รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 728

แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาของเขาเท่านั้น แต่โดยรวมจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า ยังต้องไปยืนยันอีกสักหน่อย

พอเห็นเปปเปอร์ขมวดคิ้วไว้แน่น บรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนเป็นหนักหน่วงขึ้นมา มายมิ้นท์เองก็อดไม่ได้ที่จะเคร่งขรึมตามขึ้นมาด้วย “เปปเปอร์ มีอะไรเหรอคะ?”

เปปเปอร์เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองเธอ “คุณลองถามทางตำรวจสักหน่อย”

“ถามทางนั้นทำไมเหรอคะ?” มายมิ้นท์เอียงหัวอย่างแปลกใจขึ้นมา

เปปเปอร์ค่อย ๆ ขยับเรียวปากถามขึ้นว่า “ผมมีความสงสัยบางอย่าง และต้องการยืนยัน เพราะฉะนั้นผมก็เลยอยากจะรู้ว่า เยี่ยมบุญได้ติดต่อกับทางตำรวจ เพื่อจะตรวจสอบขั้นตอนการรับเลี้ยงของคุณไปหรือเปล่า หรือว่าได้ถามเรื่องที่คุณโดนรับเลี้ยงไปเมื่อตอนนั้นหรือเปล่า”

“ห๋า?” ความงวยงงของมายมิ้นท์มีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม “เยี่ยมบุญจะถามเรื่องนี้ทำไมกันคะ?”

“คุณติดต่อกับทางตำรวจไปก็จะรู้เรื่องเอง” เปปเปอร์ไม่ได้ตอบ เพียงแต่แค่ให้เธอรีบติดต่อ

พอมายมิ้นท์ไม่มีทางเลือก จึงต้องเอาโทรศัพท์ขึ้นมาทำตาม

สองนาทีให้หลัง เธอก็วางโทรศัพท์ลงด้วยท่าทีเคร่งขรึม แล้วเงยหน้ามองไปที่เปปเปอร์ “คุณพูดถูกแล้ว เยี่ยมบุญเคยส่งคนไปจริง ๆ ด้วย เปปเปอร์ นี่ตกลงคุณสงสัยอะไรอยู่เหรอคะ?”

เธออยากจะรู้มาก

เปปเปอร์เอามือวางลงบนหัวเธอ แล้วตบเบา ๆ ไปทีหนึ่ง “ผมสงสัยว่า เยี่ยมบุญอาจจะคือว่าคุณเป็นลูกสาวของเขา”

“ห๋า?” มุมปากของมายมิ้นท์กระตุกขึ้นมาทีหนึ่ง จากนั้นก็หรี่ตาลง แล้วมองไปที่ชายหนุ่มด้วยสายตาแปลกประหลาด “เปปเปอร์ นี่คุณเป็นไข้หรือเปล่าคะ?”

พูดแล้ว เธอก็ยื่นมือไปแตะที่หน้าผากเธอ “ก็ไม่ร้อนนี่ ไม่ได้เป็นไข้ ทำไมถึงได้เริ่มพูดเพ้อเจ้อแล้วล่ะ”

“ผมไม่ได้พูดเพ้อเจ้อ” เปปเปอร์เอามือของมายมิ้นท์ลงจากหน้าผาก แล้วตอบกลับไปอย่างเบื่อหน่าย

มายมิ้นท์จดจ้องไปที่เขา “งั้นทำไมคุณถึงพูดว่าเยี่ยมบุญคิดว่าฉันเป็นลูกสาวของเขาล่ะ แล้วฉันเป็นลูกสาวคนไหนของเขาล่ะ?”

“ชวนชม” เปปเปอร์จ้องตาเธอไว้ตรง ๆ แล้วค่อย ๆ พูดคำสองคำนี้ออกมา

นัยน์ตาของมายมิ้นท์สั่นไหวเล็กน้อย ชั่วขณะหนึ่งอยู่ ๆ ก็ไม่มีเสียงแล้ว เหมือนกับว่าโดนคำพูดนั้นของชายหนุ่มทำให้ตกตะลึงไปเลย

แต่พอผ่านไปครู่หนึ่ง อยู่ ๆ เธอก็หัวเราะพรืดออกมาคำหนึ่ง อย่างกับว่าได้ยินเรื่องตลกเรื่องใหญ่อะไรยังไงอย่างงั้น หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง และหยุดลงไม่ได้ จนหน้าก็แดงไปหมด แม้แต่มุมปากก็เหมือนกับว่าจะมีละอองน้ำพุ่งออกมา

“ฮา ฮา ฮา ช่างน่าขำจริง ๆ เลย ชวนชม ฮา ฮา ฮา……”

เปปเปอร์จ้องมองหญิงสาวที่อยู่บนตักหัวเราะเหมือนดอกไม้เบ่งบาน ดวงตาก็มืดมนลง มือใหญ่ที่กอดอยู่เอวเธอ ก็ค่อย ๆ แน่นขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งเล็กน้อย “เลิกหัวเราะได้แล้ว”

เธอหัวเราะมากเกินไป จนร่างกายก็สั่นเทาไปด้วย

พอเธอตัวสั่น แน่นอนว่าร่างกายก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องกระทบกระทั่งกับร่างกายของเขา

แต่ว่านี่สำหรับเขาแล้ว ถือได้ว่าเป็นทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย มีความสุขและทรมานปนเปกันไป

คราวนี้เปปเปอร์รู้สึกเสียใจขึ้นมาบ้างแล้ว ที่เมื่อเอาตัวเธอมากอดไว้ในอกตัวเอง และให้เธอมานั่งอยู่บนตักตัวเอง

ไม่งั้นตอนนี้ เขาก็คงจะไม่ต้องมากลืนไม่เข้าคายไม่ออกหรอก

เปปเปอร์จ้องมองหญิงสายที่ยังหัวเราะอยู่ในอก แล้วก็ก้มหน้าลงมามองความอ่อนนุ่มที่สั่นไหวตรงหน้าอกหญิงสาว วินาทีนี้ความอ่อนนุ่มนั้นกำลังถูไถกับอกกว้างของเขาอยู่ จนจุดประกายความร้อนรุ่มทั้งตัวของเขาขึ้นมา

นี่จะถึงชีวิตแล้ว!

เปปเปอร์หลับตาลงอย่างแรง จากนั้นก็ใช้แรงกระชับมือที่อยู่ตรงเอวหญิงสาวขึ้นอีกครั้ง แล้วพูดขึ้นว่า “ได้ยินหรือเปล่า เลิกหัวเราะได้แล้ว!”

มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าในความไม่ได้ตั้งใจของตัวเองนั้น ได้ยั่วยวนจนชายหนุ่มเกือบจะกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดเลย แล้วก็ค่อย ๆ หยุดหัวเราะไป และจ้องมองชายหนุ่มด้วยใบหน้าแดงก่ำ “คุณจะมาโทษฉันหัวเราะมากไปไม่ได้นะ ก็คุณพูดได้น่าขำมากจริง ๆ คุณถึงกับสงสัยว่าเยี่ยมบุญคิดว่าฉันคือชวนชม นี่มันช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากจริง ๆ!”

พูดแล้ว เธออดไม่ได้จนอยากจะหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง

พอเปปเปอร์ดูออก ก็เชิดคางของเธอขึ้นมา “ห้ามหัวเราะอีก ถ้าหัวเราะอีกผมจะจูบคุณเลยนะ”

มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าตอนนี้เปปเปอร์กำลังคิดอะไรอยู่ และก็ไม่เห็นว่าท่าทีของเปปเปอร์เปลี่ยนไปเล็กน้อยด้วย

