ผู้หญิงคนนั้น ไม่เพียงแต่จะบุกเข้ามาในห้องคนไข้ หนำซ้ำยังข่มขู่คนรักเขาด้วย เขาไม่มีทางให้อภัยง่ายๆ เด็ดขาด
เดิมทีเขาคิดว่า ถึงแม้การฝ่าไฟแดง จะทำให้เขาเกิดอุบัติเหตุ แต่เห็นแก่อีกฝ่ายเป็นแค่คนประมาทเลินเล่อ เอาแค่สิ่งที่ควรชดเชย ให้อีกฝ่ายรับผิดชอบ ในสิ่งที่ควรรับผิดชอบก็พอ เขาไม่ถือสาหาความเรื่องนี้
แต่คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นจะกล้าขนาดนี้
งั้นเขาไม่ปล่อยไปแบบนี้อย่างแน่นอน!
คิดได้เช่นนั้น เปปเปอร์ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว ความโหดเหี้ยมฉายขึ้นมาในแววตา และหายไปอย่างรวดเร็ว
วันต่อมา
มายมิ้นท์ถูกปลุกด้วยเสียงเคาะประตู
เธอขยับอยู่ในอ้อมกอดเปปเปอร์ ไม่ยอมลืมตาขึ้นมา เห็นได้ชัดว่ายังสะลึมสะลือ พูดเสียงงัวเงีย ทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา “เปปเปอร์ มีคนมาแล้ว”
เปปเปอร์ลืมตา มองเธอขดตัวเหมือนแมวตัวหนึ่ง อดยิ้มออกมาไม่ได้ “ผมได้ยินแล้ว”
“งั้นนายไปเปิดประตูไหม” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วสวย พูดด้วยเสียงอ่อนโยน
เห็นได้ชัดว่าเธอลืมไปแล้วว่าตัวเองอยู่ไหน คิดว่าที่นี่เป็นคอนโดของตัวเองแล้ว
เปปเปอร์โอบเธอไว้ “ไม่ต้อง ให้เขาเข้ามาเองก็ได้ คุณนอนเถอะ”
“อืม” ตอนนี้มายมิ้นท์ยังง่วงมาก นึกอะไรไม่ออก เมื่อได้ยินเขาบอกให้เธอนอนต่อ จึงไม่อิดออด หลังจากตอบรับ ก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง แล้วนอนต่อ
เปปเปอร์เห็นดังนั้น หัวเราะเบาๆ จากนั้นจึงค่อยๆ ดึงมือที่กอดเธอออกมา ลุกขึ้นนั่งบนเตียงคนไข้ หันไปพูดทางประตูว่า “เข้ามา”
คนข้างนอกหยุดเคาะประตู จากนั้นลูกบิดประตูถูกบิด
ประตูห้องคนไข้เปิดออก ผู้ช่วยเหมันตร์กับการันต์ ยืนอยู่นอกประตู
ทั้งสองเห็นผู้ชายที่ฟื้นขึ้นมาแล้ว อีกทั้งกำลังนั่งพิงหัวเตียงคนไข้อยู่ จึงเดินเข้ามา
ผู้ช่วยเหมันตร์เดินพลางพูดว่า “ประธานเปปเปอร์ คุณฟื้นสักที ผม......”
“เบาๆ หน่อย!” เปปเปอร์ยกนิ้วขึ้นมาแตะที่ปาก ขณะที่เขากำลังพูด เป็นการบอกให้เขาพูดเบาๆ
ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบรับอย่างงุนงง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพูดเบา
แต่ไม่นาน เขาเห็นผ้าห่มข้างเปปเปอร์ นูนขึ้นมา ข้างบนผ้าห่มมีผมยาวๆ โผล่ออกมา ทำให้เขาหายสงสัยทันที
โอเค มิน่าล่ะถึงให้เขาพูดเบาๆ ที่แท้ยังมีคนนอนไม่ตื่นนี่เอง
แต่ความรู้สึกระหว่างประธานเปปเปอร์กับคุณมายมิ้นท์ดีมากเลย เกิดอุบัติเหตุก็นอนด้วยกันบนเตียงคนไข้ ความหวานนี้ ทำให้คนทนดูไม่ได้จริงๆ
เทียบกับผู้ช่วยเหมันตร์ การันต์เห็นมายมิ้นท์นอนกรนครอกๆ อยู่บนเตียงคนไข้ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไรนัก
เพราะเป็นเรื่องของพวกเขาสองคน ไม่เกี่ยวกับเขา
พวกเขาไม่รู้สึกอึดอัด งั้นคนเป็นหมออย่างเขา ก็ไม่มีอะไรต้องพูด
“ผมมาตรวจให้คุณ” การันต์เดินมาหยุดข้างเตียง เอาแฟ้มคนไข้ที่หนีบไว้ใต้รักแร้ออกมา เปิดแฟ้มออก จากนั้นหยิบปากกาออกจากกระเป๋าชุดกาวน์ เปิดฝาปากกาออก เขียนพลางถามอาการของเปปเปอร์ในตอนนี้
เขาถามพักหนึ่ง จากนั้นก็ตรวจศีรษะของเปปเปอร์ การันต์พยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ดี ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่เพราะเธอยังไม่ตื่น ผมอนุญาตให้พวกคุณออกจากโรงพยาบาลก่อนเที่ยง”
เขาปิดแฟ้มคนไข้ลง ยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยขึ้น
ทำไมเปปเปอร์จะไม่รู้ว่าเขายืดเวลาการใช้ห้องคนไข้ให้ เพราะมายมิ้นท์
ถ้าเป็นปกติ เขาไม่รับไว้แน่นอน และจะพามายมิ้นท์ออกไปทันที
แต่ตอนนี้มายมิ้นท์ยังไม่ตื่น เขาจึงทำได้เพียงรับไว้
การันต์ไม่ได้อยู่ในห้องคนไข้ต่อ หลังจากทำหน้าที่ตัวเองเสร็จ ก็ออกไป
ต่อไปเขายังมีการผ่าตัดยาวนานสิบกว่าชั่วโมง จะเสียเวลาไม่ได้
หลังจากการันต์ออกไป ในห้องคนไข้ นอกจากมายมิ้นท์ที่กำลังหลับอยู่ เหลือเปปเปอร์กับผู้ช่วยเหมันตร์เพียงสองคน
ผู้ช่วยเหมันตร์มองเปปเปอร์ “ประธานเปปเปอร์ คุณดีขึ้นหรือยังครับ”
ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบว่า “ใช่ครับ เพราะคุณสลบไป เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ผมจะใช้วิธีปกติมาจัดการอุบัติเหตุบนถนนไม่ได้ ดังนั้นผมเลยคิดว่า รอให้คุณฟื้นก่อน ดูว่าคุณจะจัดการยังไง”
สีหน้าเปปเปอร์ดีขึ้นเล็กน้อย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นนายได้สืบหรือเปล่า ทำไมจู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นถึงฝ่าไฟแดง ว่ากันตามเหตุผล เธอนั่งรถเข็น เดินไม่สะดวก ต้องไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวสิ”
แน่นอนว่าเขาไม่ได้สงสัยว่าอุบัติเหตุเมื่อคืน เกิดจากการวางแผน
เพราะรถของเขา ผ่านถนนเส้นนั้นโดยกะทันหัน อีกทั้งบนถนนยังมีรถมากมาย
ถ้าเป็นการวางแผน ทำไมคนที่อยู่เบื้องหลัง ถึงควบคุมได้แม่นยำขนาดนี้ มาอยู่ด้านหน้ารถเขาพอดี
ดังนั้นเขาจึงเอนเอียงไปในทางที่ว่า เมื่อคืนเขาแค่โชคร้าย เจอคนไร้อารยะ
“ผมสืบแล้วครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า “ผู้หญิงคนนั้นนามสกุลคหบวร ชื่อพัดชา เป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่ อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เล็กจนโต เพราะผลการเรียนดีเลิศ จึงถูกส่งไปมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเกาหลี เพิ่งกลับมาจากการศัลยกรรมที่เกาหลีได้ไม่นาน”
“ศัลยกรรมงั้นเหรอ” เปปเปอร์เลิกคิ้วขึ้น
ผู้ช่วยเหมันตร์กระแอมออกมาหนึ่งที “ใช่ครับ ผู้หญิงคนนั้นไม่เพียงแค่ศัลยกรรม แถมยังเพิ่มความสูงด้วย ดังนั้นจึงนั่งรถเข็น เพราะขาของเธอยังไม่หาย ยังเดินไม่ได้ การที่เธอฝ่าไฟแดงเมื่อคืน เพราะตอนเธอข้ามถนน จะช้ากว่าคนอื่น ตอนมาถึงพื้นที่หนึ่งในสามของทางเท้า ก็เปลี่ยนเป็นไฟแดงแล้ว เธอกลับไปตรงพื้นที่รอไฟแดงไม่ได้อีก ดังนั้นจึงทำได้แค่ตรงไปข้างหน้า เลยชนเข้ากับเรา”
เปปเปอร์หยักหน้าเบาๆ “ฉันเข้าใจแล้ว ถึงเมื่อคืนเป็นอุบัติเหตุ แต่หลักๆ แล้วเธอต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ บอกเธอว่าควรชดเชยยังไง ถ้าไม่ให้ความร่วมมือ ให้แจ้งความทันที”
“ครับ!” ผู้ช่วยเหมันตร์ไม่แปลกใจ ที่เขาจัดการแบบนี้ พยักหน้าตอบรับทันที
แต่เหมือนเรื่องจะยังไม่จบ สีหน้าเปปเปอร์เคร่งขรึม “อีกอย่าง เมื่อคืนที่เธอข่มขู่ยั่วยุมายมิ้นท์ ฉันกะว่าจะปล่อยไว้”
“ประธานเปปเปอร์รู้แล้วเหรอครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ตกใจเล็กน้อย
เปปเปอร์ตอบรับ จากนั้นมองผู้หญิงที่กำลังนอนหลับข้างๆ
ผู้ช่วยเหมันตร์มองตามไปด้วย จึงรู้ว่ามายมิ้นท์เป็นคนบอกเขา
“งั้นประธานเปปเปอร์จะทำยังไงครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ละสายตา ไม่มองต่ออีก และเอ่ยถามเปปเปอร์
เขารู้ว่าคุณมายมิ้นท์เป็นยอดดวงใจของประธานเปปเปอร์ ถ้าตัวเองเอาแต่มอง ไม่โดนประธานเปปเปอร์ควักลูกตาออกมาสิถึงจะแปลก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...