เกิดอุบัติเหตุรถชน?
เกิดอุบัติเหตุรถชนได้ยังไง?
มายมิ้นท์ไม่เข้าใจมากๆ
เห็นๆอยู่ว่าสิบกว่านาทีก่อน เธอเพิ่งจะคุยกับเปปเปอร์ไปเอง เขาบอกเธอว่า เขากลับมาแล้ว อยู่ระหว่างทาง
แต่ตอนนี้ เธอกลับได้รับข่าวว่าเขาเกิดอุบัติเหตุรถชน!
นี่จะทำให้เธอยอมรับได้ยังไง?
มายมิ้นท์กัดริมฝีปากแน่น เบ้าตาค่อยๆแดง น้ำตาเอ่อออกมา ในใจบีบรัด ค่อนข้างอึดอัด ค่อนข้างเจ็บปวด
รถชนน่ะ เป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวขนาดไหน
กรณีที่ไม่หนักหนาแต่กลับบาดเจ็บสาหัส ส่วนกรณีที่รุนแรงก็ถึงแก่ชีวิตเลยนะ
เปปเปอร์เคยเกิดอุบัติเหตุรถชนแล้วครั้งหนึ่ง ถึงครั้งนั้นจะไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ครั้งนี้ล่ะ?
เธอเพิ่งจะได้คบกับเขา ก็ต้องสูญเสียเขาไปแล้วเหรอ?
ยิ่งคิดยิ่งตื่นตระหนก ยิ่งคิดยิ่งหวาดกลัว มายมิ้นท์หายใจเร็วขึ้นมาอีกครั้ง
ผู้ช่วยเหมันตร์ที่อยู่ปลายสายได้ยินคำถามของเธอ จึงมองเปปเปอร์ที่อยู่ข้างกาย รีบตอบกลับไป: “คุณมายมิ้นท์วางใจเถอะครับ ตอนนี้ประธานเปปเปอร์ไม่ได้เป็นอะไร แค่หมดสติไปเท่านั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างทางส่งประธานเปปเปอร์ไปโรงพยาบาลครับ”
“ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆใช่ไหมคะ?” มายมิ้นท์จับที่พักแขนของโซฟาเอาไว้ เห็นได้ชัดว่ายังไม่สบายใจ
ถึงยังไงนี่ก็เป็นอุบัติเหตุรถชนนะ
ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าอย่างจริงจัง “ประธานเปปเปอร์ต้องไม่เป็นอะไรอยู่แล้วครับ ผมเป็นคนขับ ผมยังไม่เป็นอะไรเลย ประธานเปปเปอร์ก็ต้องไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว อีกอย่างมันไม่ใช่การชนกันอย่างรุนแรงครับ แค่รถของพวกผมชนเข้ากับแปลงดอกไม้ข้างทาง”
ได้ยินเขาพูดอย่างนี้ ในใจของมายมิ้นท์จึงค่อยๆสงบลงได้ เชื่อขึ้นมาบ้างแล้ว
จริงๆ อุบัติเหตุรถชนมากมาย ผู้ที่จะได้รับบาดเจ็บหรือตายเป็นอันดับแรก โดยปกติมักจะเป็นคนขับกับคนที่นั่งข้างคนขับ ส่วนคนที่นั่งเบาะหลัง กลับมีโอกาสรอดชีวิตมากที่สุด
ผู้ช่วยเหมันตร์ที่เป็นคนขับรถไม่เป็นอะไร งั้นคิดๆแล้วเปปเปอร์ก็น่าจะไม่เป็นอะไรหรอก
คิดถึงตรงนี้ มายมิ้นท์จึงคลายกังวลลงได้ชั่วคราว ในใจที่รัดแน่นก็ขยายออกได้มากแล้ว ไม่ถึงขั้นบีบแน่นจนเจ็บปวดอีกแล้ว
เพียงแต่ ทำไมเปปเปอร์ถึงหมดสติไปได้ล่ะ?
ด้วยสภาพร่างกายของเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะกระแทกจนหมดสติไปนี่นา
ถึงยังไงผู้ช่วยเหมันตร์ก็พูดอยู่ ว่าแค่ชนเข้ากับแปลงดอกไม้ข้างทางเท่านั้น
ผู้ช่วยเหมันตร์ที่เป็นคนขับรถ น่าจะได้รับแรงกระแทกมากที่สุดสิ แต่ผู้ช่วยเหมันตร์ไม่ได้หมดสติ แล้วทำไมเปปเปอร์ที่อยู่เบาะหลัง ถึงหมดสติไปได้ล่ะ?
มายมิ้นท์หรี่ตา ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แต่หลังจากพบว่าก็คิดไม่ออกอยู่ดี จึงไม่ได้รบเร้าที่จะต้องคิดให้ออกจนเกินไป
ถึงยังไงสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือต้องไปหาเปปเปอร์
คิดๆแล้ว มายมิ้นท์จึงบีบฝ่ามือ พยายามทำให้ตนเองใจเย็นลง แล้วยืนขึ้นอีกครั้ง อดกลั้นอาการปวดเดินไปที่ห้องนอน “ผู้ช่วยเหมันตร์ พวกคุณกำลังจะไปโรงพยาบาลไหนคะ เดี๋ยวฉันจะรีบตามไปค่ะ?”
“ไปโรงพยาบาลที่คุณหมอการันต์อยู่ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบกลับ
ก็เป็นโรงพยาบาลอันดับหนึ่งนั่นแหละ
มายมิ้นท์พยักหน้า “ฉันทราบแล้วค่ะ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ คุณดูแลเขาให้ดีนะคะ มีเรื่องอะไร โทรหาฉันได้ทันที”
“วางใจเถอะครับคุณมายมิ้นท์ ผมจะดูแลเขาอย่างดี” ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบ
มายมิ้นท์ฝืนยิ้มอืมออกมา แล้ววางมือถือลง รีบหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน จากนั้นก็รีบร้อนออกจากบ้าน ไปที่โรงพยาบาล
ระหว่างทาง เธอกำลังขับรถ จับพวงมาลัยเอาไว้แน่น
แต่เพราะจับแน่นจนเกินไป มือจึงสั่นเล็กน้อย จนทำให้ประคองรถตรงๆไม่ได้ เอียงไปเอียงมาอยู่บ่อยๆ อันตรายมาก
ถึงขั้นที่มีรถข้างหลังแซงรถของเธอขึ้นมา แล้วลดกระจกลงต่อว่าเธอ
แต่เธอไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย กัดริมฝีปากแน่น ดวงตาแดงๆทั้งคู่จับจ้องอยู่ที่ถนนข้างหน้า ในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยความปลอดภัยของเปปเปอร์
ถึงผู้ช่วยเหมันตร์จะบอกว่าตอนนี้เปปเปอร์ไม่เป็นอะไร แต่อันที่จริงมันก็แค่ตอนนี้ไง สรุปว่าเป็นอะไรหรือเปล่า คนยังส่งไม่ถึงโรงพยาบาล ยังไม่ได้ฟังคำวินิจฉัยของคุณหมอ เธอก็จนปัญญาที่จะสบายใจได้เต็มที่
ส่งเขาถึงโรงพยาบาลแล้ว ทั้งยังมีการันต์เป็นคนทำการรักษาด้วย
นึกถึงอัตราความเป็นไปได้ที่เปปเปอร์จะปลอดภัย โดยพื้นฐานก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
มายมิ้นท์แนบมือถือไว้ที่หน้าอก เงยหน้าเล็กน้อย น้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจ ความรู้สึกกระสับกระส่าย สิ้นหวังและหมดหนทางในใจ ที่ชักช้าจนไปไม่ถึงโรงพยาบาลสักทีเนื่องจากรถติด ในตอนนี้ก็ลดลงไปเยอะแล้ว
ภายในโรงพยาบาล เห็นข้อความที่มายมิ้นท์ส่งกลับมาบอกว่า ตนเองรถติดอยู่บนถนน คงอีกพักใหญ่กว่าจะถึง ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ไม่ได้ว่าอะไร
อันที่จริงเรื่องรถติดนี่ เกิดขึ้นที่เมืองเดอะซีได้ทุกที่ทุกเวลานั่นแหละ
ระหว่างทางที่พวกเขามาโรงพยาบาลก็เจอรถติดเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ได้รถตำรวจเคลียร์ทางให้ ตอนนี้ก็คงมาไม่ทันหรอก
“คุณผู้ชายครับ ตอนนี้เจ้านายของคุณก็ถึงมือหมอแล้ว ดังนั้นผมจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากคุณกับคุณผู้หญิงท่านนี้ในการให้ปากคำสักหน่อย ช่วยอธิบายสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้นอย่างละเอียดทีนะครับ” ตอนนี้ ตำรวจจราจรถือกระดาษปากกาและเครื่องบันทึกเสียงตามกฎหมายมาที่ด้านหน้าของผู้ช่วยเหมันตร์ แล้วชี้ไปที่ผู้หญิงที่นั่งรถเข็นข้างๆ พูดกับผู้ช่วย เหมันตร์
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์มองผู้หญิงคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา เก็บมือถือขึ้นมา หลังจากเช็ดๆหน้าแล้วก็ลุกขึ้น พยักหน้าตอบรับ
ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ ขานรับเบาๆ “ค่ะ”
นี่ไม่ใช่รถชนกันอย่างรุนแรง แต่เป็นเพียงอุบัติเหตุรถชน ดังนั้นไม่นานก็ให้ปากคำเสร็จแล้ว
ต่อไปก็ดูว่าจะจัดการยังไง
“ฉันยินยอมชดเชยค่าใช้จ่ายในการรักษาและการฟื้นตัวทั้งหมดของคุณผู้ชายคนนี้ รวมไปถึงรับผิดชอบดูแลคุณผู้ชายคนนี้จนกว่าจะฟื้นตัวค่ะ” มือทั้งคู่ของฝ่ายหญิงกำลังจับที่วางแขนของรถเข็น มองไปทางประตูของห้องฉุกเฉินพูดขึ้น
นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว
แต่นั่นมันสำหรับคนทั่วไป ทว่าสำหรับเปปเปอร์แล้ว กลับใช้ไม่ได้
“เจ้านายของผมไม่ได้ขาดแคลนค่าใช้จ่ายพวกนั้น” ผู้ช่วยเหมันตร์จ้องผู้หญิงตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉย
ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงรู้สึกคุ้นตาผู้หญิงคนนี้
แต่ใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ เขากลับไม่เคยเจอมาก่อน
ผู้ช่วยเหมันตร์จึงส่ายๆหัว ไม่ได้คิดมาก แค่เข้าใจไปว่าตนเองอ่อนไหวเกินไป แล้วกลับมามีท่าทีเย็นชาไม่พอใจอีกครั้ง “คนที่บาดเจ็บคือเจ้านายของผม ในฐานะที่ผมเป็นผู้ช่วย จึงไม่มีสิทธิ์แก้ปัญหาเรื่องนี้แทนเจ้านายของผม ดังนั้นพวกรายละเอียดที่จะแก้ปัญหายังไง รอให้เจ้านายของผมฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน ส่วนคุณ ก่อนที่เจ้านายของผมจะฟื้น อย่าได้คิดจะออกไปจากที่นี่เชียว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...