มายมิ้นท์เบ้ปากเล็กน้อย
เธอเคยเจอคนโง่ แต่ไม่เคยเจอคนโง่ขนาดนี้
จริงๆเลยผู้หญิงคนนี้ ไม่นึกว่าจะยังไม่รู้ตัวอีก คำพูดที่ตัวเองพูดไปเมื่อกี้ ล่วงเกินคนอื่นขนาดไหน
ดังนั้นถ้าผู้หญิงประเภทนี้ ไม่น่ารังเกียจใครจะน่ารังเกียจล่ะ?
มายมิ้นท์จ้องมองพัดชาอย่างเยาะเย้ย “เธอด่าพวกเขาขี้ขลาด แล้วเธอคิดว่าเธอไม่ได้ล่วงเกินพวกเขางั้นเหรอ?”
เฮ้อ เธอก็ใจอ่อนตลอดเลย
ไม่งั้นคงไม่เตือนพัดชาขึ้นมาหรอก
ได้ยินมายมิ้นท์เตือนสติ สีหน้าของพัดชาจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในที่สุดก็รู้ตัวสักทีว่า ทำไมจู่ๆตำรวจพวกนั้นถึงได้ออกไป
เป็นเพราะคำพูดของตนเองอย่างนั้นเหรอ?
พัดชามองประตูที่พวกตำรวจเดินออกไป แล้วก็มองมายมิ้นท์ที่อยู่ตรงหน้า กับเปปเปอร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านข้างอย่างสบายอกสบายใจ ตัวสั่นเทิ้มมากขึ้น
ไม่ได้กลัว แต่กำลังโกรธต่างหาก
ตำรวจพวกนั้น รู้ๆอยู่ว่าสองคนนี้มีจุดประสงค์ร้ายต่อเธอ ไม่นึกว่ายังจะทิ้งเธอไว้ในนี้คนเดียวอีก แปลกใจจริงๆที่พวกเขาเป็นตำรวจ!
ต่อให้เธอจะพูดผิดไป จี้จุดที่เจ็บปวดของพวกเขาแล้วมันยังไงล่ะ?
เธอพูดผิดหรือไง?
เธอพูดไม่ผิดเลย เดิมทีพวกเขาก็แค่คนขี้ขลาด ป้องกันอะไรไม่ได้เลย!
ที่น่าขำก็คือ หลังจากที่เธอพูดออกไป ไม่นึกว่าพวกเขายังจะออกไปจากที่นี่ด้วยท่าทีที่แสร้งทำเป็นไม่พอใจอีก
นี่พวกเขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่ คอยห้ามปรามมายมิ้นท์กับเปปเปอร์ เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดจริงๆงั้นเหรอ?
แต่พวกเขาดันไม่ทำเช่นนั้นไง ในทางตรงกันข้ามพวกเขากลับคิดเล็กคิดน้อยกับประชาชนอย่างเธอ พวกเขาคู่ควรที่จะสวมชุดนั้น คู่ควรที่จะเป็นตำรวจงั้นเหรอ?
เห็นพัดชาโมโหจนหอบหายใจ ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำท่าทางราวกับอยากจะกินคน มายมิ้นท์จึงไม่ต้องคิดมาก ก็รู้แล้วว่าพัดชากำลังคิดอะไรอยู่
ผู้หญิงคนนี้ แม้เธอจะเคยเจอแค่สองสามครั้ง แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอถึงรู้สึกว่าตนเองคุ้นเคยกับผู้หญิงคนนี้มากๆ
ผู้หญิงคนนี้เป็นคนประเภทที่ชอบคิดว่าตนเองไม่เคยผิด คนที่ผิดคือคนอื่น ยิ่งไปกว่านั้นทุกๆคนควรจะสรรเสริญเยินยอเธอ สนับสนุนเธอ
ถ้ามีคนคิดว่าเธอมีความผิด ไม่สรรเสริญเยินยอเธอ ไม่สนับสนุนเธอ ไม่ช่วยเหลือเธอ นั่นก็เป็นความผิดของโลกใบนี้ ไม่ใช่ความผิดของเธอ เป็นโลกใบนี้ที่ต้องขอโทษเธอ
พูดง่ายๆ เหมือนส้มเปรี้ยวสุดๆเลย
นึกถึงส้มเปรี้ยว แววตาของมายมิ้นท์จึงประกายความเกลียดชังออกมา
ส้มเปรี้ยวทำลายความรักช่วงหนึ่งของเธอ ทำลายงานแต่งงานของเธอ ถึงขั้นเกือบจะทำลายชีวิตของเธอหลายต่อหลายครั้ง
ต่อให้เธอจิตใจดีกว่านี้ ก็จนปัญญาที่จะยอมให้ส้มเปรี้ยวมีชีวิตอยู่ เธอถึงกับเคยสาบานด้วยซ้ำ ถ้าได้เจอตัวส้มเปรี้ยว เธอจะไม่ปล่อยให้ส้มเปรี้ยวรอดไปได้เด็ดขาด
การกระทำหลายๆครั้งที่ส้มเปรี้ยวต้องการจะเอาชีวิตของเธอ มันเพียงพอที่จะทำให้ส้มเปรี้ยวโดนตัดสินประหารชีวิตแล้ว
แค่ไม่รู้ว่า ตอนนี้ส้มเปรี้ยวอยู่ที่ไหนกันแน่!
มายมิ้นท์ชำเลืองมองพัดชา ในใจรู้สึกว่าดวงซวยจริงๆ
แรกเริ่มเดิมทีที่ได้ประสบพบเจอกับคนใจบาปอย่างส้มเปรี้ยว เธอก็คิดว่าตนเองคงใช้ความโชคร้ายทั้งหมดจนไม่เหลือแล้ว
แต่ตอนนี้ได้เจอกับส้มเปรี้ยวหมายเลขสองอย่างพัดชา เธอจึงได้รู้ว่า ความโชคร้ายของตนเองยังไม่หมดไป
เธอถึงกับสงสัยว่า ตนเองมีระบบดึงดูดคนชั่วมาตั้งแต่เกิดหรือเปล่า ทำไมรอบๆกายถึงเต็มไปด้วยคนชั่วร้ายขนาดนี้?
แต่แน่นอนว่า ก็มีระบบดึงดูดบุคคลที่มีอำนาจวาสนาเช่นกัน ไม่งั้นจะมีคนคอยช่วยเหลือเธอเยอะแยะอย่างนี้ได้ยังไง?
คิดๆแล้ว อารมณ์ของมายมิ้นท์ก็ดีขึ้นเล็กน้อย บนใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ
แต่ทว่าพัดชาที่ได้เห็นรอยยิ้มนี้ กลับกลายเป็นการยิ้มเยาะใส่ตนเอง
มายมิ้นท์กำลังยิ้มเยาะให้กับความโง่ของเธอ ที่ล่วงเกินคนพวกนั้นที่สามารถช่วยเหลือเธอได้เพียงกลุ่มเดียวไปจนหมดแล้ว
แต่ต่อให้เธอจะผิดใจกับคนพวกนั้นไปจนหมด แล้วมันจะเป็นยังไงล่ะ?
มายมิ้นท์มีสิทธิ์อะไรมายิ้มเยาะเธอ!
“หุบปาก ห้ามยิ้มนะ ห้ามยิ้ม!” จู่ๆพัดชาก็โวยวายขึ้นมา ถลึงตาที่เต็มไปด้วยความดุดันไปที่มายมิ้นท์ คำรามออกมาด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
เหมือนอย่างตอนดารามาย หลังจากที่อดกลั้นมานานแล้ว ก็จับโยนเข้าคุกทันทีโดยที่ไม่แยแสอีกเลย แตกต่างจากที่ทำกับพัดชา ตอนนี้ยังหยอกเย้าพัดชาอยู่อีก
เขาไม่รู้ว่าที่เธอทำอย่างนี้มันเพราะอะไรกันแน่
แต่เขาจะถือว่า เธอเกลียดพัดชามากเกินไปถึงได้ทำอย่างนี้
ส่วนสิ่งที่เธอต้องการจะทำ เพียงแค่มันไม่พัวพันกับอันตราย เขาก็สนับสนุนทั้งนั้น สนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไข
นอกจากนั้น ท่าทีของเธอตอนที่หยอกเย้าพัดชา ช่างสดใสเบิกบานดีจริงๆ ดูแล้วร่าเริงกว่าเวลาปกติซะอีก
งั้นเขาก็ยิ่งสนับสนุนเลย
ถึงยังไงพัดชาผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่คนดีอะไรด้วย ให้เธอได้หยอกเล่นบ้าง ก็ถือเป็นความคุ้มค่าของชีวิตพัดชาแล้วนะ
เปปเปอร์นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงนั้น มือข้างหนึ่งยันหัวเอาไว้ มืออีกข้างวางอยู่บนที่วางแขนของเก้าอี้ มุมปากแสยะยิ้ม ช่างเหมือนกับกษัตริย์ที่กราดสายตามองเหล่าสัตว์โลกเหลือเกิน
แต่สายตาที่เขามองมายมิ้นท์ กลับทำให้เขาเหมือนอัศวินคนหนึ่งมากๆ
แน่นอนว่ามายมิ้นท์ก็รู้สึกได้ถึงสายตาของชายหนุ่มที่มองตนเอง สายตาที่ลุ่มหลงจนแทบจะละลายออกมาเป็นน้ำอยู่แล้ว
เธอหันกลับไปยิ้มให้ชายหนุ่มเล็กน้อย บอกให้ชายหนุ่มรู้ว่า ตนเองก็สนใจเขาอยู่ตลอดนะ ไม่ได้มัวแต่หยอกเย้าพัดชา จนลืมเขาทิ้งไว้ข้างหลัง
อันที่จริง เธอก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ขี้หึงมากขนาดไหน
ไม่เพียงแต่ผู้ชาย ผู้หญิงเขาก็หึงได้เหมือนกัน
อย่างที่คิดเลย พอเห็นมายมิ้นท์หันกลับมามองตนเอง ก็ไม่ต้องบอกเลยว่าเปปเปอร์อารมณ์ดีขนาดไหน
มายมิ้นท์ราวกับเห็นว่ามีหางส่ายไปส่ายมา อยู่ที่ด้านหลังของเขาไม่หยุด เหมือนกับหมาตัวใหญ่อย่างนั้นเลย
หลังจากส่ายๆหน้าหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้แล้ว มายมิ้นท์ก็หันหน้ากลับไปทันที สายตาตกไปที่ร่างของพัดชาอีกครั้ง
พัดชาไม่ได้ใส่ใจปฏิกิริยาที่มีต่อกันของเธอกับเปปเปอร์เมื่อกี้เลย ควรจะบอกว่า เทียบกับการยิ้มเยาะเมื่อกี้ของมายมิ้นท์แล้ว ปฏิกิริยาพวกนั้นไม่มีผลอะไรเลยต่างหาก
“มายมิ้นท์! มายมิ้นท์!” พัดชาบีบมือทั้งคู่ไว้แน่น ตะโกนชื่อของมายมิ้นท์ออกมา
มายมิ้นท์ได้ยินความเกลียดชังในน้ำเสียงของเธอ ความรู้สึกบนใบหน้าจึงค่อยๆสลายหายไป จนเรียบเฉยไร้ความรู้สึกในที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...