รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 725

จากนั้น เธอก็จ้องเขม็งใส่เขา ในดวงตาเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า : คุณจะมาหัวเราะอะไร? ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก เป็นเพราะคุณทั้งนั้นเลย ไม่มีเรื่องอะไรก็มุดลงมาใต้โต๊ะ ทำให้เธอต้องขายหน้าไปด้วยเลย

เปปเปอร์ลูบใบหน้าของมายมิ้นท์ไปเล็กน้อย จากนั้นก็ชิดเข้าไปใกล้ที่ข้างหูของเธอ แล้วใช้น้ำเสียงที่มีแต่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยินพูดขึ้นว่า “อย่ากังวลไปเลย ไม่มีทางโดนจับได้หรอก”

“คุณรู้ได้ยังไงคะ?” เห็นได้ชัดว่ามายมิ้นท์ไม่ค่อยเชื่อซะเท่าไหร่

เรียวปากของเปปเปอร์ขยับเล็กน้อย กำลังอยากจะพูดอะไร บนเหนือหัวก็มีเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่มีนี่ มีคนที่ไหนกัน?” พนักงานที่ถูกเรียกว่ามิลลี่หันมองซ้ายมองขวาไป “ที่นี่มีแค่เราสองคนเองนี่ เธอคงไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม”

“ที่นี่มีแต่เราสองคน แต่ว่าเมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงคนพูดกันนะ” พนักงานหญิงที่เริ่มพูดขึ้นคนแรก พอพูดมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ยกสะบัดมือขึ้นมา “ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่เสียงพูด แต่เป็นเสียงอืมคำหนึ่ง ใช่ คือเสียงอืมคำหนึ่ง”

“เสียงอืมคำหนึ่งเหรอ?” มิลลี่กะพริบตาเล็กน้อย “ทำไมฉันถึงไม่ได้ยินล่ะ เธอฟังผิดไปหรือเปล่า?”

“ไม่มีทาง ฉันไม่มีทางฟังผิดแน่” พนักงานหญิงส่ายหน้าขึ้นอย่างมั่นใจเป็นอย่างมาก

“งั้นก็แปลกแล้วล่ะซิ ไม่มีคน แต่ว่ามีเสียง คงจะไม่ใช่……” มิลลี่ตัวสั่นขึ้นมาทีหนึ่ง น้ำเสียงก็เริ่มสั่นเทาขึ้นมา “คงจะไม่ใช่ผีหรอกนะ!”

“อ๊าก!” พนักงานหญิงตกใจจนร้องขึ้นมาคำหนึ่ง สีหน้าก็ซีดเผือด “ถุย ถุย ถุย มิลลี่เธออย่าพูดไปเรื่อยนะ มีผีที่ไหนกัน นี่มันกลางวันแสก ๆ นะ เธออย่ามาหลอกฉันนะ”

“ฉันไม่ได้กำลังหลอกเธออยู่นะ ก็เธอเป็นคนพูดเองว่ามีเสียง แต่ว่าที่นี่มีแค่เราสองคน งั้นเสียงนี้มันจะมาจากไหนได้ล่ะ? นอกจากผีแล้ว ฉันนึกอย่างอื่นไม่ออกเลย” มิลลี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

พนักงานหญิงกลืนน้ำลายลงไปครู่หนึ่ง “คงจะไม่……ไม่ได้มีผีจริง ๆ หรอกนะ?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ” มิลลี่เองก็ส่ายหน้าขึ้นมาอย่างหวาดกลัว

พนักงานหญิงกำผ้าขี้ริ้วที่อยู่มือ กำแล้วกำอีก “คือว่าอะไรนะ มิลลี่ หรือไม่พวกเราก็ไปกันเถอะ อย่าอยู่ที่นี่ต่ออีกเลย ยิ่งพูดก็ยิ่งกลัวแล้ว ช่างทำให้คนหวาดกลัวจริง ๆ”

“แต่ว่าห้องประชุมยังทำความสะอาดไม่เสร็จเลยนะ” มิลลี่มีความหวั่นไหวเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความกังวลอยู่บ้าง

พนักงานหญิงคล้องแขนของเธอไว้ “โธ่เอ๊ย ไม่ต้องทำความสะอาดแล้ว ในเมื่อก็ไม่ได้สกปรกเท่าไหร่ และที่สำคัญห้องประชุมก็ไม่ได้บ่อย ๆ สักหน่อย ไม่เป็นไรหรอก ไปกันเถอะ ฉันยิ่งอยู่ที่นี่ก็ยิ่งรู้สึกกลัว”

“ที่เธอพูดมาก็ถูก ไป ไป ไป”

ทั้งสองคนหิ้วถังอุปกรณ์ทำความสะอาดขึ้นมา แล้วก็เดินออกไปจากห้องประชุมอย่างรวดเร็ว

ที่ใต้โต๊ะ ใบหน้าของมายมิ้นท์ดำมืดครึ้ม ทั้งตัวโกรธแทบแย่ “พวกเขา……พวกเขาถึงกับบอกว่าฉันเป็นผี นี่มันเกินไปแล้ว!”

เธอเป็นผีที่ไหนกัน?

“อืม ใช่ เกินไปจริง ๆ!” เปปเปอร์พยักหน้าขึ้นมาอย่างเห็นด้วย “ผีหน้าตาน่าเกลียดจะตายไป คุณสวยซะขนาดนี้ ตาของพวกเธอช่างไม่มีแววจริง ๆ”

มายมิ้นท์มองตาขาวใส่เขาทีหนึ่ง “ก็เป็นเพราะคุณทั้งนั้นเลย ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก?”

เธอผลักชายหนุ่มออกทีหนึ่งแล้วลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็จัดผมที่โดนเขาทับจนยุ่งเหยิงครู่หนึ่ง “ชีวิตนี้ของฉัน นี่เป็นครั้งแรกที่มุดใต้โต๊ะเลยนะ”

“ผมก็เหมือนกัน” พอเปปเปอร์นั่งตัวตรงแล้ว ก็จัดปกคอเสื้อและแขนเสื้อที่ค่อนข้างยุ่งเหยิงไป

มายมิ้นท์พูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์อีกว่า “นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณเป็นคนก่อขึ้นมาเองไม่ใช่เหรอ ฉันบอกให้คุณปล่อยฉัน แต่คุณนี่ดีจริง ๆ กลับอุ้มฉันมุดเข้ามาเลย”

เปปเปอร์หัวเราะเบา ๆ ขึ้นมา “ถ้าเกิดผมไม่มุดเข้ามา แล้วโดนพวกเขาพบเห็นเข้า แล้วถึงตอนนั้นพวกเราจะไม่ได้ทำยังไงกันเลย แต่พรุ่งนี้ก็ต้องกลายเป็นข่าวลือเหมือนกัน คุณเชื่อไหมล่ะ?”

มายมิ้นท์อึ้งไปครู่หนึ่ง “เพราะอะไรคะ?”

เห็นได้ชัดว่าเธอยังตั้งสติกลับมาไม่ได้

เปปเปอร์นั่งอยู่บนพื้น ขาข้างหนึ่งพับงอไว้ อีกข้างหนึ่งตั้งขึ้น ท่านั่งดูสบาย ๆ หล่อเหลามาก

เขาชูนิ้วขึ้นมานิ้วหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “เพราะว่างานแถลงข่าวจบไปตั้งนานแล้ว แต่พวกเราก็อยู่ในนี้กันตลอดไม่ได้ออกไป คุณคิดว่าพวกเขาจะไม่คิดมากว่าพวกเราทำอะไรกันอยู่ในนี้เหรอ?”

“……” มายมิ้นท์สะดุดไปทีหนึ่ง และพูดอะไรไม่ออกเลย

ใช่จริง ๆ ด้วย

ชายโสดหญิงโสดอยู่ข้างในไม่ยอมออกไป มันน่าทำให้คนอื่นคิดไปเรื่อยได้จริง ๆ

“ยังมีอีกจุดหนึ่ง นั่นก็คือ คุณแสดงออกชัดเจนเกินไปแล้ว” เปปเปอร์พูดแล้ว ก็ชูนิ้วที่สองขึ้นมา

มายมิ้นท์เอียงหัวเล็กน้อย “แสดงออกชัดเจนตรงไหน”

เปปเปอร์ชี้ไปที่เรียวปากของตัวเอง

มายมิ้นท์มองไปที่เรียวปากของเขา เรียวปากของเขาบางมาก รูปปากก็สวยมาก ปกติสีปากก็จะซีด ๆ

ห้องน้ำ โซฟา ดาดฟ้าที่ไหนก็ได้……

คิดแล้ว เรียวปากของเปปเปอร์ก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง

มายมิ้นท์จ้องมองท่าทางแบบนี้ของเขา ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่ก็ขนลุกซู่ขึ้นมาแปลก ๆ และรู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีซะเท่าไหร่

เจ้าหมอนี่ จะต้องคิดเรื่องชั่ว ๆ อะไรอยู่แน่

“เอาล่ะ พวกเราออกไปกันเถอะ” มายมิ้นท์ดึงแขนเปปเปอร์เล็กน้อย ขัดไม่ให้ชายหนุ่มครุ่นคิดไปอีก และดึงชายหนุ่มออกไปด้านนอกเลย

ชายหนุ่มจ้องมองเธอ ในดวงตาแฝงไว้ด้วยความขบขัน แล้วก็ตามเธอออกไปอย่างเชื่อฟัง

ประตูห้องประชุมเปิดออก พอมายมิ้นท์เดินออกไปแล้ว ก็มองซ้ายมองขวา ท่าทางเหมือนกับคนที่กำลังสืบคดีอยู่มาก ๆ เลย

เปปเปอร์จ้องมองท่าทางของเธอ และโดนท่าทางที่น่ารักของเธอทำให้รู้สึกขำขึ้นมา “นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่?”

คุณจะไปเข้าใจอะไร“” มายมิ้นท์หันหน้ากลับมามองเขาทีหนึ่ง “ฉันก็กำลังดูว่ามีคนอยู่หรือเปล่านะซิ ถ้าเกิดมีคนเห็นว่าพวกเราเพิ่งจะออกจากห้องประชุมมาในเวลานี้ ก็จะต้องโดนนินทาอีกชุดหนึ่งแน่ ดังนั้นพวกเราจึงจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงผู้คนออกไป เข้าใจไหม?”

เปปเปอร์พยักหน้าขึ้นเล็กน้อย “เข้าใจแล้ว”

“งั้นก็ได้ คุณดูทางนั้นฉันดูทางนี้ พวกเรามาแบ่งงานกันทำ ผลจะได้ออกมาดีหน่อย” มายมิ้นท์ชี้ไปทางซ้าย แล้วก็พูดกับเขาขึ้นมา

“ได้” เปปเปอร์พยักหน้าตอบรับ

ในเมื่อเธออยากจะเล่น งั้นเขาก็จะเล่นเป็นเพื่อนเธอหน่อย

ก็เหมือนอย่างกับเมื่อกี้ตอนที่อยู่ใต้โต๊ะ ถึงปากเธอจะไม่ค่อยเต็มใจมากนัก แต่ก็ยังอยู่เป็นเพื่อนเขาอยู่

แล้วก็เป็นแบบนี้ ประธานใหญ่ของทั้งสองบริษัท ก็เลยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไปตลอดทาง หลีกเลี่ยงห้องทำงานไปมากมาย กลุ่มคนหลาย ๆ กลุ่ม ในที่สุดก็กลับมาถึงห้องทำงานของตัวเอง

ในวินาทีที่ประตูห้องทำงานปิดลงนั้น มายมิ้นท์ก็ถอนหายใจออกมายาว ๆ ทีหนึ่ง “ตอนนี้ดีแล้ว สบายใจได้แล้ว ไม่ต้องกลัวคนมาพบเห็นแล้ว”

เปปเปอร์ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ และตอบกลับไปอย่างขำขันและรักใคร่ “คุณพูดถูกต้อง”

มายมิ้นท์บิดขี้เกียจขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วหันหน้ามองไปที่ชายหนุ่ม “ต่อจากนี้จะทำอะไรล่ะ? เวลายังเช้าอยู่ คุณจะกลับไปบริษัทตระกูลนวบดินทร์หรือเปล่าคะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว