“แฟน?” ผู้หญิงคนนั้นตะลึงงัน แล้วตอบสนองกลับมาในทันที “ที่แท้คุณก็เป็นแฟนของคุณผู้ชายคนนี้นี่เอง ขอโทษด้วยค่ะ”
เธอเอามือออกจากบนหน้าอกของเปปเปอร์ แล้วยิ้มให้มายมิ้นท์ “ขอโทษด้วยค่ะคุณผู้หญิง ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่อยากเช็ดหน้าให้คุณผู้ชายคนนี้ ถึงได้วางมือลงไปอย่างไม่ทันระวัง คุณคงไม่ถือสานะคะ?”
แม้ปากเธอจะพูดว่าขอโทษ แต่บนใบหน้ากลับไม่รู้สึกผิดสักนิด มิหนำซ้ำยังอมยิ้มอีกต่างหาก
รอยยิ้มนั้น จะมองยังไงก็รู้สึกยั่วโมโหอยู่ดี
โดยเฉพาะ ‘คุณคงไม่ถือสานะคะ’ ประโยคนั้น ช่างเป็นกลิ่นชาเขียวที่สมบูรณ์แบบจริงๆ ยิ่งพิสูจน์ได้เลยว่าเธอกำลังยั่วโมโหอยู่
มายมิ้นท์จึงยิ้มออกมาด้วยความไม่พอใจ
เธอพอจะรู้แล้วว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงจงใจยั่วโมโหเธอ คงชอบเปปเปอร์เข้าแล้วล่ะสิ
ถึงยังไงเปปเปอร์ก็หน้าตาหล่อเหลา ตัวสูงโปร่ง รูปร่างดี เสน่ห์ล้นเหลือ ทั้งยังมีวงศ์ตระกูลร้อยล้านอีก
ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอย่างนี้ ไม่ถูกจับจ้องสิถึงจะแปลก
คิดๆแล้ว มายมิ้นท์จึงมองชายหนุ่มที่กำลังหลับตาอยู่บนเตียงคนไข้ยังไม่ฟื้นขึ้นมาสักที ในใจทั้งโมโหทั้งโกรธทั้งสงสาร
โมโหตรงที่เหตุการณ์มันเพิ่งจะเกิดขึ้นได้ไม่นาน แต่กลับดึงดูดผู้หญิงที่คิดไม่ซื่อคนหนึ่งได้แล้ว
อีกใจนึงก็สงสารที่เขาต้องนอนอยู่ตรงนี้ พร้อมกับผ้าพันแผลบนหัว แค่ได้เห็นก็เจ็บปวดแล้ว
เฮ้อ มายมิ้นท์รู้ว่าที่นังชาเขียวนี่ปรากฏตัวออกมา มันไม่ใช่ความผิดของเปปเปอร์ ด้วยเหตุนี้หลังจากที่โมโหเปปเปอร์ไปชั่วครู่ จึงเคลื่อนสายตากลับมา มองไปที่ร่างของผู้หญิงตรงหน้าอีกครั้ง พูดด้วยเสียงเย็นยะเยือก: “ใครบอกว่าฉันไม่ถือสา ฉันถือมากๆต่างหาก ถอยไป!”
น้ำเสียงของเธอไม่เกรงใจสักนิด ทั้งยังมาพร้อมกับความน่าเกรงขามเล็กน้อย บังคับให้ผู้หญิงคนนี้รีบถอยออกไปจากข้างเตียงอย่างชัดเจน
รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นชะงักงัน คิดไม่ถึงว่ามายมิ้นท์จะพูดออกมาตรงๆเช่นนี้ ไม่ไว้หน้าเธอเลยสักนิด สายตาจึงปรากฏความโหดร้ายออกมา แต่ก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว ยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้นมาอีกครั้ง “ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้หญิง ฉันรู้ว่าคุณถือสาที่ฉันอยู่ที่นี่ แต่ฉันถอยออกไปไม่ได้จริงๆค่ะ เพราะฉันเป็นคนทำให้คุณผู้ชายคนนี้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นฉันจึงจำเป็นต้องรับผิดชอบ ฉันอยากอยู่ข้างๆคุณผู้ชายคนนี้คอยดูแลเขา จนกว่าเขาจะหายดี ยังหวังว่าคุณผู้หญิงจะเข้าใจและเห็นใจนะคะ”
คำพูดของนังชาเขียวนี่ทำเอามายมิ้นท์ตกตะลึงไปเลย ยังไงก็คิดไม่ถึงว่า ผู้หญิงคนนี้จะพูดจาดูดีขนาดนี้ออกมา เพื่ออยู่ข้างๆเปปเปอร์ ช่างน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ
สีหน้าของมายมิ้นท์แย่สุดๆ สายตาที่มองผู้หญิงตรงหน้านี้ ไม่มีความเป็นมิตรเลยสักนิด มีเพียงความไม่พอใจและความเกลียดชังที่ปะปนอยู่เต็มไปหมด “คุณผู้หญิง คุณเป็นคนทำให้แฟนของฉันต้องนอนอยู่ที่นี่ การแสดงความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว แต่วิธีแสดงความรับผิดชอบมีหลากหลายวิธี ฉันคิดว่าแฟนของฉันคงไม่ต้องการให้คุณมาดูแลเพื่อแสดงความรับผิดชอบหรอก ถึงยังไงฉันที่เป็นแฟนเขาก็อยู่ที่นี่แล้ว การดูแลเขามันควรจะเป็นเรื่องของฉัน ดังนั้นฉันแนะนำว่าคุณก้าวก่ายหน้าที่คนอื่นให้น้อยลงหน่อยจะดีกว่า”
มายมิ้นท์คิดว่าคำพูดนี้ของตนเองก็พูดได้น่าฟังประมาณนึงแล้วนะ
ถึงยังไงคงไม่มีผู้หญิงคนไหน ที่จะแสดงท่าทีเป็นมิตรกับนังชาเขียวที่จับจ้องแฟนของตนเองหรอก
บางคนที่อารมณ์ร้าย คงชี้หน้าด่าไปทันทีแล้ว
ส่วนเธอ แค่พูดให้เด็ดขาดขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น
หวังว่าผู้หญิงคนนี้จะยังมียางอายอยู่บ้าง พอจะรู้จักอะไรที่เรียกว่าความอับอาย ยอมถอยออกไปเองอย่างมีไหวพริบ ไม่งั้น เธอจะไม่เกรงใจแล้วนะ
เธอไม่ใช่มายมิ้นท์คนที่แสนอ่อนแอในอดีตตั้งนานแล้ว เธอในตอนนี้ ยอมให้คนอื่นเสียเปรียบ ดีกว่าทำให้ตนเองเป็นทุกข์
แต่ทว่ามายมิ้นท์ยังคงประเมินหนังหน้าหนาๆกับระดับความไร้ยางอาย ของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ต่ำไป
ผู้หญิงคนนั้นจ้องมายมิ้นท์ ราวกับได้รับบาดเจ็บจากคำพูดของมายมิ้นท์ จู่ๆตาก็แดง แล้วร้องไห้ออกมาทันที
มายมิ้นท์จึงขมวดคิ้วแน่น “คุณจะร้องไห้ทำไม?”
ผู้หญิงคนนั้นปิดหน้า สะอื้นไห้เบาๆพูดขึ้น: “คุณผู้หญิง ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบที่ฉันดูแลแฟนของคุณ แต่ฉันไม่มีความคิดที่จะก้าวก่ายหน้าที่ของคนอื่นจริงๆ ฉันแค่อยากจะดูแลคุณผู้ชายคนนี้ ถึงยังไงฉันก็เป็นคนทำให้เขาเป็นแบบนี้ ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักหน่อย ในใจของฉันคงจะกระวนกระวาย คงจะตำหนิตนเอง คงจะรู้สึกอึดอัดใจแน่ๆ ดังนั้นคุณผู้หญิงคะ ฉันหวังว่าคุณจะให้โอกาสฉันได้ชดใช้ความผิดสักครั้ง ยอมให้ฉันดูแลคุณผู้ชายคนนี้ แต่ว่าคุณผู้หญิงสบายใจได้ค่ะ ฉันไม่มีทางทำอะไรคุณผู้ชายคนนี้แน่นอน ฉันแค่อยากชดใช้ความผิดอย่างบริสุทธิ์ใจเท่านั้นค่ะ เพื่อเป็นการชดเชยความรู้สึกผิดในใจของตนเองอย่างหมดจด ไม่งั้นฉัน......”
“ไม่งั้นคุณจะทำไม?” สีหน้าของมายมิ้นท์ยิ่งเย็นยะเยือก
เธอรู้ว่า ผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นไม่มีพิษภัยอย่างนังชาเขียวนี่ ยิ่งสนใจ ก็ยิ่งได้ใจ แต่ละประโยคที่พูดออกมา ล้วนแต่กำลังขุดหลุมให้เธอกระโดดลงไป
เธอโง่น่ะสิถึงจะสู้กับนังชาเขียวจนตายกันไปข้างนึง กระโดดเข้าไปในหลุมของนังชาเขียวด้วยตัวเอง
เห็นมายมิ้นท์ไม่สนใจตนเอง ผู้หญิงคนนั้นจึงออกแรงจับที่พักแขนของรถเข็น เนื่องจากออกแรงมากเกินไป มือจึงสั่นไหวขึ้นมา ดวงตาก็ค่อยๆแดง ในใจยิ่งโมโหจนทนไม่ไหว
ยัยมายมิ้นท์นี่ เปลี่ยนเป็นคนที่จัดการยากตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังกัดริมฝีปาก แล้วยังคิดจะยั่วโมโหมายมิ้นท์อีก ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าลอยมาจากนอกประตู ตามมาด้วยน้ำเสียงที่สงสัยของผู้ช่วยเหมันตร์ “ทำไมประตูห้องถึงเปิดอยู่ล่ะ?”
ในทันที ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ถือใบเสร็จต่างๆปรากฏตัวอยู่ที่หน้าห้อง เตรียมจะคิดบัญชีกับผู้หญิงที่ทำให้ประธานเปปเปอร์เกิดเรื่อง
ถึงยังไงก่อนที่เขาจะไปทำธุระต่างๆ ก็บอกผู้หญิงคนนั้นไว้แล้ว ว่าให้รออยู่ที่ด้านนอก ห้ามเข้าไปในห้องคนไข้ของประธานเปปเปอร์
แต่ตอนนี้สิ่งที่เขากลับมาเห็น ประตูห้องคนไข้กลับเปิดอยู่ ผู้หญิงคนนั้นที่ควรจะอยู่ข้างนอก ตอนนี้กลับไม่เห็นร่างของเธอ แสดงว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่เชื่อฟังคำพูดของเขาแน่ๆ คงเปิดประตูเข้าไปแล้ว
คิดๆแล้ว ผู้ช่วยเหมันตร์จึงเดินเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม อึมครึม
แต่ทว่าสิ่งที่ได้เห็น ภายในห้องคนไข้ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงคนนั้น ยังมีคุณมายมิ้นท์ด้วย
เมื่อได้เจอมายมิ้นท์ ความอึมครึมบนใบหน้าของผู้ช่วยเหมันตร์ จึงยิ้มออกมาอย่างประหลาดใจ “คุณมายมิ้นท์ ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว”
หลังจากมายมิ้นท์ทิ้งสำลีก้าน วางแก้วน้ำไว้ที่ด้านข้างแล้วจึงหันตัวมา พยักหน้าให้ผู้ช่วย เหมันตร์เล็กน้อย “ใช่ค่ะ รถมันติด ไม่งั้นคงถึงตั้งนานแล้ว”
“ตอนนี้ก็ไม่ช้าหรอกครับ มีคุณอยู่ข้างๆประธานเปปเปอร์ ถ้าประธานเปปเปอร์ฟื้นขึ้นมาต้องดีใจมากแน่ๆ” ผู้ช่วยเหมันตร์ยิ้มพูดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...