เมื่อได้ยินคำเตือนจากเปปเปอร์ มายมิ้นท์ก็ให้ความสำคัญขึ้นมาแล้วพยักหน้าตอบรับ “ค่ะ วางใจเถอะนะคะ ฉันจะบอกคุณ”
แม้แต่เปปเปอร์ก็ยังไม่เคยเห็นเกรียงไกร เธอเองยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ไม่รู้ว่านิสัยของเกรียงไกรเป็นเช่นไร เขาจะเป็นคนดีหรือเป็นคนไม่ดีนะ?
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย หากว่าเกรียงไกรติดต่อมาที่เธอ เธอก็ควรจะบอกเปปเปอร์
เนื่องจากการที่ต้องเผชิญหน้ากับบุคคลอันตรายเช่นนี้ เธอไม่กล้าที่จะเผชิญหน้าเพียงลำพัง
จากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก มายมิ้นท์นั่งรับประทานอาหารเช้าของเธอเงียบๆ ส่วนเปปเปอร์นั่งอยู่เป็นเพื่อนเธอด้านค้าง เขาตักอาหารให้เธอเป็นบางครั้งคราว
เปปเปอร์มองไปทางมายมิ้นท์ที่รับประทานอาหารซึ่งเขาป้อนให้อย่างมีความสุขและเคี้ยวแก้มตุ่ย เขารู้สึกว่าช่างน่ารักจริงๆ ดวงตาของเปปเปอร์มองไปแล้วพอจะเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงชอบเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกันจัง
“คุณคิดอะไรอยู่คะ?” ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากแววตาของชายหนุ่มที่มองมา มายมิ้นท์หรี่ตาสีน้ำตาลดำของเธอคู่นั้น แล้วมองไปยังชายหนุ่มอย่างสงสัย “ฉันรู้สึกว่าคุณไม่ได้คิดเรื่องดีแน่”
ดวงตาของเปปเปอร์กระชับขึ้นเล็กน้อย เขาระงับความคิดในใจลงไป ก่อนจะตอบอย่างเรียบง่ายว่า “ไม่มีอะไรครับ คุณคิดมากไปเอง รีบทานเถอะเดี๋ยวจะเย็นหมด”
มายมิ้นท์ได้แต่กลอกตามอง
เดี๋ยวจะเย็นหมดอย่างงั้นเหรอ?
มันยังร้อนขนาดนี้......
ประโยคของเขาฟังดูก็รู้ว่ากำลังเปลี่ยนเรื่องสนทนา
เธอมั่นใจได้เลยว่าเขามีเจตนาไม่ดีอย่างแน่นอน
นอกจากสายตาของเขาที่จ้องเธอดูเหมือนว่าจะกินเธอเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น คงจะคิดถึงเรื่องลามกอีก
ใช่ว่าเขาไม่เคยทำมันมาก่อน
เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้มายมิ้นท์ก็หน้าแดงเรื่อแล้วรีบก้มหน้าลง ไม่ให้ชายหนุ่มรู้ถึงความคิดของเธอ
ไม่อย่างนั้นผู้ชายคนนี้คงจะได้คืบเอาศอกและจินตนาการไปเองว่าเธอคิดถึงเรื่องเหล่านั้นหมายความว่าเธอต้องการ และเขาก็จะทำให้มันเป็นจริง
สรุปแล้วก็คือผู้ชายคนนี้ทำเรื่องเหล่านั้นได้อย่างแน่นอน
มายมิ้นท์กระแอมออกมาสองสามทีแล้วส่ายหน้า ก่อนจะจัดการความคิดยุ่งเหยิงในหัวใจออกไปแล้วรับประทานอาหารอย่างจริงจัง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็เดินทางออกจากบ้านเตรียมตัวไปสถานีตำรวจ
แต่ระหว่างทางมายมิ้นท์ได้รับโทรศัพท์จากทามทอย
ผู้ช่วยเหมันตร์ขอให้ทามทอยออกมารับหน้าติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตนเองเพื่อสืบถึงตัวตนของพัดชา ความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอนว่าไม่อาจปิดบังทามทอยได้
ทามทอยต้องการจะสืบด้วยตนเองอย่างชัดเจนว่าเรื่องของพัดชาเป็นไปมาอย่างไร
ดังนั้นเขาจึงได้โทรศัพท์มาหามายมิ้นท์
ตอนที่เปปเปอร์กำลังขับรถอยู่ เขาโมโหมากเมื่อได้ยินว่าเป็นสายจากทามทอย
เนื่องจากว่าเขาคือคนที่ไปหาทามทอยให้มาช่วย จากเหตุผลแล้วเมื่อทามทอยรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ควรจะบอกกับผู้ช่วยเหมันตร์
แต่ทามทอยไม่ได้ทำเช่นนั้น ในทางตรงกันข้ามเขามองข้ามผู้ช่วยเหมันตร์และมองข้ามตนมาติดต่อกับมายมิ้นท์โดยตรง
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการที่จะใช้โอกาสนี้คุยกับมายมิ้นท์
แผนการโง่เง่าแบบนี้ใครจะไม่รู้กัน
หากไม่ใช่เพราะมายมิ้นท์ห้ามเอาไว้ เขาคงจะแย่งโทรศัพท์มือถือของเธอมาแล้ววางสายทามทอยไปเสีย
โทรศัพท์หาผู้หญิงของเขาต่อหน้าต่อตา คิดจะท้าดวลกับเขาหรืออย่างไร?
ยอดเยี่ยมมากทามทอย คุณกระตุ้นความโมโหของผมได้สำเร็จแล้ว
ดวงตาทั้งคู่ของเปปเปอร์หรี่ลงแฝงไปด้วยความอันตรายเยือกเย็น
มองดูแล้วเขาคงต้องหาเรื่องให้ทามทอยทำสักหน่อย ไม่อย่างงั้นก็คงจะเอาแต่จับตามองผู้หญิงของคนอื่นอยู่เรื่อย
เปปเปอร์ขับรถไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม สายตาเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างคนขับและกำลังโทรศัพท์เป็นครั้งคราว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรศัพท์มือถือในมือของหญิงสาว เขาแทบรอไม่ไหวที่จะไปแย่งมันออกมาแล้วปาทิ้ง
มายมิ้นท์สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของชายหนุ่มและความหึงหวงของเขา ตอนนี้ภายในรถเต็มไปด้วยบรรยากาศความหึงอย่างรุนแรง
เธอหันไปมองทั้งเขาด้วยความขุ่นเคือง “ฉันยังไม่สนใจคุณอีกเหรอ? ตั้งแต่ตอนที่คุณเริ่มหึงหวงฉันก็สังเกตเห็นแล้ว ถ้าไม่ใช่กลัวว่าคุณจะโมโหเสียจนระเบิดตายไปเสียก่อน ฉันจะวางสายทามทอยเร็วแบบนี้เหรอคะ? ฉันยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลยด้วยซ้ำ”
“ขอบคุณเขาเรื่องอะไร?” เปปเปอร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน
มายมิ้นท์กลอกตามอง “คุณให้ทามทอยใช้ความสัมพันธ์ของเขาไปสืบเรื่องของพัดชา ในเมื่อคุณไม่ขอบคุณเขา ฉันก็ควรจะขอบคุณเขาไม่ใช่หรือไงคะ เพราะนี่เดิมที่เป็นเรื่องที่คุณต้องทำ แต่คุณล่ะ กลับหึงหวงไม่เข้าเรื่อง”
เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ เปปเปอร์ไม่เพียงเพิกเฉยแต่ยังพูดด้วยความเย็นชาว่า “ถ้าทามทอยอยากจะรู้รายละเอียด เขาติดต่อผมก็ได้ แต่เขากลับติดต่อคุณโดยตรง นั่นหมายความว่าเขาคิดไม่ดีอยู่ ผมจะไปขอบคุณเขาทำไม?”
ขอบคุณบ้าบอน่ะสิ!
เขาไม่จัดการกับทามทอยก็นับว่าใจดีเหลือเกินแล้ว
มายมิ้นท์มองไปทางชายหนุ่มที่ทำสีหน้าบึ้งตึงแล้วได้แต่ส่ายหัว “เขาจะมีจุดประสงค์อะไรได้อีกล่ะคะ?”
เปปเปอร์ไม่ได้พูดอะไรออกมา
จะให้เขาพูดยังไงล่ะ จะให้บอกกับคนรักของตนเองว่าทามทอยคิดจะมีความสัมพันธ์อื่นกับผู้หญิงของเขาเหรอ
เพียงแค่เขาคิดอยู่ในใจก็แทบจะโมโหตายอยู่แล้ว จะให้พูดออกมาหรือไง?
เมื่อเห็นว่าเปปเปอร์ไม่ส่งเสียงใดออกมา มายมิ้นท์ก็ไม่อยากจะเค้นเขาว่าคิดอะไรอยู่ เธอพูดเบาๆ ว่า “เอาล่ะค่ะ คราวหน้าไม่ต้องทำตัวขี้หึงแบบนี้อีกนะคะ ตอนนี้ฉันคบกับคุณแล้ว ถ้าฉันคุยกับผู้ชายคนอื่นก็เพียงเพราะมีเรื่องธรรมดาไม่ได้มีอะไรมากหรอก อีกอย่างฉันก็เปิดลำโพงต่อหน้าคุณ คุณยิ่งไม่จำเป็นต้องหึงหวงอะไร เเล้วก็ผู้ชายในโลกใบนี้มีตั้งมากมาย ฉันจะหลีกเลี่ยงไม่พูดคุยกับพวกเขาได้ยังไงคะ จะให้ฉันหลีกเลี่ยงไม่สัมผัสพบเจอกับพวกเขาเลยเหรอ”
นอกจากว่าขังเธอเอาไว้ในคุกตลอดชีวิต
แต่เขากล้าทำแบบนั้น?
เปปเปอร์ได้ยินคำพูดของมายมิ้นท์สีหน้าก็คลายกังวลขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงไม่ได้พูดอะไรออกมา
ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้เรื่องที่เธอคุยกับคนอื่นเป็นเรื่องปกติไม่มีอะไร
เพียงแต่ว่าสิ่งที่เขาสนใจก็คือผู้ชายคนที่เธอพูดด้วยนั้นมีความคิดกับเธอไม่ธรรมดา
ซึ่งหากว่าคนที่พูดกับเธอในโทรศัพท์เป็นชายแปลกหน้าเขาคงไม่มีปฏิกิริยามากขนาดนี้
มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ รู้เพียงว่าเขายังคงหึงหวงจึงได้ถอนหายใจออกมาแล้วยิ้มขึ้น “เอาล่ะค่ะ อย่าได้อารมณ์เสียไปเลย ดูสิคะตอนนี้ฉันเองก็เกลี้ยกล่อมคุณแล้ว ตอนที่ฉันรู้ว่าคุณหึงหวงฉัน ฉันก็รีบจบสายสนทนากับทามทอยเลย แล้วมาเกลี้ยกล่อมคุณ ถ้าคุณยังไม่พอใจอีกล่ะก็คงจะได้คืบเอาศอกเกินไปแล้วและฉันก็จะโมโหอย่างแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...