบายใจสักที “ท่านย่าครับ ประธานเปปเปอร์ดื่มไวน์แดงจนเมาจริงๆครับ”
“เหมันตร์ นายยังกล้าหลอกฉันอีกเหรอ?” ปลายสายด้านนั้น สีหน้าของท่านย่าแย่มากๆ“เปปเปอร์ไม่มีทางดื่มไวน์แดงจนเมาอยู่แล้ว นายบอกฉันมาตามตรง เปปเปอร์แอบเก็บเหล้าแรงๆอย่างอื่นเอาไว้ส่วนตัวใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหน้า “ท่านย่า ประธานเปปเปอร์ไม่ได้ซื้อเหล้าแรงๆอย่างอื่นเอาไว้จริงๆครับ”
“งั้นนายบอกฉันมา ทำไมเขาถึงเมาได้?” ท่านย่าถามขึ้น
ผู้ช่วยเหมันตร์ได้ยินน้ำเสียงของป้าแดง ก็เดาได้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ของท่านย่าแล้ว
ท่านย่า เป็นลมไปแล้วจริงๆ
ลำบากแล้วสิ!
สีหน้าของผู้ช่วยเหมันตร์ตึงเครียดสุดๆ เอามือถือลงมาจากข้างหู ต่อสายขอความช่วยเหลือ แล้วกลับไปที่ห้องหนังสือ คืนมือถือให้มายมิ้นท์ พูดขึ้นด้วยท่าทีเร่งรีบ: “คุณมายมิ้นท์ รบกวนคุณดูแลประธานเปปเปอร์ด้วยนะครับ ผมต้องกลับไปที่คฤหาสน์ด้านนั้นหน่อย”
มายมิ้นท์เห็นท่าทีของเขา ได้ยินเขาบอกว่าต้องกลับไปที่คฤหาสน์ จึงประหม่าขึ้นมาทันที “เกิดอะไรขึ้นกับท่านย่าใช่ไหมคะ?”
“เหมือนท่านย่าจะเป็นลมไปแล้วครับ”
“อะไรนะ?” มายมิ้นท์เสียงสูงขึ้น “เป็นลมไปแล้วงั้นเหรอ? ป......เป็นลมไปได้ยังไง? เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”
“เป็นความผิดของผมทั้งหมดครับ เป็นผมเองที่พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดพวกนั้น” ผู้ช่วยเหมันตร์ตำหนิตัวเองแล้วตบหน้าของตัวเอง “ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ผมจะไม่พูดเด็ดขาด”
เขาไม่ควรเอาแต่คิดในแง่ดี ว่าเรื่องของประธานเปปเปอร์ ช้าเร็วท่านย่าก็ต้องรู้อยู่แล้ว ถึงบอกไปตอนนี้ก็คงไม่เป็นไรหรอก
แต่ตอนนี้เขาเสียใจแล้ว เสียใจจริงๆ
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าท่านย่าจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า ลำพังแค่หลังจากประธานเปปเปอร์ตื่นขึ้นมา เขาคงจนปัญญาที่จะอธิบายได้อย่างชัดเจน
“คุณบอกอะไรท่านย่าไปกันแน่?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วถามขึ้น
ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหน้า “คุณมายมิ้นท์อย่าถามอีกเลยครับ ผมบอกไม่ได้ ผมทำให้ท่านย่าเป็นลมไปแล้ว ถ้าทำให้คุณ......ช่างเถอะครับ ไม่มีเวลาคุยกับคุณแล้ว ผมต้องรีบไปดูสถานการณ์ของท่านย่าก่อน ประธานเปปเปอร์ที่ด้านนี้ ฝากคุณด้วยนะครับ”
ถึงมายมิ้นท์จะเป็นห่วงท่านย่า แต่เปปเปอร์ที่ด้านนี้ก็ทำให้เธอทิ้งไปไม่ได้จริงๆ พยักหน้าตอบกลับไป “ค่ะ ฉันจะดูแลเขาเอง คุณวางใจเถอะ ท่านย่าที่ด้านนั้นฝากคุณด้วยนะคะ ถ้ามีอะไร โทรมาหาฉันได้เลย”
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พูดจบ ก็หมุนตัวรีบเดินออกไป
มายมิ้นท์มองเปปเปอร์ จับมือของเปปเปอร์แน่น พึมพำออกมา: “บนร่างกายของคุณเกิดเรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้กันแน่ ถึงทำให้ท่านย่าฟังแล้วเป็นลมไปเลย?”
คำถามของมายมิ้นท์ ถูกลิขิตให้ไม่ได้รับคำตอบ เพราะเปปเปอร์ยังไม่ตื่นขึ้นมา
ตอนนี้เขากำลังตกอยู่ท่ามกลางฝันร้ายหาทางเดินออกมาไม่ได้
แต่แทนที่จะบอกว่านั่นเป็นฝันร้าย สู้บอกว่าเป็นเหตุการณ์ที่เจอมากับตนเองอย่างไม่มีข้อกังขาดีกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...