เธอกัดริมฝีปากล่างแล้วก็พูดขึ้นอีกว่า “ก็เจินเจินคือชวนชมตัวจริงนะ คราวที่แล้วตอนที่ฉันจะเปิดเผยว่าเจินเจินคือหนอนบ่อนไส้ที่ฉันกับทามทอยส่งเข้าไป และไม่ใช่ชวนชมตัวจริงนั้น เจินเจินก็ก้าวออกมาพูดเองว่าเธอคือชวนชมตัวจริง แถมยังถอนผมออกมาเดี๋ยวนั้นเอาไปตรวจดีเอ็นเอกับพวกเยี่ยมบุญด้วย และผลก็ออกมาว่าพวกเขาเป็นพ่อลูกกัน ตอนนั้นคุณก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยนี่ คุณเองก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ?”

เธอดึงแขนของเปปเปอร์เอาไว้ และเขย่าขึ้นมาอย่างร้อนใจ และร้อนใจอยากจะให้เขาช่วยยืนยันให้เธอ ว่าเธอไม่ใช่ชวนชม

เปปเปอร์จ้องมองท่าทางของมายมิ้นท์ แล้วก็พยักหน้าให้เล็กน้อย “อืม ผมเห็นแล้ว ว่าเจินเจินคือชวนชมจริง ๆ”

พอได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม มายมิ้นท์ถึงได้โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง “คุณดูซิ เห็นไหมว่าเยี่ยมบุญคิดมากไปเองจริง ๆ ในเมื่อวันที่มันใกล้กันมาก เขาจะคิดมากก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่พอเขาสงบสติได้แล้ว จะต้องหัวเราะเยาะตัวเองว่าการกระทำของตัวเองนั้นน่าขำมากแค่ไหน ถึงได้รู้สึกว่าลูกสาวของศัตรู เป็นลูกสาวของตัวเองไปได้”

เปปเปอร์ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่แค่ลูบหัวเธอไป แล้วตอบอืมไปคำหนึ่ง

ทีแรกเขายังอยากจะหลอกถามเธอว่า ถ้าเกิดเธอคือชวนชมจริง ๆ เธอจะทำยังไง

แต่ตอนนี้ดูแล้ว เหมือนกับจะไม่ต้องแล้ว

แค่รู้ว่าเยี่ยมบุญสงสัยว่าเธอคือชวนชม เธอก็ต่อต้านมากขนาดนี้ และหาเหตุผลมายืนยันว่าตัวเธอไม่ใช่ชวนชมไม่หยุด

นี่ก็มากพอที่จะบอกได้แล้วว่า เธอรังเกียจลูกสาวของเยี่ยมบุญมากแค่ไหน

เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าให้เธอรู้เรื่องเข้าจริง ๆ ว่าเธอคือชวนชมลูกสาวของเยี่ยมบุญแล้วละก็ เขาไม่กล้าที่จะไปคิด ว่าเธอจะเสียใจจนมีสภาพแบบไหน และจะทำอะไรขึ้นมาบ้าง

พอคิดมาถึงตรงนี้ อยู่ ๆ เปปเปอร์ก็รวบตัวมายมิ้นท์มากอดไว้แน่น บรรยากาศรอบตัวก็หนักหน่วงและซับซ้อน

พอเห็นปฏิกิริยาตอนเมื่อกี้ของมายมิ้นท์ ก็ทำให้เขามั่นใจมากยิ่งไปอีกว่าจะแอบซ่อนสถานะของเธอไว้ จะให้เธอรู้ว่าเธอคือชวนชมไม่ได้เด็ดขาด

อย่างน้อย ก่อนที่เยี่ยมบุญจะเสียชีวิต เขาจะไม่มีทางให้เธอรู้เด็ดขาด

มายมิ้นท์ไม่รู้เรื่องการตัดสินใจของเปปเปอร์ ใช้มือตบหลังเขาไปเบา ๆ แล้วถามอย่างเป็นห่วงขึ้นมา “เปปเปอร์ คุณเป็นอะไรไปคะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว