รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 688

อย่างไรก็ตาม ดารามายไม่เพียงแต่ไม่ตกใจกลัวถึงท่าทางและคำพูดอันสง่างามเมื่อครู่ของหล่อน ในทางกลับกันได้แต่เบ้ริมฝีปาก ก้าวขาไปทางโต๊ะทำงานของมายมิ้นท์

มายมิ้นท์กำมือแน่น น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจและโมโห “ดารามาย กล้าขัดคำพูดของฉันเหรอ?”

ดารามายหัวเราะเยาะเย้ย “แล้วทำไมฉันต้องฟังคำพูดของเธอด้วย เธอคิดว่าตัวเองเป็นพี่สาวของฉันจริงๆ หรือไง ก็แค่ ลูกนอกคอกคนหนึ่ง คิดว่าเหมาะแล้วที่จะเป็นพี่สาวของฉันเหรอ หึๆ!”

รูม่านตาของมายมิ้นท์หดตัวลง “เธอ……”

“แปลกใจเหรอว่าฉันรู้ได้ยังไงเรื่องที่แกไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของคุณพ่อ?” ดารามายยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของมายมิ้นท์ พร้อมกับยืนกอดอกพูดจาประชดประชัน

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา

ท่าทางของเธอเช่นนี้ ในสายตาของดารามายนั่นก็หมายความว่ายอมรับ

ดารามายยกมือขึ้นสะบัดผมลอนที่เพิ่งย้อมเป็นสีแดงม่วงของเธอ “ตอนแรกฉันก็ไม่รู้หรอกเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเธอน่ะ และคิดว่าเธอเป็นลูกสาวของคุณพ่อจริงๆ จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนฉันได้ยินเรื่องราวบางอย่างที่โรงพยาบาล ก่อนจะรู้สึกสนใจกับร่างกายของเธอขึ้นมา ฉันก็คิดไปว่าทำไมไตของเธอถึงเข้ากับเยี่ยมบุญได้ ดังนั้นฉันก็เลยไปตรวจสอบข้อมูล ร่างกายของเธอ พบว่ากรุ๊ปเลือดของเธอกับคุณพ่อแตกต่างกันมาก คุณพ่อกรุ๊ปเลือดบี ไม่สามารถมีลูกกรุ๊ปเลือดของเธอได้เลย ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่ลูกสาวของคุณพ่อ นั่นก็หมายความว่า แม่ของเธอไปผสมพันธุ์กับผู้ชายคนอื่นมา!”

“อย่าใส่ร้ายแม่ของฉันนะ!” สีหน้าของมายมิ้นท์เปลี่ยนไปกะทันหัน เธอเอามือทุบไปที่โต๊ะ

น้ำเสียงนั้นทำให้ดารามายที่เตรียมตัวเตรียมใจมาพร้อมแล้วอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นและหน้าซีด “เธอ…… เธอทำท่าทางตื่นเต้นแบบนั้นทำไม!”

ดวงตาทั้งคู่ของมายมิ้นท์แดงเรื่อ จ้องมองไปที่หล่อนด้วยความเย็นชา “ขอโทษแม่ฉันเดี๋ยวนี้!”

“เพราะอะไรล่ะ?” ดารามายยืดคอตรง เธอรู้สึกไม่พอใจขึ้นทันที

มือของมายมิ้นท์ที่วางอยู่บนโต๊ะกำแก้วน้ำเอาไว้ น้ำเสียงของเธอเยือกเย็นราวกับขุมนรกน้ำแข็ง “เพราะเธอดูถูกแม่ของฉัน!”

ดารามายกลอกตามอง ใบหน้าของหล่อนเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันดูถูกเหยียดหยาม “ฉันไม่ได้ดูถูกแม่ของเธอเลยนะ ฉันก็แค่พูดเรื่องจริง ไม่อย่างนั้นทำไมกรุ๊ปเลือกของเธอถึงเป็นกรุ๊ปเลือดนี้ล่ะ เห็นได้ชัดว่าแม่ของเธอนะมีชู้ หักหลังคุณพ่อ น่าสงสารคุณพ่อเหลือเกินที่ถูกหลอกลวงมาทั้งชีวิต เก็บเมล็ดพันธุ์ข้างทางมาเลี้ยงจนโต เพราะฉะนั้นมายมิ้นท์แม่ของเธอน่ะ ช่างต่ำ กรี๊ด!”

เธอยังไม่ทันพูดจบ มายมิ้นท์ก็ไม่อาจทนฟังได้อีกต่อไป เธอใช้มือออกแรงทุบแก้วน้ำที่อยู่ในมือใบนั้น

แก้วน้ำกระทบไปที่หน้าผากของดารามายจนทำให้เกิดบาดแผล เลือดผสมกับน้ำไหลลงมา มองไปช่างน่าสมเพชเวทนาเหลือเกิน

ดารามายตกใจถอยหลังออกไปสองก้าว รองเท้าส้นสูงของเธอสะดุดเข้ากับพรม จึงทำให้ไม่อาจทรงตัวได้และล้มลงก้นกระแทกพื้น

แต่เธอไม่มีเวลาสนใจกับความเจ็บปวดที่ก้น เธอรีบใช้มือสัมผัสไปยังของเหลวที่กำลังจะไหลลงมาจากใบหน้า พบว่ามันเปียก!

เธอนำมือออกมาดูพบว่าบนมือของเธอนั้นมีเลือด จึงได้กรีดร้องด้วยความตกใจว่า “กรี๊ด! ฉันเลือดออก ฉันเลือดออก!”

มายมิ้นท์ยืนเอามือทั้งสองข้างค้ำโต๊ะเอาไว้ เนื่องจากความโมโหเมื่อครู่ยังไม่คลายลง ตอนนี้เธอจึงหายใจหอบหนัก

ขณะที่เธอหายใจหอบนั้นก็ได้เหลือบไปมองดูดารามายที่บ้าคลั่ง และไม่รู้สึกเสียใจกับการกระทำของตนเองเมื่อครู่เลย

ใครสั่งให้ดารามายมาดูถูกแม่ของเธอล่ะ?

แม่ของเธอ ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาดูถูกดูแคลนทั้งนั้น!

“มายมิ้นท์ แกกล้าทำร้ายฉัน แกกล้าทำให้ฉันเลือดออกได้ยังไง!” ดารามายพยายามลุกขึ้นจากพื้น เธอหันมองซ้ายขวาแล้วพบที่ใส่ปากกาไม้แข็งวางอยู่บนโต๊ะของมายมิ้นท์ ดวงตาของเธอแฝงด้วยความขุ่นเคือง แล้วคว้าไปยังที่ใส่ปากกานั้นก่อนจะออกแรงขว้างไปที่มายมิ้นท์

มายมิ้นท์รู้ดีว่าดารามายผู้หญิงคนนี้เธอเป็นคนที่อาฆาตแค้น และรู้ดีว่าเมื่อครู่ที่ตนทำร้ายเธอไป เธอคงจะต้องเอาคืนแน่นอน

ดังนั้นเธอจึงเตรียมรับมือตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อเห็นที่ใส่ปากกาพุ่งมาทางตน เธอก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด กลับหันไปทางด้านข้างอย่างสงบเพื่อหลีกที่ใส่ปากกานั้น

ที่ใส่ปากกากระแทกเข้ากับชั้นวางหนังสือด้านหลังของมายมิ้นท์ ทำให้กระจกของตู้หนังสือแตกเกิดเป็นเสียงดังสนั่น

เลขาซินดี้ซึ่งอยู่ในห้องข้างๆ ได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปดูสถานการณ์ “ท่านประธานคะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เมื่อเห็นมายมิ้นท์และดารามายยืนเผชิญหน้ากัน เธอก็เข้าใจทันทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ใบหน้าของดารามายบิดเบี้ยวชั่วร้ายราวกับปิศาจ คาดว่าคงมาเพื่อก่อกวนท่านประธาน

