รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 807

“ไม่งั้นคุณจะทำไม?” เยี่ยมบุญหน้าดำคร่ำครึตัดบทเธอ“หรือเธอจะฆ่าพวกเรา?”

มายมิ้นท์ขมวดคิ้วมุ่น จากนั้นก็หัวเราะ“ไม่ฆ่าพวกคุณหรอก มันจะเปื้อนมือฉันเปล่า ๆ แต่จะใช้วิธีอื่นทำให้พวกคุณฆ่าก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ เยี่ยมบุญ”

ทันใดนั้นเธอก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ก่อนจะกดเสียงต่ำเอ่ยอย่างเย็นยะเยือกว่า “ฉันรู้หมดแล้วว่าคุณให้ดารามายกับลำดวนวางยาพ่อฉัน และยังรู้เรื่องชั่ว ๆ ที่คุณเคยทำด้วย ถ้าฉันได้หลักฐานเมื่อไหร่ คุณหนีไม่พ้นโทษประหารแน่”

เยี่ยมบุญได้ยินประโยคนี้ดวงตาก็หดเกร็ง ใบหน้าซีดเซียวในบัดดล

เขาจ้องมายมิ้นท์ด้วยแววตาตะลึงงัน คล้ายกับจะถามว่าเธอรู้ได้ยังไง

มายมิ้นท์แค่แสยะยิ้มกลับ ไม่ได้ตอบ ถือเค้กออกจากร้านเบเกอรี่

เยี่ยมบุญมองแผ่นหลังเธอด้วยแววตาน่าสะพรึงกลัว

หลายปีก่อน เขายัดเงินให้ลำดวนสองแม่ลูก ให้สองแม่ลูกชั่วช้าลงยาพิษใส่ไตรภูมิ ซึ่งเขาเก็บเป็นความลับสุดยอด เขาไม่แม้แต่จะบอกคนข้างกายด้วยซ้ำ

เขาคิดว่าชาตินี้จะไม่มีใครรู้

ทว่ากลับคาดไม่ถึงว่าเขาถูกตบหน้าอย่างจัง จู่ ๆ มายมิ้นท์ก็รู้ขึ้นมา

เป็นเพราะคนโง่เขลาเบาปัญญาอย่างดารามายบอกเธอหรือเปล่า?

ไม่ ไม่น่าจะใช่

ถ้าดารามายบอกว่าตัวเองวางยาใส่ไตรภูมิ มายมิ้นท์ต้องไม่ปล่อยดารามายไปแน่

ดังนั้นดารามายคงไม่โง่ขึ้นขั้นนั้นหรอก

ต้องเป็นคนอื่นที่บอกมายมิ้นท์แน่

สำหรับเรื่องคนที่บอก......

เยี่ยมบุญหรี่ตาขึ้น ความโหดเหี้ยมปะทุออกมาด้านดวงตา

เขาต้องลากตัวคนนี้ออกมาให้ได้ จากนั้นก็ฆ่าปิดปากเสีย จะไม่ได้ไม่เป็นภัยต่อตนในวันหน้า

“เยี่ยมบุญคิดอะไรอยู่? ทำไมทำหน้าน่ากลัวอย่างนี้?” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เห็นใบหน้าน่ากลัวของเยี่ยมบุญก็สะดุ้งตกใจ

เยี่ยมบุญกะพริบตารัว ๆ เพื่อเก็บความอำมหิตไว้ กลับมาทำหน้าสงบนิ่งอีกครั้ง แล้วส่ายหัวให้ภรรยา “ไม่มีไร”

ผู้เป็นภรรยาเห็นเขาไม่พูดก็ไม่ได้ถามซักไซ้ หลุบตากล่าวอย่างหดหู่ใจว่า “เยี่ยมบุญ คุณว่าทำไมข้อมือของมายมิ้นท์ถึงไม่มีไฝแดง?”

“คุณหมายความว่ายังไง?” เยี่ยมบุญย่นคิ้วมองเธอ“คุณอยากให้เธอเป็นชวนชมเหรอ?”

“ไม่ ไม่ ไม่” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์รีบส่ายหน้าพร้อมกับสะบัดมือ“ไม่ใช่แน่นอน เพียงแต่มายมิ้นท์เหมือนชวนชมมาก วันที่ถูกเก็บมาเลี้ยงเป็นวันที่สามหลังจากไตรภูมิขโมยชวนชมไปพอดี และโครงหน้าของมายมิ้นท์ยังเหมือนกับคุณแม่คุณมาก และรอยแผลที่มีตำแหน่งเดียวกับไฝแดงอีก ถ้าไม่ให้ฉันสงสัยว่าเธอคือชวนชม มันคงยากหน่อย สิ่งสำคัญที่สุด เมื่อกี้คุณก็เห็นแล้วนี่?เธอชอบกินเค้กรสโกศจุฬาลัมพา!”

เธอจัดแจงคอเสื้อของเยี่ยมบุญ ก่อนจะเผยรอยยิ้มละมุนละไม พูดอย่างตื่นเต้นว่า “เธอชอบกินเค้กรสนี้ด้วยนะ เค้กชนิดนี้จะมีรสชาติขม ไม่ค่อยมีคนชอบกินเท่าไหร่ แต่ฉันชอบกิน ชวนชมที่อยู่ในบ้านไม่ชอบกิน มันทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังที่ลูกสาวฉันไม่ชอบเหมือนฉัน แต่มายมิ้นท์ที่มีความคล้ายชวนชมกลับชอบกิน มันทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ”

ยิ่งไปกว่านั้น ยังรู้สึกเบิกบานใจเมื่อเห็นหน้ามายมิ้นท์อย่างแปลกประหลาดอีกด้วย

เห็นรอยยิ้มของภรรยา นัยน์ตาเยี่ยมบุญก็มืดครึ้ม

พูดถึงมายมิ้นท์แล้วมีความสุขจังเลยนะ

ภรรยาของเขาไม่อยากให้มายมิ้นท์เป็นชวนชมจริง ๆ เหรอ?

เยี่ยมบุญถอนหายใจ ตบหลังมือคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์“พอแล้ว ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว คุณพูดเยอะขนาดไหน มายมิ้นท์ก็ไม่ใช่ชวนชมอยู่ดี ตอนนี้ชวนชมกลับมาอยู่กับพวกเราแล้ว ถึงมายมิ้นท์จะคล้ายชวนชมมากแค่ไหน แต่ก็เป็นของปลอม แค่บังเอิญเท่านั้น ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงรู้สึกว่ามายมิ้นท์คือชวนชม รู้สึกจนลืมไปว่าชวนชมกลับมาอยู่กับพวกเราแล้ว สรุปแล้ว คุณทำแบบนี้ไม่ถูก ครั้งก่อนคุณทำร้ายจิตใจชวนชมไปหนหนึ่งแล้ว ถ้าทำให้เสียใจอีก ชวนชมคงมีอคติกับคุณแน่”

คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไม่ได้พูด

เธอรู้ว่าตัวเองคิดแบบนี้ไม่ถูก

ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด ทุกครั้งที่เจอหน้ามายมิ้นท์ เธอก็รู้สึกเป็นห่วงเป็นใยอย่างแปลกประหลาด คิดอย่างเดียวว่ามายมิ้นท์ก็คือชวนชม

บางครั้งเธอยังรู้สึกว่ามายมิ้นท์เหมือนชวนชมกว่าชวนชมที่อยู่กับพวกเธอตอนนี้เสียอีก

มายมิ้นท์มีความคล้ายชวนชมหลายจุด ทั้งเวลาที่ปรากฏตัว และชอบรสเดียวกับเธอ ทั้งยังมีใบหน้าคล้ายกับแม่สามีเธออีก สุดท้ายยังมีจุดพิเศษที่ข้อมือเหมือนชวนชมอีกด้วย

ส่วนชวนชมที่อยู่ข้างกายเธอ ไม่มีความเหมือนเลยสักนิด

ดังนั้นห้ามไปคิดเด็ดขาด

มายมิ้นท์กัดริมฝีปากล่างของตัวเอง

ห้ามคิดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์อีก

ช่วงนี้อีกฝ่ายมีผลกระทบต่อเธอมากเกินไปแล้ว

ดังนั้น ขอเน้นย้ำอีกรอบว่าห้ามนึกถึงบุคคลนี้อีก ยิ่งไม่ควรใส่ใจบุคคลนี้ ไม่งั้นผลลัพธ์จะน่ากลัวยิ่ง

ใจเย็น ต้องใจเย็น ๆ

มายมิ้นท์กดฝ่ามือตัวเอง ฝืนบังคับไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่านต่อไป ให้ตัวเองสงบสติอารมณ์

ทว่าถึงจะผ่านไปนานเพียงใด ภายนอกมายมิ้นท์จะเย็นสงบแล้ว ทว่าในใจกลับรู้สึกหนักอึ้งเหลือแสน

กระทั่งกลับมาถึงคอนโดพราวฟ้าอารมณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น

เปปเปอร์กลับมาตอนใกล้เที่ยงคืนแล้ว

เขาคิดว่าเวลานี้มายมิ้นท์น่าจะหลับแล้ว ดังนั้นตอนเข้าไปจึงเดินเบา ๆ กลัวจะกลายเป็นเสียงรบกวน ปลุกให้เธอตื่น

จวบจนเปปเปอร์เปลี่ยนรองเท้าเสร็จแล้วเปิดไฟในห้องรับแขก เขาก็เห็นมายมิ้นท์นั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟา เขาเลยอดสะดุ้งโหยงไม่ได้

ทว่าเปปเปอร์ปรับอารมณ์ได้เร็วเกินคาด

เขาก้าวขายาวของตัวเองไป เลิกคิ้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ทว่าเวลาเดียวกันกลับเจือความเป็นห่วงอย่างกลบเกลื่อนไม่ได้ “ทำไมดึกขนาดนี้แล้วยังไม่นอนอีก?”

มายมิ้นท์ไม่ตอบ คล้ายกับไม่ได้ยิน เอาแต่แน่นิ่งอยู่อย่างนั้น

เปปเปอร์เห็นพลันชะงักท่าดึงเนคไท ก้มหน้าสำรวจเธอโดยละเอียด

เขาจึงจะรู้ว่าเธอกำลังเหม่อลอยอยู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว