เมื่อเห็นความผิดหวังบนใบหน้ามายมิ้นท์ เปปเปอร์ก็แกะกุ้งทอดน้ำมันตัวหนึ่งวางลงบนจานเธอ “ไม่ได้กินอาหารทะเลมานานแล้ว งั้นครั้งนี้ก็กินให้มีความสุข กินเยอะ ๆ เลยนะ ต่อไปนี้ขอแค่คุณอยากกิน ผมก็จะกินเป็นเพื่อนคุณทุกครั้งเลย”
พอได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม จิตใจของมายมิ้นท์ก็เกิดความซาบซึ้งขึ้นมา และยิ้มแล้วพยักหน้าขึ้นมา “ดีค่ะ นี่คุณเป็นคนพูดเองนะ พอถึงเวลาอย่ามายุ่งจนผิดคำพูดไปนะคะ”
“ไม่มีทาง” เปปเปอร์ส่ายหน้าขึ้น “อย่างมากผมก็ทำงานไปด้วยและก็กินอาหารทะเลเป็นเพื่อนคุณไปด้วย ไม่ว่าจะจัดการเอกสารหรือว่าประชุมอยู่ก็กินได้ทั้งนั้น ขอแค่คุณไม่รังเกียจ”
“พรืด” พอได้ยินชายหนุ่มสาธยาย มายมิ้นท์ก็หัวเราะจนหยุดไม่ได้ขึ้นมาทันที
“อะไรคือจัดการเอกสารหรือประชุมก็สามารถกินอาหารทะเลเป็นเพื่อนฉันได้ด้วยคะ คุณนี่ตลกมากจริง ๆ”
เป็นเรื่องตลกมากจริง ๆ ในสมองเธออดไม่ได้ที่จะปรากฏภาพเปปเปอร์นั่งอยู่ในห้องประชุม แล้วด้านล่างก็มีคนนั่งประชุมอยู่เป็นร้อยคนสิบคน ส่วนเปปเปอร์นั่งอยู่ในที่นั่งตัวเอง แล้วตรงหน้ามีอาหารทะเลวางไว้จานหนึ่ง ในขณะที่แกะกุ้งไปด้วย ก็อธิบายเนื้อหาการประชุมกับคนอื่นไปด้วย
ภาพแบบนี้ ดูยังไงก็ตลกอยู่ดี
มายมิ้นท์หัวเราะจนแทบไม่ไหว ใบหน้าก็แดงระเรื่อขึ้นมา
เปปเปอร์จ้องมองเธอ “พอแล้ว พอแล้ว หัวเราะครู่หนึ่งก็พอแล้ว อย่าหัวเราะนานเกินไป เดี๋ยวจะเจ็บกะบังลมนะ”
มายมิ้นท์พยักหน้าซ้ำ ๆ “อืม อืม ฉันรู้แล้วค่ะ”
เธอรีบสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ไปคำหนึ่ง แล้วค่อย ๆ สงบสติลง
เปปเปอร์หยิบปูขึ้นมาตัวหนึ่งมาวางลงบนจาน จากนั้นก็ใส่ถุงมือไปด้วย และพูดขึ้นมาด้วยว่า “เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้อารมณ์ดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
มายมิ้นท์เลิกคิ้วขึ้นมา “เพราะฉะนั้นที่เมื่อกี้คุณตั้งใจพูดว่าประชุมไปด้วย และกินอาหารทะเลเป็นเพื่อนฉันไปด้วย ก็เพราะอยากหยอกล้อให้ฉันดีใจเหรอคะ?”
“ก็ประมาณนั้น” เปปเปอร์ใส่ถุงมือเสร็จแล้ว ก็เริ่มเปิดกล่องใบหนึ่งออกมา ในนั้นเก็บเครื่องมือแกะปูโดยเฉพาะเอาไว้
ในใจมายมิ้นท์อบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย “แน่นอนว่าต้องขึ้นมาบ้างแล้ว เมื่อกี้ฉันหัวเราะได้ดีใจซะขนาดนั้น อารมณ์จะไม่ดีขึ้นได้ยังไง แต่ก็คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าคุณจะเป็นฝ่ายมาโอ๋ฉันให้มีความสุขเองด้วย”
“คุณเป็นแฟนผม ผมไม่โอ๋คุณแล้วจะไปโอ๋ใครล่ะ?” เปปเปอร์เงยหน้าขึ้นมามองเธอทีหนึ่ง พอพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเสร็จแล้ว ก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง แล้วเริ่มแกะปูไป
นี่เป็นครั้งแรกที่มายมิ้นท์เห็นเขาแกะปูเลยนะ
พูดตรง ๆ การแกะปูไม่ใช่เรื่องที่น่าดูเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะสำหรับคนในชนชั้นนี้แล้ว อาจจะพูดกันได้ว่าเป็นเรื่องที่หยาบคายเรื่องหนึ่ง และยังรู้สึกสกปรกและวุ่นวาย
ดังนั้นถ้าคนในแวดวงนี้จะกินปู ก็กินแต่ที่คนอื่นแกะเสร็จแล้ว จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งนั้น ส่วนใหญ่ไม่มีทางลงมือแกะเองเลย และรู้สึกว่าจะเสียภาพพจน์ กลัวคนอื่นมาหัวเราะเยาะ
แม้แต่ตัวเธอเองตอนที่กินข้าวกับคนอื่น ก็ยังไม่ลงมือแกะปูเองเลย มีแต่ในเวลาส่วนตัว ตอนที่อยู่ตัวคนเดียว หรือตอนที่ไปกินข้าวกับลาเต้ ถึงจะไม่ลงมือแกะเองแบบไม่ต้องรักษาภาพพจน์ ซึ่งปกติตอนอยู่ข้างนอกนั้นไม่มีทางแกะเองแน่
ทีแรกเธอนึกว่าเปปเปอร์ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ไม่มีทางที่จะลงมือแกะเอง แต่คิดไม่ถึงว่า ว่าเขาจะลงมือแกะปูเองอย่างเกินเหลือเชื่อ
และที่สำคัญท่าทางของเขาก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดเลย แต่กลับค่อนข้างดูสง่างาม ทำให้คนมองแล้วรู้สึกสบายตามาก
มายมิ้นท์จ้องมองตาไม่กะพริบ แล้วก็ละสายตาไม่ได้เลย
ยังไงก็แล้วแต่ คนที่สามารถทำเรื่องที่คนในแวดวงนี้ต่างก็พยายามอยู่ให้ห่างและหลีกหนีให้ไกลออกมาได้อย่างมีศิลปะและน่าชื่นชมเช่นนี้ ก็มีเปปเปอร์เป็นคนแรกนี่แหละ
สายตาที่มายมิ้นท์มองไปยังเปปเปอร์ ยังอดไม่ได้ที่จะแฝงไปด้วยแววตาแห่งความเลื่อมใส
พอเปปเปอร์สังเกตเห็น ก็เงยหน้าขึ้นมามองไปที่เธอ แล้วก็เห็นเธอจ้องมองมาที่ปูที่อยู่ในมือตัวเองแบบตาไม่กะพริบ รอยยิ้มที่คลี่ออกมาจากมุมปากก็ยิ่งเด่นชัดมากยิ่งขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ก้มหน้าลงไปอย่างรวดเร็ว และจัดการกับปูที่อยู่ในมือต่อไป แต่การกระทำกลับเร็วขึ้นมาไม่น้อย
ผ่านไปประมาณไม่กี่นาที ปูตัวใหญ่ตัวหนึ่งก็โดนเปปเปอร์แกะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เนื้อปูและไข่ปูทั้งหมด โดนวางไว้ในกระดองปู ดูเหลืองอร่าม เต็มกระดองไปหมด พอขยับ เนื้อปูและไข่ปูก็สั่นตามไปด้วย ดูไปแล้ว ช่างดึงดูดคนเป็นอย่างมาก ทำให้คนแทบจะอยากเอาช้อนตักใส่ปากเลย ความรู้สึกที่มีเนื้อปูอยู่เต็มปากแบบนั้นจะต้องทำให้คนรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากแน่
มายมิ้นท์อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย จากนั้นก็หันสายตาไปอย่างยากลำบากไม่อยากจะมองอีก
เธอกลัวว่าตัวเองมองไปมองมาแล้วจะอดใจไม่ไหว แล้วไปแย่งปูมา
ยังไงเธอก็แกะเองสักตัวดีกว่า
มายมิ้นท์วางตะเกียบลง ในตอนที่กำลังจะเอาปูมาลงมือแกะเองนั้น มือใหญ่ข้างหนึ่งก็ยื่นมา ในมือถือกระดองปูที่ใส่เนื้อปูอยู่เต็มไว้ด้วย
ในความทรงจำของเธอ เขาไม่ใช่คนที่แกะปูเป็น แล้วก็ยิ่งไม่มีทางเป็นคนที่จะมาทำเรื่องแบบนี้ได้
แต่เขากลับทำไปแล้ว แล้วก็ยังทำได้ดีมากด้วย ท่าทางที่แกะปูนั้น ไม่มีความงุ่มง่ามเลยสักนิด ดูคล่องแคล่วเป็นอย่างมาก ดูไปแล้วก็รู้เลยว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์สูง
นี่มันช่างไม่เหมือนตัวเขาเลย
เปปเปอร์ใช้มีดส้อมหั่นหอยเป๋าฮื้อตัวหนึ่งในเมนูพระกระโดดกำแพง แล้วก็ยิ้มและพูดกับมายมิ้นท์ขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ตั้งใจไปเรียนมา”
“คุณนี่ว่างจัดเหรอ ไปเรียนเรื่องพวกนี้ทำไม?” มายมิ้นท์ไม่เข้าใจ “ทักษะนี้ไม่ใช่ทักษะที่จำเป็นต้องเรียนนี่ แล้วก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อธุรกิจของคุณด้วย”
จากที่เธอดูแล้ว สิ่งที่เขาเรียนรู้มาจะต้องเป็นทักษะวิชาชีพชั้นยอดเยี่ยมทั้งนั้น แต่ไม่ใช่แค่ทักษะการแกะปูที่ธรรมดาทั่วไปแบบนี้
ถึงแม้ว่าเขาจะเรียนทำอาหารอยู่ในตอนนี้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาเรียนแกะปูโดยเฉพาะหรอกมั้ง
ทั้งสองอย่างนี้ มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงต่อกันเลย
เปปเปอร์กินเป๋าฮื้อเข้าไป แล้วก็วางมีดส้อมในมือลง จากนั้นก็เช็ดมุมปากเล็กน้อยแล้วถึงตอบกลับไปว่า “ไม่มีประโยชน์ต่อธุรกิจของผมจริง ๆ แต่ว่ามีประโยชน์ต่อความรักของผม”
เขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ในสายตาที่อ่อนโยนแฝงไว้ด้วยความรักลึกซึ้ง
พอโดนสายตาที่เปิดเผยไม่ปิดบังอะไรของเขาจ้องมาตรง ๆ ใบหูก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา มายมิ้นท์อดไม่ได้ที่จะค่อย ๆ ก้มหน้าลงไป “พูดอะไรคะเนี่ย?”
“ที่ผมพูดเป็นเรื่องจริง พอผมรู้ความชื่นชอบทั้งหมดของคุณแล้ว ก็เลยไปฝึกทักษะที่มีความเกี่ยวข้องกัน เผื่อว่าวันไหนจะสามารถเอาออกมาใช้ได้ จะได้มีเรื่องคุยกับคุณ อย่างเช่นการแกะปูในครั้งนี้ พอผมรู้ว่าคุณชอบกินอาหารทะเลแล้ว ก็เลยตั้งใจไปเรียนการแกะปูมา เผื่อว่าตอนกินอาหารทะเลกับคุณ จะได้ช่วยคุณแกะปูได้ คุณจะได้ไม่ต้องลงมือแกะเอง ก็มีกินเนื้อปูที่ดีที่สุดกินแล้ว”
“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง” น้ำเสียงของมายมิ้นท์สั่นเครือ แน่นอนว่าความสั่นไหวในใจนั้นไม่ต้องบอกรู้ว่าเป็นยังไง
โดนทำให้ซาบซึ้งไปแล้ว
ก่อนหน้านี้เธอก็พอเดาออกแล้ว ว่าลับหลังเธอ ผู้ชายคนนี้จะต้องแอบไปทำเรื่องอะไรเพื่อเธออยู่แน่นอน แล้วปรากฏว่า แม้แต่เรื่องแกะปู เขาก็ยังไปเรียนมา เพียงเพื่อวินาทีนี้เท่านั้น ทำให้คนรู้สึกว่าไม่รู้จะพูดอะไรแล้วจริง ๆ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...