ดูเหมือนมายมิ้นท์ไม่ได้ตั้งใจจะตบเธอเพียงแค่ครั้งหนึ่งแล้วปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป หล่อนย่อตัวลงมาใช้มือซ้ายจับไปที่คางของดารามาย บังคับให้ใบหน้าของดารามายหันมา แล้วใช้มือขวาตบลงไปอีกครั้ง

น้ำเสียงอันดังสนั่นสองสามทีดังขึ้น มายมิ้นท์ตบซ้ายตบขวาทำให้ใบหน้าของดารามายบวมแดงทันที

ในที่สุดดารามายก็ได้สติกลับคืนมา เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตนเองถูกตบตีเหมือนกับสุนัขข้างถนน ขณะที่เธอรู้สึกโกรธก็ยิ่งรู้สึกอับอายเสียมากกว่า

เธอผลักมายมิ้นท์อย่างแรง แล้วกรีดร้องพุ่งตัวไปทางมายมิ้นท์ “มายมิ้นท์ นังคนสารเลว แกกล้าตบฉัน? ฉันจะฆ่าแกให้ดู!”

ด้านนอกประตู เมื่อเลขาซินดี้ได้ยินประโยคนี้เธอก็ลังเลแล้วรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว “เข้าไปกุมตัวหล่อนเอาไว้ อย่าให้เธอทำร้ายประธานมายมิ้นท์อีก!”

“ครับ!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนตอบรับและรีบผลักประตูเข้าไปกุมมือทั้งสองข้างของดารามายเอาไว้ที่ข้างหลัง แล้วดึงตัวดารามายออกมาให้ห่างจากมายมิ้นท์

มายมิ้นท์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแล้วขยับข้อมือที่ใช้แรงอย่างแข็งแกร่งเมื่อคู่ในการตบหน้าดารามาย สายตามองไปที่ดารามายอย่างเยือกเย็น

ดารามายไม่สูงเท่ากับเธอ และความแข็งแกร่งก็สู้ไม่ได้

แต่เมื่อคนคนหนึ่งเกิดความคลั่งขึ้นมา พลังและความแข็งแกร่งของคนผู้นั้นจะเพิ่มเป็นสองเท่า

เมื่อครู่ดารามายก็เป็นเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าถูกหล่อนตบเสียจนไม่ได้สติ เรี่ยวแรงเหล่านั้นจึงเกิดขึ้นเนื่องจากจะต่อต้านที่ถูกตบ

หากไม่ใช่เพราะเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทั้งสองเข้ามาได้ทันเวลา เกรงว่าท้ายที่สุดแล้ว หล่อนคงจะถูกดารามายตบเอาจนได้

“กรี๊ด! ปล่อยฉันนะ พวกแกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ รู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นรองประธานของเทนเดอร์กรุ๊ปตัวจริง เป็นเจ้าของที่แท้จริงของเทนเดอร์กรุ๊ป แกกล้าทำแบบนี้กับฉัน? ฉันจะทำให้ทุกคนต้องเห็นดีกัน!” ดารามายพยายามดิ้นให้หลุดออกจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคน เธอพลางดิ้นพลางร้องคำรามออกมาด้วยดวงตาเบิกกว้าง

มายมิ้นท์ขยิบตาเป็นสัญญาณให้แก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองว่าให้พวกเขาไม่ต้องจัดการกับดารามาย เพียงแค่เอาตัวเธอไปก็พอ

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าใจความหมายของเธอ ถึงอย่างไรประธานและรองประธานใครใหญ่กว่ากันพวกเขาก็แยกออก

“เจ้าของที่แท้จริงของเทนเดอร์กรุ๊ป?” มายมิ้นท์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของดารามายที่ถูกจับตัวเอาไว้ เธอหัวเราะเยาะเย้ยออกมา “ประโยคนี้เธอกล้าดีอย่างไรที่จะพูดมันออกมา เพียงเพราะมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์อยู่ในมือ มีคุณสมบัติอะไรจะพูดว่าเธอเป็นเจ้าของเทนเดอร์กรุ๊ป?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว